งานเข้าอีกแล้วนายกปู เรื่องเขมรยังไม่จบลุยพม่าต่อซะแล้ว

นายกรัฐมนตรีหารือทวิภาคีกับประธานาธิบดีเมียนมาร์ระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียนติดตามความคืบหน้าทวาย

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาลได้กล่าวถึงผลการหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีเมียมาร์ว่า ผู้นำทั้งสองใช้โอกาสการเข้าร่วมประชุมผู้นำอาเซียน พบหารือเพื่อเร่งติดตามความคืบหน้าในความร่วมมือต่างๆ โดยเฉพาะโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย ที่ได้มีการตั้งคณะกรรมการร่วมเพื่อผลักดันให้โครงการมีความก้าวหน้า และจะได้มีการตกลงถึงการจดทะเบียนการจัดตั้ง SPV สัญญาสัมปทาน และรูปแบบการเงินของโครงการ รวมทั้ง ความร่วมมือการเปิดด่านจุดผ่านแดนแห่งใหม่ เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจแนวชายแดน

วันนี้ (25 เม.ย) เวลา 14.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีพบหารือกับนายเต็ง เส่ง ประธานาธิบดีแห่งเมียนมาร์ ดังนี้

นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีต่อพัฒนาการการปฏิรูปภายในเมียนมาร์อย่างต่อเนื่อง และไทยพร้อมให้การสนับสนุนในทุกๆด้าน โดยในปีนี้ถือเป็นโอกาสอันดียิ่งที่ทั้งสองประเทศจะได้ฉลองครบรอบ 65 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย – เมียนมาร์ และยินดีต้อนรับประธานาธิบดีเมียนมาร์เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมสำหรับเอเชียและแปซิฟิก (ESCAP) สมัยที่ 69 ณ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 29 เมษายน 2556 และการประชุมระดับผู้นำด้านน้ำแห่งภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ณ จังหวัดเชียงใหม่ ในเดือนพฤษภาคม 2556 นี้

ในโอกาสนี้ ผู้นำทั้งสองประเทศได้ร่วมกันหารือเกี่ยวกับความก้าวหน้าโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย ซึ่งภายหลังการก่อตั้งคณะกรรมการร่วมได้มีดำเนินการก่อสร้างมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้ไทยได้เสนอร่างข้อตกลงผู้ถือหุ้นสำหรับการจดทะเบียนจัดตั้ง SPV (SPV Shareholder Agreement)แล้ว และจะเสนอความตกลงเกี่ยวกับสัญญาสัมปทานและรายละเอียดภายในปลายเดือนเมษายนนี้ และขอให้ทางเมียนมาร์ได้พิจารณาต่อไป ทั้งนี้ คณะฝ่ายไทยและเมียนมาร์ได้ร่วมกันจัดทำรูปแบบการเงินของโครงการสำคัญต่างๆ และคณะทำงานจะมีการประชุมในเดือนพฤษภาคม 2556 ที่ กรุงเทพมหานคร พร้อมกันนี้ ไทยได้เชิญประเทศญี่ปุ่นเข้าร่วมเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์อย่างเป็นทางการ เพื่อร่วมกันพัฒนาโครงการในด้านต่างๆ ร่วมกับไทยและเมียนมาร์

นอกจากนี้ ผู้นำทั้งสองยังได้มีการหารือในประเด็นอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับโครงการ เช่น การประชุมคณะกรรมการร่วมระดับสูงระหว่างไทย-เมียนมาร์ (Joint High-LeveL Committee หรือ JHC) การอำนวยความสะดวกประชาชนย้ายออกจากพื้นที่โครงการ การระดมทุน การพัฒนาเขตอุตสาหกรรมตามแนวชายแดน ข้อสรุปรูปแบบการเงินและการสนับสนุนการใช้เงินบาทเป็นสกุลเงินที่สามารถแลกเปลี่ยนได้อย่างเป็นทางการในเมียนมาร์ เพื่อส่งเสริมการลงทุนระหว่างต่างประเทศ โดยเฉพาะโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจทวาย

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีเมียนมาร์ได้หารือกันในประเด็นชาวโรฮิงญา และกลุ่มผู้พลัดถิ่นชาวเมียนมาร์ โดยไทยขอความร่วมมือทางการเมียนมาร์ดำเนินการพิสูจน์ข้อมูลสถานภาพ เพื่อแสวงหาทางออกที่เหมาะสมให้กับบุคคลทั้งสองกลุ่มนี้ นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีกับข้อริเริ่มของเมียนมาร์ที่จะเปิดจุดผ่านแดนใหม่ 3 แห่ง ได่แก่ ด่านเจดีย์สามองค์ - พญาตองซู, ด่านบ้านน้ำพุร้อน – ทิกิ, ด่านสิงขร – มอต่อง ซึ่งจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการกระชับและเพิ่มพูนความสัมพันธ์ในระดับประชาชนและการพัฒนาเศรษฐกิจตามแนวชายแดนของทั้งสองประเทศ
http://www.thaigov.go.th/th/governmental/item/76884-นายกรัฐมนตรีหารือทวิภาคีกับประธานาธิบดีเมียนมาร์ระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียนติดตามความคืบหน้าทวาย.html

หาเรื่อง  หางาน   หาทรัพยากร   หาเพื่อน   แก้ไขปัญหาชายแดนและผู้อพยพ    ให้คนไทยไม่หยุดเชียว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่