เคยอยากกินอะไรแต่มีเหตุการณ์ที่ทำให้ไม่อยากกิน และเคยไม่อยากกินอะไรแต่มีเหตุการณ์ที่ทำให้อยากกิน (บริการและรสชาติไม่นับ)

เรื่องราวอาหารจะเกิดขึ้นที่ไหนก็ได้นะครับ "แต่ขอไม่รวมเรื่องการบริการและรสชาติ" เพราะเห็นในห้องก้นครัวตั้งกระทู้กับสองประเด็นนี้บ่อยแล้ว เลยขอเป็นเหตุผลอื่นๆบ้างละกัน

สำหรับผม ขอเริ่มด้วย...

"เรื่องที่ไม่อยากกิน แต่มีเหตุการณ์อะไรบางอย่างที่ทำให้อยากกิน"

เรื่องนี้เกิดที่ประเทศไทยครับ วันนั้นไปห้างเซ็นทรัลพระราม 2 มีร้านขนมปังอยู่ร้านนึงที่ผมไม่ได้กินมานาน เพราะพักหลังๆรู้สึกเฉยๆกับขนมปังเค้า วันนั้นนึกครึ้มอกครึ้มใจ กะเดินเข้าไปดูหน่อยว่า มีขนมปังอะไรแปลกๆใหม่ๆบ้าง ไอผมก็เดินสำรวจไปเรื่อยๆ เห็นหลายอย่างเพิ่มขึ้นมาเหมือนกัน ผมเดินวนรอบร้านจนทั่ว ช่วงกำลังจะเดินออก เผอิญผมต้องเดินผ่านโต๊ะแคชเชียร์ (คือจะมีคนคิดตังค์ ผู้ช่วยคอยหนีบขนมปังจากถาดใส่ถุงหรือกล่อง และลูกค้าหญิง 1 คน) ผมได้ยินเสียงคนคิดตังค์บอกกับลูกค้าหญิงคนนั้นว่า "เขาไม่ได้ยินค่ะ" ผมเลยเหลือบไปมองน้องผู้หญิงที่เป็นผู้ช่วยว่า มันอะไรยังไงกัน เลยถึงบางอ้อที่ป้ายปักเสื้อว่า "บกพร่องทางการได้ยิน" (ถึงรู้ว่า ลูกค้าหญิงคนนั้นคงบอกพนักงานผู้ช่วยหญิงประมาณว่า ใส่รวมหรือใส่แยก อะไรทำนองนี้ แต่คนจัดเหมือนไม่รับรู้ คงทำนองนี้แหละ)

วินาทีที่เห็นป้าย"บกพร่องทางการได้ยิน"ติดเสื้อน้องผู้ช่วยหญิง ผมจี๊ดเลย "จากที่ไม่ตั้งใจจะซื้อหรืออยากกินอะไร" กลายเป็นเดินไปหยิบถาด กระดาษรอง และที่คีบ แล้วซื้อขนมปังกลับบ้าน มันรู้สึกดีกับบรรยากาศร้านและขนมปังขึ้นมาทันที บรรยายเป็นคำพูดไม่ถูก แต่รู้สึกปลื้มใจกับนโยบายร้านนะ ตอนเดินไปจ่ายตังค์ ผมอมยิ้มให้น้องคนนี้มาแต่ไกล (น้องผู้หญิงไม่เห็นนะ) แต่พอเดินมาถึงแคชเชียร์ ผมก็ไม่มองน้องเค้า ทำเหมือนรอคิดตังค์ปกติแล้วก็เดินออกจากร้านไป (ไม่อยากให้เขารู้สึกเป็นเป้าสายตาอะ)

สังคม... บางทีก็มีมุมดีๆของมันเหมือนกันเนอะ (ยินดีปรีดาครับ)

"เรื่องที่อยากกิน แต่มีเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้ไม่อยากกิน"

เรื่องนี้เกิดขึ้นที่ประเทศอินเดียครับ เมื่อสิบกว่าปีก่อนได้มีโอกาสไปประเทศอินเดียเป็นครั้งแรก ในยุคนั้น อินเตอร์เน็ทยังไม่บูมเลย ข้อมูลอะไรหลายอย่างก็ไปรู้เอาดาบหน้า ตอนนั้นตื่นเต้นเป็นที่สุดเพราะฝันอยากกินโรตีจากประเทศต้นตำรับ มันต้องอร่อยแน่ๆ ขนาดประเทศไทยตามรถเข็นยังมีทั้งเนย นม น้ำตาล แป้งนุ่มน่ากินซะขนาดนี้ แถมมีกล้วยเป็นตัวเลือกอีก มาประเทศอินเดียมันคงเป็นอะไรที่สุดๆไม่แพ้กันแน่

ตัดมาตอนที่คนขับชาวอินเดียแล่นรถไปเรื่อยๆ ผมเห็นร้านโรตีข้างทางแล้วได้ฟีลจริงอะไรจริง มันใช่เลย... บรรยากาศบ้านไร่ชายทุ่งแบบบ้านชั้นเดียว(เหมือนก่อจากดินผสมปูนขาว) หลังคาก็ดูมีสไตล์ บ้านแต่ละหลังจะทิ้งช่วงห่างกัน ร้านอาหารอยู่นอกตัวบ้าน(บนพื้นดินธรรมชาติหน้าบ้านที่ไม่ได้ลาดพื้นอะไร) และมีโต๊ะเล็กๆกับเก้าอี้อยู่ 2-3 ตัว ส่วนกระทะก็อยู่ไม่ไกล (เป็นเตาถ่าน ต้องรอก่อไฟก่อน) ผมให้คนรถจอด แล้วจัดการสั่งโรตีมากิน 1 ที่ ช่วงที่แม่ครัวออกมาทำ ทุกอย่างที่ผมมองไปบนกระทะไม่เหมือนภาพที่ผมฝันไว้เลย แต่ก็อดใจไว้ก่อนว่า เดี๋ยวคงจะมีทีเด็ดเองแหละ

วินาทีที่โรตีมาเสริฟบนโต๊ะ ทุกอย่างที่วาดไว้มลายสิ้น สรุปแล้ว บนถาดที่ผมกำลังจะได้กิน มีโรตีหน้าตากรอบๆปนเกรียมบางจุด(ที่ทอดออกมาเหมือนข้าวเกรียบว่าว) แถมไม่ราดอะไรมาให้เลย พับผ่าสิ! ทอดร้อนๆแค่นั้น แต่ที่งงเป็นไก่ตาแตกคือ เครื่องเคียง(ที่สีเหมือนแกงเขียวหวาน) เจ้าแกงนี่รสชาติก็ออกมันๆ เลี่ยนๆ จืดๆ เมื่อนำมาราดกับโรตีแล้ว โอ้ว... พ่อเจ้าพระคุณรุนช่อง!!!

ณ ตอนนั้น ผมขอบอกคำเดียวว่า จินตนาการเป็นความอร่อยไม่ถูกแล้ว ปุ่มรับรสหลงทิศเลย! แต่เอาก็เอาวะ นี่ไงล่ะต้นฉบับรสออริจินอล กินไปเถอะ อย่างน้อยก็เอาไประบาย... เอ้ย! เอาไปเล่าให้คนอื่นฟังต่อได้

บรรยากาศความโสภาเพิ่งเริ่มไม่นาน แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดกำลังเพิ่งเริ่มครับ…

ระหว่างนั่งหม่ำโรตีอยู่นั้น แมลงวันสองสามตัวบินโฉบป้วนเปี้ยนแถวโต๊ะผม มือก็คอยปัด แต่ก็ไม่คิดอะไร สักพักพวกมันก็ไป (แต่ทิ้งช่วงไม่นานก็หวนมาใหม่)

ต่อมา มีสุนัขจรมอซอสองตัว(มาจากไหนไม่ทราบ)เข้ามาเกาะแกะที่ขาผม (ในใจก็คิด “เอ๊ะ มันชักจะยังไง”) มือข้างนึงปัดแมลงวัน ส่วนขาก็คอยสะบัดไล่สุนัขจรเบาๆ

ระหว่างบรรจงกินโรตี(ที่ไม่นึกไม่ฝันเรื่องความโอชะมาก่อน) ณ บนท้องฟ้า ผมได้ยินเสียงนกอะไรบางอย่าง มันเหมือนเสียงที่ผมเคยดูในสารคดี ในใจก็คิดว่า เสียงคุ้นๆแฮะ เลยแหงนหน้ามองดู แล้วตั้งกระแสจิตเพ่งอยู่นานเพื่อความไม่มั่วนิ่ม อนิจจา... สิ่งนั้นก็คือ…




















อีแร้ง 1 ตัว...

ผมเห็นบินร่อนไปมาเหนือร้านโรตีครับ สักพักมีอีแร้งอีก 2 ตัวตามมาสมทบ แต่ที่ผมรู้สึกประหลาดใจยิ่งนักก็คือ เหมือนอีแร้งทั้งสามจะบินวนแต่คล้อยต่ำลงมาเรื่อยๆ ส่วนแมลงวันและสุนัขจรก็ยังรุมหยิบยื่นความเป็นมิตรอยู่นั่น (แถมจำนวนก็เพิ่มขึ้นด้วย) ในใจพลางคิดว่า อะไรกันเนี่ย!!! ภาพสิงสาราสัตว์(รอบโต๊ะอาหาร)แบบนี้ไม่ใช่แล้วล่ะ ความสุนทรีย์จบโดยอัตโนมัติ เรียกเจ้าของร้านมาคิดตังค์ (พลางบอกเจ้าของร้านฝากโรตีที่เหลือให้สุนัขจรกินด้วย) แล้วผมก็เดินจ้ำขึ้นรถไป...

หมายเหตุ เดี๋ยวเหมือนจะให้ร้ายอาหารอินเดียไป ครั้งแรกที่ผมจิบชานมที่ประเทศอินเดีย มันช่างหอมกลมกล่อมกว่าที่คิดไว้จริงๆนะเออ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่