คือตอนนี้ ชอบมีสลิ่มมาพูดว่า บ้านเมืองต้องมีการถ่วงดุล อย่าให้ทักษินกินรวบ
- ผมงงผมเลยถามสลิ่มว่า อะไรคือการถ่วงดุล
- สลิ่มทำหน้าเซ็ง แล้วก็อธิบายให้ผมฟังว่า ประชาธิปไตย ต้องมี 3 ฝ่าย บริหาร นิติบัญญัติ ตุลาการ 2 ฝ่ายเป็นของทักษินแล้ว
เหลือ แต่ตุลาการ ต้องให้ค้านอำนาจ อีก 2 ฝ่าย
- ผมยิ่งงงเข้าไปอีก ( เพราะผมโง่ ) ผมเลยถามว่า คานอำนาจยังไง
- อ้าวตุลาการ ก็ต้อง คอยขัดขวางการออกกฏหมาย ขัดขวางการบริหาร ของ รัฐบาล ดิ ไอ้พวก ควายแดง มันโง่ มันไม่รู้เรื่อง
การคานอำนาจเลย เอาแต่ประท้วง ชุมนุม อย่างว่าพวกด้อยการศึกษา ขี้เกียจอธิบาย
- ผมฟังสลิ่มแล้ว ผมเลยถามว่า ถ้าขี้กี้อธิบาย งั้นช่วยรับฟังผมอธิบายได้ไหม
"การคานอำนาจที่ผมรู้มา ระหว่าง 3 ฝ่ายได้แก่ บริหาร นิติบัญญัติ ตุลาการ ให้ทำหน้าของแต่ละฝ่าย ไม่ก้าวก่ายกัน
คือ 1. ฝ่ายบริหาร ก็บริหาร ตามที่กฎหมายให้อำนาจ
2. ฝ่ายนิติบัญญัติ ก็มีหน้าที่ ออกกฏหมาย แต่ไม่มีหน้าที่ตัดสิน ไม่มีหน้าที่บริหาร
3. ฝ่ายตุลาการ คือ เป็นผู้ตัดสิน ไม่มีหน้าที่ ออกกฏหมาย ไม่มีหน้าที่บริหาร
เปรียบประเทศ เป็น เหมือนบ้าน ที่มี เสา 3 ต้น เป็น เสาค้ำยัน แต่ละเสาก็ทำหน้าที่ของตน เป็นเส้นขนานไม่ก้าวก่ายกัน แต่เป็นทิศทางเดียวกัน คือรับแรงตามแนวตั้ง เพื่อ รองรับประเทศชาติบ้านเมือง แต่ละเสาก็ทำหน้าที่ของตน แบบนี้เขาเรียกการคานอำนาจ
ไม่ใช่เป็นตุลาการ แต่ไปยุ่ง เรื่องออกกฏหมาย ไปยุ่งเรื่องบริหาร แบบนี้ ไม่ใช่การคานอำนาจ แต่ มันคือ การก้าวก่าย ขัดแข็งขัดขา ถ้าจะคานอำนาจ ตุลาการ ก็ทำหน้าที่ของตัวเองไป ตัดสินให้มันยุติธรรม ตามกฏหมายที่มี ไม่ใช่ไปเพิ่มเติมเอง เช่น ไปเพิ่มคำว่า อาจจะ แล้วก็ไปยุ่งเรื่องบริหาร ไปใช้จิตนาการ ว่าจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วไป

เรื่องการออกกฏหมาย แบบนี้ไม่ใช่ คานอำนาจ แต่จะ รวบอำนาจไว้เอง ( และที่หน้าเกียจ คือ ตลก ชุดนี้มันมาจาก หมา 7 ตัว แต่

จะรวบอำนาจ คนไทย 70 ล้าน )
ถ้าคุณสลิ่มยังนึกภาพไม่ออก ว่าบ้านเมืองจะ

กับการกระทำแบบนี้ยังไง รบกวนคุณ สลิ่มใช้ จินตนาการอันบรรเจิด มามองความจริงแล้วนึกตาม ว่าบ้านเมือง ที่มี 3 เสา รับแรงในแนวตั้ง แต่มีเสาหนึ่ง เกิด

เขาทุกเรื่อง หันหัวเสาไป ทางเสาต้นอื่น มันจะเกิดอะไรขึ้น บ้านเมืองมันก็เอียง ก็ระสำระสาย เพราะเสาที่เอียงมันใช้ไม่ได้ มันรับแรงไม่ได้ มันเท่ากับเหลือเสาแค่ 2 ต้น มิหนำซ้ำ ไอ้เสาต้นนี้มันไม่เอียงป่าว มันยังไปกระแทกให้เสาต้นดีๆ เขาสะเทือนให้เสาเขาร้าว บ้านเมืองก็

พอดี
ผมอธิบายมาขนาดนี้ ไม่รู้ว่าคุณสลิ่มเข้าใจหรือยัง ถ้าคุณสลิ่มยังไม่เข้าใจแล้วพยายามจะแถว่า ถ้าแบบนั้นก็ให้ทักษินกินรวบเลยใช่ไหมถึงจะพอใจ ผมบอกเลยว่าผมรอคำถามนี้อยู่แล้ว ผมจะได้อธิบายการถ่วงดุล 3 ฝ่ายที่เหนือกว่า บริหาร ตุลาการ นิติบัญญัติ ในระบอบประชาธิปไตย ให้คุณสลิ่มได้เข้าใจ เพื่อที่ว่าจะได้ไม่ต้องกลัว ทักษินรวบอำนาจ และ จะได้กลัวคนที่จะรวบอำนาจให้ถูกคน
การถ่วงดุล 3 ฝ่ายที่ว่า คือ ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายข้าราชการ ฝ่ายประชาชน ทั้ง 3 ฝ่ายนี้ถ่วงดุลกันในระบบงูกินหาง หรือ สามเหลี่ยม อธิบายง่ายๆก็คือ
ฝ่ายประชาชน คือ กระดาษ มีอำนาจในการแต่งตั้งและล้มรัฐบาล
ฝ่ายรัฐบาล คือ ค้อน จะต้องยอมให้ประชาชน แต่ จะเข็มแข็งและจัดการ ข้าราชการได้
ฝ่ายราชการ คือ กรรไกร จะต้องทำตามรัฐบาล แต่ จะมีอำนาจในการดูแลจัดการประชาชน
นี้คือการถ่วงดุลในภาพใหญ่ของระบบประชาธิปไตย ถ้าใครแหล่มขึ้นมา ทั้ง 3 ฝ่ายต่างทำหน้าที่จนเกิดความสมดุลเอง ถ้ารัฐบาลไม่ดี ทำให้ ข้าราชทำงานแย่ ประชาชนก็เดือดร้อน ประชาชนก็ไปจัดการรัฐบาลเอง แต่ถ้า ประชาชน ส่วนน้อยเกิดจะเอาแต่ใจ รัฐบาลที่มาจากประชาชนส่วนใหญ่ ก็จะสั่งข้าราชการตามความเหมาะสม เพราะถ้าจัดการไม่ดีเกินกว่าเหตุ ประชาชนก็จัดการรัฐบาลเอง
ด้วยความสมดุลแบบนี้ ผมจึงไม่กลัวทักษินกินรวบ เพราะยังไง มันก็ยังสมดุลได้ด้วยอำนาจประชาชน แต่ที่ผมกลัวคือ คนดีดี้ ที่ไม่ได้อยู่ใน 3 ฝ่ายนี้

มาควบคุม ข้าราชการ ที่เป็นกรรไกร ( เช่น พรบ กลาโหม ) จัดการประชาชน และ ควบคุม ข้าราชการ ที่เป็นองค์กรอิสระ ตุลาการ จัดการ กับ รัฐบาล ได้ แบบนี้สิน่ากลัว เพราะ ไม่ว่า ประชาชน จะเลือก รัฐบาลยังไง แต่ก็ล้มด้วย ข้าราชการ สุดท้าย ประชาชนก็หมดอำนาจ ไม่มีปากมีเสียง มีสิทอะไร รัฐบาลที่มาจากประชาชนก็ไม่มีความหมาย จะเหลือก็แต่ อำมาตย์ กับ ทาส แบบนี้แหละที่เรียกว่าเผด็จการ แบบนี้แหละที่เรียกว่ากินรวบ
ผมอธิบายง่ายๆแบบ เด็ก ป.1 ยังเข้าใจ ไม่รู้ว่าคุณสลิ่มจะเข้าใจกันบ้างไหม หรือมีสมอง ไว้รู้ทันทักษินอย่างเดียว แต่ถ้าเป็น มาร์ค โง่อีหลี หน้ามืดตาบอดไปหมด "
ผมได้ตอบคุณสลิ่มไปแล้ว ขอเชิญ คุณสลิ่ม มาเถียงผมได้เลย ไม่ว่าสลิ่มศรี จะจบดอร์เตอร์ จากสถาบันไหนในโลก เป็นชนชั้นสูงขนาดไหน ก็ขอเชิญมาแสดงเหตุผลได้ครับ ( ไม่เอาข้ออ้างหลอกตัวเองนะครับ อายเด็ก ป.1 )
หลักการถ่วงดุลของสลิ่ม ผู้มีการศึกษาสูง
- ผมงงผมเลยถามสลิ่มว่า อะไรคือการถ่วงดุล
- สลิ่มทำหน้าเซ็ง แล้วก็อธิบายให้ผมฟังว่า ประชาธิปไตย ต้องมี 3 ฝ่าย บริหาร นิติบัญญัติ ตุลาการ 2 ฝ่ายเป็นของทักษินแล้ว
เหลือ แต่ตุลาการ ต้องให้ค้านอำนาจ อีก 2 ฝ่าย
- ผมยิ่งงงเข้าไปอีก ( เพราะผมโง่ ) ผมเลยถามว่า คานอำนาจยังไง
- อ้าวตุลาการ ก็ต้อง คอยขัดขวางการออกกฏหมาย ขัดขวางการบริหาร ของ รัฐบาล ดิ ไอ้พวก ควายแดง มันโง่ มันไม่รู้เรื่อง
การคานอำนาจเลย เอาแต่ประท้วง ชุมนุม อย่างว่าพวกด้อยการศึกษา ขี้เกียจอธิบาย
- ผมฟังสลิ่มแล้ว ผมเลยถามว่า ถ้าขี้กี้อธิบาย งั้นช่วยรับฟังผมอธิบายได้ไหม
"การคานอำนาจที่ผมรู้มา ระหว่าง 3 ฝ่ายได้แก่ บริหาร นิติบัญญัติ ตุลาการ ให้ทำหน้าของแต่ละฝ่าย ไม่ก้าวก่ายกัน
คือ 1. ฝ่ายบริหาร ก็บริหาร ตามที่กฎหมายให้อำนาจ
2. ฝ่ายนิติบัญญัติ ก็มีหน้าที่ ออกกฏหมาย แต่ไม่มีหน้าที่ตัดสิน ไม่มีหน้าที่บริหาร
3. ฝ่ายตุลาการ คือ เป็นผู้ตัดสิน ไม่มีหน้าที่ ออกกฏหมาย ไม่มีหน้าที่บริหาร
เปรียบประเทศ เป็น เหมือนบ้าน ที่มี เสา 3 ต้น เป็น เสาค้ำยัน แต่ละเสาก็ทำหน้าที่ของตน เป็นเส้นขนานไม่ก้าวก่ายกัน แต่เป็นทิศทางเดียวกัน คือรับแรงตามแนวตั้ง เพื่อ รองรับประเทศชาติบ้านเมือง แต่ละเสาก็ทำหน้าที่ของตน แบบนี้เขาเรียกการคานอำนาจ
ไม่ใช่เป็นตุลาการ แต่ไปยุ่ง เรื่องออกกฏหมาย ไปยุ่งเรื่องบริหาร แบบนี้ ไม่ใช่การคานอำนาจ แต่ มันคือ การก้าวก่าย ขัดแข็งขัดขา ถ้าจะคานอำนาจ ตุลาการ ก็ทำหน้าที่ของตัวเองไป ตัดสินให้มันยุติธรรม ตามกฏหมายที่มี ไม่ใช่ไปเพิ่มเติมเอง เช่น ไปเพิ่มคำว่า อาจจะ แล้วก็ไปยุ่งเรื่องบริหาร ไปใช้จิตนาการ ว่าจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วไป
ถ้าคุณสลิ่มยังนึกภาพไม่ออก ว่าบ้านเมืองจะ
ผมอธิบายมาขนาดนี้ ไม่รู้ว่าคุณสลิ่มเข้าใจหรือยัง ถ้าคุณสลิ่มยังไม่เข้าใจแล้วพยายามจะแถว่า ถ้าแบบนั้นก็ให้ทักษินกินรวบเลยใช่ไหมถึงจะพอใจ ผมบอกเลยว่าผมรอคำถามนี้อยู่แล้ว ผมจะได้อธิบายการถ่วงดุล 3 ฝ่ายที่เหนือกว่า บริหาร ตุลาการ นิติบัญญัติ ในระบอบประชาธิปไตย ให้คุณสลิ่มได้เข้าใจ เพื่อที่ว่าจะได้ไม่ต้องกลัว ทักษินรวบอำนาจ และ จะได้กลัวคนที่จะรวบอำนาจให้ถูกคน
การถ่วงดุล 3 ฝ่ายที่ว่า คือ ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายข้าราชการ ฝ่ายประชาชน ทั้ง 3 ฝ่ายนี้ถ่วงดุลกันในระบบงูกินหาง หรือ สามเหลี่ยม อธิบายง่ายๆก็คือ
ฝ่ายประชาชน คือ กระดาษ มีอำนาจในการแต่งตั้งและล้มรัฐบาล
ฝ่ายรัฐบาล คือ ค้อน จะต้องยอมให้ประชาชน แต่ จะเข็มแข็งและจัดการ ข้าราชการได้
ฝ่ายราชการ คือ กรรไกร จะต้องทำตามรัฐบาล แต่ จะมีอำนาจในการดูแลจัดการประชาชน
นี้คือการถ่วงดุลในภาพใหญ่ของระบบประชาธิปไตย ถ้าใครแหล่มขึ้นมา ทั้ง 3 ฝ่ายต่างทำหน้าที่จนเกิดความสมดุลเอง ถ้ารัฐบาลไม่ดี ทำให้ ข้าราชทำงานแย่ ประชาชนก็เดือดร้อน ประชาชนก็ไปจัดการรัฐบาลเอง แต่ถ้า ประชาชน ส่วนน้อยเกิดจะเอาแต่ใจ รัฐบาลที่มาจากประชาชนส่วนใหญ่ ก็จะสั่งข้าราชการตามความเหมาะสม เพราะถ้าจัดการไม่ดีเกินกว่าเหตุ ประชาชนก็จัดการรัฐบาลเอง
ด้วยความสมดุลแบบนี้ ผมจึงไม่กลัวทักษินกินรวบ เพราะยังไง มันก็ยังสมดุลได้ด้วยอำนาจประชาชน แต่ที่ผมกลัวคือ คนดีดี้ ที่ไม่ได้อยู่ใน 3 ฝ่ายนี้
ผมอธิบายง่ายๆแบบ เด็ก ป.1 ยังเข้าใจ ไม่รู้ว่าคุณสลิ่มจะเข้าใจกันบ้างไหม หรือมีสมอง ไว้รู้ทันทักษินอย่างเดียว แต่ถ้าเป็น มาร์ค โง่อีหลี หน้ามืดตาบอดไปหมด "
ผมได้ตอบคุณสลิ่มไปแล้ว ขอเชิญ คุณสลิ่ม มาเถียงผมได้เลย ไม่ว่าสลิ่มศรี จะจบดอร์เตอร์ จากสถาบันไหนในโลก เป็นชนชั้นสูงขนาดไหน ก็ขอเชิญมาแสดงเหตุผลได้ครับ ( ไม่เอาข้ออ้างหลอกตัวเองนะครับ อายเด็ก ป.1 )