ผมเป็นหัวหน้างานในแผนกใหม่ของบริษัทรับทำบัญชีลูกค้าทุกคนเป็นฝรั่งแต่เรารับงานมาทำที่ไทย
ตอนแรกที่มาสัมภาษผมได้ทำในตำแหน่งหัวหน้าแผนกที่ย้ายมาจากบริษัทที่เมืองนอก คือว่าทีมงานที่นั่นเขาลาออกกันยกทีมเจ้าของเลยตัดสินใจย้ายมาอยู่ที่เมืองไทย ผมเริ่มต้นจากไม่รู้อะไรเลยจนรับพนักงานมาสองคนในแผนก ถามคนนั้นคนนี้จนรู้วิะีทำงานและมี IE มาช่วยจัดProcess
แรกๆก็ผมพยายามสร้างบรรยากาศสนุกสนานทำงานไปคุยกันไปแต่ ผู้จัดการคนฝรั่งไม่ชอบชอบให้ทำงานเงียบๆโฟกัสกับงาน จนถึงช่วงเดือนที่แล้วต้องเร่งทำบัญชีให้ลูกค้าเป้นพันๆคนแผนกเราต้องจัดการเรื่องเอกสารเยอะมาก จำงมีเด็กจบใหม่ 5 คนมาช่วยงานโดยรับมาในตำแหน่งบัญชีงานเละเทะโดนว่าทุกวันว่างานไม่เรียบร้อย บางครั้งเลิกงานก็กลับบ้านทิ้งงานที่ทำไม่เสร็จ ที่นี่ไม่มีโอทีครับ
ผู้จัดการกดดันผมให้สร้างบรรยากาศการทำงานให้ได้ว่าต้องทำงานเงียบๆ และห้ามเอาคอม บริษัทเล่นFacebook< Youtube ผมเตือนสองครั้งแต่ไม่มีวี่แววว่าจะหยุดคุยกันเสียงดัง พุดกัน กู อีนั่นอีนี่ ทั้ง5 คนเป็นนักศึกษาจบใหม่จาก ที่เดียวกัน
ผมปรามหลายรอบ จนทนไม่ไหวตะโกนให้หยุดพูดกันถ้าจะพูดไปคุยข้างนอก
จากนั้นมาก็เริ่มพูดจาประชดผม เริ่มพูดกระแทก ว่าอวดฉลาด ว่าบ้าอำนาจ เห็นแก่ตัว วันๆไม่ทำอะไรเอาแต่เดินไปเดินมา ไม่ก้คุยโทรศัพท์ไม่ช่วยจัดเอกสาร
ผมเป้นหัวหน้างานต้องรับส่ง อีเมล ตอบวอยส์เมล รับแฟกส์ ประสานงานกับผู้จัดการ และ ให้ความช่วยเหลือทีมบัญชีในการหาเอกสาร แต่พวกลูกน้องก็มองว่าเป็นคนเห็นแก่ตัว
ผู้จัดการคนฝรั่งก็บอกว่าจะให้พวกน้องๆบางคนที่ปากจัด ทำงานไม่ได้ออกสิ้นเดือนนี้ เลยเรียกทั้แผนกมาคุย 8 คน แต่แทนที่เราจะให้เขาปรับปรุงก็มารวมหัวกันยกเรื่องที่เราไม่ช่วยจัดเอกสาร เราพูตะคอกใส่ เราเปลี่ยนไป
ทั้งๆที่เราไม่ได้พูดเลยที่เขาพูดกรพทบเรา เขาหาว่าเรา อวดฉลาด เขาหาว่าเราไม่ช่วยงาน ผมยอมรับที่ผมมอบงานให้น้องที่เข้ามาทีแรกสองคนเป็นส่วนใหญ่เพราะผมใว้ใจและจะได้มีเวลาทำงานบริหาร แต่กลับมองว่าไม่ช่วยกันทำงานเอกสารเอาแต่เดินไปเดินมา
ถ้าผมไม่โทรหาลูกค้าหรือแผนกต่างๆใครจะโทรภาษาคนอื่นก้อ่อนแอทั้งนั้น ใจหนึ่งก็อยากปล่อยๆให้ออกไป ใจหนึ่งก็กลัวว่าจะหาว่าเรากลั่นแกล้ง แต่คนประเภทนี้ไม่อยากอยู่ในองค์กรเลย ไม่ขอโทษเราสักคำ เราเป้นคนสอนงานให้เป็นคนช่วยสารพัด
มาเล่าสู่กันฟังครับปรับทุกข์ตามประสาคนสีลม วันนี้ป่วยทางจิตเลยลางานมาสงบสติอารมณ์สักวัน แต่สุ้ๆครับ ผู้จัดการเคยเป็นเพื่อนกันสมัยเรียน สนับสนุนทุกอย่าง
เป็นหัวหน้างานที่ลูกน้องไม่เคารพ เล่นเอาผมเครียด
ตอนแรกที่มาสัมภาษผมได้ทำในตำแหน่งหัวหน้าแผนกที่ย้ายมาจากบริษัทที่เมืองนอก คือว่าทีมงานที่นั่นเขาลาออกกันยกทีมเจ้าของเลยตัดสินใจย้ายมาอยู่ที่เมืองไทย ผมเริ่มต้นจากไม่รู้อะไรเลยจนรับพนักงานมาสองคนในแผนก ถามคนนั้นคนนี้จนรู้วิะีทำงานและมี IE มาช่วยจัดProcess
แรกๆก็ผมพยายามสร้างบรรยากาศสนุกสนานทำงานไปคุยกันไปแต่ ผู้จัดการคนฝรั่งไม่ชอบชอบให้ทำงานเงียบๆโฟกัสกับงาน จนถึงช่วงเดือนที่แล้วต้องเร่งทำบัญชีให้ลูกค้าเป้นพันๆคนแผนกเราต้องจัดการเรื่องเอกสารเยอะมาก จำงมีเด็กจบใหม่ 5 คนมาช่วยงานโดยรับมาในตำแหน่งบัญชีงานเละเทะโดนว่าทุกวันว่างานไม่เรียบร้อย บางครั้งเลิกงานก็กลับบ้านทิ้งงานที่ทำไม่เสร็จ ที่นี่ไม่มีโอทีครับ
ผู้จัดการกดดันผมให้สร้างบรรยากาศการทำงานให้ได้ว่าต้องทำงานเงียบๆ และห้ามเอาคอม บริษัทเล่นFacebook< Youtube ผมเตือนสองครั้งแต่ไม่มีวี่แววว่าจะหยุดคุยกันเสียงดัง พุดกัน กู อีนั่นอีนี่ ทั้ง5 คนเป็นนักศึกษาจบใหม่จาก ที่เดียวกัน
ผมปรามหลายรอบ จนทนไม่ไหวตะโกนให้หยุดพูดกันถ้าจะพูดไปคุยข้างนอก
จากนั้นมาก็เริ่มพูดจาประชดผม เริ่มพูดกระแทก ว่าอวดฉลาด ว่าบ้าอำนาจ เห็นแก่ตัว วันๆไม่ทำอะไรเอาแต่เดินไปเดินมา ไม่ก้คุยโทรศัพท์ไม่ช่วยจัดเอกสาร
ผมเป้นหัวหน้างานต้องรับส่ง อีเมล ตอบวอยส์เมล รับแฟกส์ ประสานงานกับผู้จัดการ และ ให้ความช่วยเหลือทีมบัญชีในการหาเอกสาร แต่พวกลูกน้องก็มองว่าเป็นคนเห็นแก่ตัว
ผู้จัดการคนฝรั่งก็บอกว่าจะให้พวกน้องๆบางคนที่ปากจัด ทำงานไม่ได้ออกสิ้นเดือนนี้ เลยเรียกทั้แผนกมาคุย 8 คน แต่แทนที่เราจะให้เขาปรับปรุงก็มารวมหัวกันยกเรื่องที่เราไม่ช่วยจัดเอกสาร เราพูตะคอกใส่ เราเปลี่ยนไป
ทั้งๆที่เราไม่ได้พูดเลยที่เขาพูดกรพทบเรา เขาหาว่าเรา อวดฉลาด เขาหาว่าเราไม่ช่วยงาน ผมยอมรับที่ผมมอบงานให้น้องที่เข้ามาทีแรกสองคนเป็นส่วนใหญ่เพราะผมใว้ใจและจะได้มีเวลาทำงานบริหาร แต่กลับมองว่าไม่ช่วยกันทำงานเอกสารเอาแต่เดินไปเดินมา
ถ้าผมไม่โทรหาลูกค้าหรือแผนกต่างๆใครจะโทรภาษาคนอื่นก้อ่อนแอทั้งนั้น ใจหนึ่งก็อยากปล่อยๆให้ออกไป ใจหนึ่งก็กลัวว่าจะหาว่าเรากลั่นแกล้ง แต่คนประเภทนี้ไม่อยากอยู่ในองค์กรเลย ไม่ขอโทษเราสักคำ เราเป้นคนสอนงานให้เป็นคนช่วยสารพัด
มาเล่าสู่กันฟังครับปรับทุกข์ตามประสาคนสีลม วันนี้ป่วยทางจิตเลยลางานมาสงบสติอารมณ์สักวัน แต่สุ้ๆครับ ผู้จัดการเคยเป็นเพื่อนกันสมัยเรียน สนับสนุนทุกอย่าง