สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 38
คือปัญหา ของผู้หญิงที่คิดว่า ตัวเองมีคุณค่าทางสังคมสูง แต่ก็อยากมีคู่ครอง และต้องทัดเทียมทางสังคม
ฉันอยากจะบอกอะไรคุณสักอย่างนะ การมองหาคู่ครอง อย่างแรกเลย เขาดูความเท่าเทียมกันที่จิตใจ คุณค่าที่เท่าเทียม และคนสองคนต้องวัดกันเอง
ไม่ใช่ยกให้สังคม มาวัด หรือตัดสินให้
ถ้าฉันกับสามี ปล่อยให้สังคมตัดสินเรา แน่นอนเลยว่า เราไม่เท่าเทียมกัน เพราะสามีฉัน จบ ป.โท เป็นอาจารย์ แต่ฉัน ปริญญาสักใบยังไม่มี
แต่สามีบอกกับฉันเสมอว่า เราเท่าเทียมกัน และฉันเป็นผู้หญิงที่มีคุณค่าที่สุดแล้ว สำหรับเขา
บางครั้ง ฉันก็ไม่เข้าใจ ว่าทำไมผู้หญิง คิดกับผู้ชายแบบนี้ไม่ได้ ยอมรับกันไหม ว่าความรักของผู้หญิง ไม่เท่าเทียมกับผู้ชาย
ฉันอยากจะบอกอะไรคุณสักอย่างนะ การมองหาคู่ครอง อย่างแรกเลย เขาดูความเท่าเทียมกันที่จิตใจ คุณค่าที่เท่าเทียม และคนสองคนต้องวัดกันเอง
ไม่ใช่ยกให้สังคม มาวัด หรือตัดสินให้
ถ้าฉันกับสามี ปล่อยให้สังคมตัดสินเรา แน่นอนเลยว่า เราไม่เท่าเทียมกัน เพราะสามีฉัน จบ ป.โท เป็นอาจารย์ แต่ฉัน ปริญญาสักใบยังไม่มี
แต่สามีบอกกับฉันเสมอว่า เราเท่าเทียมกัน และฉันเป็นผู้หญิงที่มีคุณค่าที่สุดแล้ว สำหรับเขา
บางครั้ง ฉันก็ไม่เข้าใจ ว่าทำไมผู้หญิง คิดกับผู้ชายแบบนี้ไม่ได้ ยอมรับกันไหม ว่าความรักของผู้หญิง ไม่เท่าเทียมกับผู้ชาย
ความคิดเห็นที่ 32
เราเป็นผู้หญิงนะคะ ยังไม่ได้อ่านเม้นต์คนอื่นโดยละเอียด แต่ขออนุญาตวิเคราะห์ว่าคุณกำลังอยู่ในช่วงสับสน เสียเซลฟ์และ insecure ว่าจะอยู่บนคาน(เพราะคุณอยากมีลูก) เพราะคุณเพิ่งเลิกกับแฟนเมื่อต้นปี เราว่าคุณถามผู้ชายทั้งโลกว่าชอบผู้หญิงอย่างคุณมั้ย จะจีบผู้หญิงอย่างคุณมั้ย คุณจะไม่ได้คำตอบอะไรที่เป็นประโยชน์กับชีวิตคุณหรอกค่ะ เพราะคุณไม่ได้กำลังทำวิจัยการตลาดที่จะต้องไปสำรวจว่าทาร์เก็ตกรุ๊ปอยากได้แบบไหน เพราะถ้าเค้าบอกว่าไม่ชอบ คุณจะเปลี่ยนตัวเองเหรอคะ คุณไม่สามารถเปลี่ยนตัวเองเพื่อตอบโจทย์คนอื่นได้ สิ่งที่คุณต้องทำคือสนุกกับชีวิตค่ะ อย่าไปถามว่าทำไมไม่เจอคนที่ใช่ซะที อย่าไปถามว่าเรามีอะไรผิดปกติหรือเปล่าถึงไม่เจอ เราควรแก้ไขอะไรมั้ย ถ้าจะแก้ไขอะไรซักอย่างคือถามตัวเองค่ะว่าชอบอะไร มีความสุขกับอะไร แล้วทำไปตามนั้น นอกจากนั้น เรายังเชื่อนะคะว่าผู้หญิงควรจะสวย ไม่ใช่เพื่อดึงดูดผู้ชาย (ผู้ชายเข้ามาเป็นผลพลอยได้) แต่การดูแลตัวเองดีๆ จะทำให้เรารู้สึกดีกับตัวเอง
เราอายุ 34 ค่ะ โปรไฟล์คล้ายจขกท.คุณพ่อเป็นข้าราชการระดับสูง คุณแม่ทำธุรกิจ แต่เราไม่ได้จบเอก จบแค่โทเมืองนอก เพิ่งเลิกกับแฟนเมื่อต้นปีเหมือนกัน ตอนนี้ก็เริ่มเดทบ้าง ชีวิตเราก็เจอทั้งคนที่เราชอบเค้า เค้าไม่ชอบเรา, เค้าชอบเรา แต่เราไม่ชอบเค้า, และเราชอบกัน แต่คบกันแล้วไม่รู้ทำไมคุยกันไม่รู้เรื่อง เรามีคนเข้ามาจีบเรื่อยๆน่ะค่ะ จนไม่ได้กังวลมากว่าจะขึ้นคาน แล้วถ้าจะต้องอยู่คนเดียวจริงๆ ก็น่าจะดีกว่าการพยายามคบกับคนที่ไม่ใช่เพราะอายุเยอะแล้ว เราว่าคนเรามีโอกาสเลือกนะคะ ยังไม่ได้รีบตาย อายุไม่ใช่ข้อจำกัดหรอกค่ะ ถ้าคุณไม่มีโอกาสเจอคนที่ใช่และไม่มีลูก คุณก็อาจหาความสุขจากอย่างอื่นมาทดแทน อย่าไปกังวลมากค่ะ เท่าที่เราอ่านจากตัวหนังสือคุณ เราว่าคุณเป็นคนมี "กรอบ" สูงมาก ไม่ juicy เลยค่ะ คุณดูเกร็งๆ เหมือนไม่กล้า take risk แต่คุณก็อาจเจอผู้ชายที่เค้าคล้ายๆคุณแล้วลงตัวก็ได้ โปรไฟล์คุณไม่ได้สูงมากขนาดจะหาผู้ชายที่เท่ากันหรือสูงกว่าไม่ได้หรอกค่ะ เดี๋วนี้คนจบป.เอกเยอะนะคะ แฟนเราที่ผ่านมาก็จบเอก และถ้าการศึกษาเค้าเทียบคุณไม่ได้ หน้าที่การงานเค้าอาจจะดีมากก็ได้ สิ่งสำคัญมันอาจไม่ใช่แค่โปรไฟล์หรอกค่ะ มันอยู่ที่ว่าคุยกันรู้เรื่องแค่ไหนมากกว่า เรายังเชื่อนะคะ ว่าความรักมันบังคับกันไม่ได้ ต่อให้คุณเจอผู้ชายที่มีคุณสมบัติทุกอย่างที่คุณต้องการก็ใช่ว่าคุณจะรักเค้าได้ ในทางกลับกันคุณอาจมีทุกอย่างที่ผู้ชายคนนึงฝัน แต่เค้าก็อาจจะไม่รักคุณเลยเหมือนกัน ความรักมันไม่ใช่สูตร xy ที่จะมีคำตอบเดียวหรอกค่ะ มันมีหลายความเป็นไปได้ และมันมีอะไรเกินคาดได้เสมอ
เราอายุ 34 ค่ะ โปรไฟล์คล้ายจขกท.คุณพ่อเป็นข้าราชการระดับสูง คุณแม่ทำธุรกิจ แต่เราไม่ได้จบเอก จบแค่โทเมืองนอก เพิ่งเลิกกับแฟนเมื่อต้นปีเหมือนกัน ตอนนี้ก็เริ่มเดทบ้าง ชีวิตเราก็เจอทั้งคนที่เราชอบเค้า เค้าไม่ชอบเรา, เค้าชอบเรา แต่เราไม่ชอบเค้า, และเราชอบกัน แต่คบกันแล้วไม่รู้ทำไมคุยกันไม่รู้เรื่อง เรามีคนเข้ามาจีบเรื่อยๆน่ะค่ะ จนไม่ได้กังวลมากว่าจะขึ้นคาน แล้วถ้าจะต้องอยู่คนเดียวจริงๆ ก็น่าจะดีกว่าการพยายามคบกับคนที่ไม่ใช่เพราะอายุเยอะแล้ว เราว่าคนเรามีโอกาสเลือกนะคะ ยังไม่ได้รีบตาย อายุไม่ใช่ข้อจำกัดหรอกค่ะ ถ้าคุณไม่มีโอกาสเจอคนที่ใช่และไม่มีลูก คุณก็อาจหาความสุขจากอย่างอื่นมาทดแทน อย่าไปกังวลมากค่ะ เท่าที่เราอ่านจากตัวหนังสือคุณ เราว่าคุณเป็นคนมี "กรอบ" สูงมาก ไม่ juicy เลยค่ะ คุณดูเกร็งๆ เหมือนไม่กล้า take risk แต่คุณก็อาจเจอผู้ชายที่เค้าคล้ายๆคุณแล้วลงตัวก็ได้ โปรไฟล์คุณไม่ได้สูงมากขนาดจะหาผู้ชายที่เท่ากันหรือสูงกว่าไม่ได้หรอกค่ะ เดี๋วนี้คนจบป.เอกเยอะนะคะ แฟนเราที่ผ่านมาก็จบเอก และถ้าการศึกษาเค้าเทียบคุณไม่ได้ หน้าที่การงานเค้าอาจจะดีมากก็ได้ สิ่งสำคัญมันอาจไม่ใช่แค่โปรไฟล์หรอกค่ะ มันอยู่ที่ว่าคุยกันรู้เรื่องแค่ไหนมากกว่า เรายังเชื่อนะคะ ว่าความรักมันบังคับกันไม่ได้ ต่อให้คุณเจอผู้ชายที่มีคุณสมบัติทุกอย่างที่คุณต้องการก็ใช่ว่าคุณจะรักเค้าได้ ในทางกลับกันคุณอาจมีทุกอย่างที่ผู้ชายคนนึงฝัน แต่เค้าก็อาจจะไม่รักคุณเลยเหมือนกัน ความรักมันไม่ใช่สูตร xy ที่จะมีคำตอบเดียวหรอกค่ะ มันมีหลายความเป็นไปได้ และมันมีอะไรเกินคาดได้เสมอ
แสดงความคิดเห็น
ช่วยวิเคราะห์-วิจารณ์ ลักษณะของสาวโสดวัย 35 ปีคนนี้ด้วยค่ะ ขอบคุณอย่างยิ่งค่ะ
เราเป็นผู้หญิงในวัย 35 ปีแล้วค่ะ เราได้ผ่านช่วงวัยต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว จนไม่คาดคิดว่าเวลาจะผ่านไปไวเช่นนี้ วัยนี้สมัยพ่อแม่คงมีลูกหลานแล้วนะคะ แต่เรายังคงใช้ชีวิตโสดค่ะ
เราเติบโตมาจากครอบครัวที่อบอุ่น เติมเต็มทุกอย่างในชีวิต เป็นครอบครัวข้าราชการ(อยู่ต่างจังหวัดค่ะ) ฐานะปานกลาง ในวัยเด็กโลกเต็มไปด้วยความสุขและความรักของพ่อแม่ ไม่เคยรู้สึกขาดอะไร พ่อแม่ให้ทุกอย่างกับชีวิต เรามีน้องสาวหนึ่งคน (ปัจจุบันน้องแต่งงานแล้วค่ะ) น้องเป็นคนเรียนเก่ง ส่วนเราเรียนปานกลางค่ะ แต่เป็นเด็กเรียนด้วยกันทั้งคู่ (แต่ไม่ได้เรียนเคร่งเครียดจริงจังอะไรมากมาย ก็มีกิจกรรมอย่างอื่นบ้าง ไปเที่ยว เล่นบ้างตามวัยในสมัยนั้น แต่ก็คิดถึงการเรียนเป็นหลัก เพราะอยากให้พ่อแม่ภูมิใจกับพวกเรา) เราและน้องสาวเติบโตมาด้วยกัน เค้าสามารถเป็นคู่คิดให้เราได้ทุกอย่าง เรารักน้องสาวคนนี้มาก และสนิทกันมากเช่นเดียวกัน สามารถพูดคุยปรึกษา ยอมรับและรู้สึกทึ่งในความคิดของเค้าอยู่หลาย ๆ อย่าง
เมื่อเติบโตขึ้นมาเรื่อย ๆ จากเด็กเรียนปานกลาง ก็โชคดีสอบติดมหาวิทยาลัย และโชคดีสองชั้น ได้รับโอกาสดี ฟลุ๊คด้วย เพราะเป็นคนไม่ได้เก่ง แต่ก็ได้ทุนเรียน เราก็เรียนต่อเรื่อย ๆ แต่การเรียนของเราเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ จน ป.ตรี - เอก เรากลายเป็นเด็กเรียนที่จริงจังกับชีวิตมากขึ้น (จากอดีตไม่ได้จริงจิงมากเท่าไหร่) เป็นคนมีมีความรับผิดชอบสูงเกิน บางครั้งทำงานแบบไม่มีเวลาให้ใครเลย และกังวลกับเหตุการณ์ล่วงหน้ามากเกินไป ทำให้เกิดความทุกข์ขึ้นได้ แต่ถ้าปกติ ไม่มีอะไร เราเป็นคนร่าเริงค่ะ ยิ้มง่าย คนภายนอก จะมองเราว่า เป็นคนที่อยู่โลกของเราสวยงาม มีความสุข มีสุขภาพจิตดี ซึ่งก็ถูกค่ะ แต่คนส่วนใหญ่จะมองไม่ค่อยออกมาเราจริงจังกับชีวิตในบางเรื่อง เช่น คู่ชีวิต การเรียน เป็นต้น
เรามาค้นพบตนเอง ว่า จริง ๆ แล้ว เราชอบอยู่ในโลกที่ไม่วุ่นวายกับคนเยอะเท่าไหร่ แต่ไปงานสังคมได้ (ซึ่งงานสังคมไม่ได้มีทุกวัน ก็เป็นบางครั้ง) ถ้าเลือกได้ ชอบอยู่บ้านกับครอบครัว เป็นความสุขเล็ก ๆ เราอยากมีเวลาให้ครอบครัวมาก ๆ เป็นคนเงียบ ๆ ในบางครั้ง พูดทะลึ่งไม่เป็น แต่ก็หัวเราะไปกับเค้าได้ แต่ถ้าพูดเอง อาจจะฝืดๆ เราไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เคยเข้าผับ ไม่เที่ยวกลางคืน ชอบไปเที่ยวต่างจังหวัดและต่างประเทศค่ะ แต่ก็ไม่ได้แอนตี้สำหรับคนกินเหล้านะคะ แล้วแต่วิถึชีวิตของแต่ละคน (ในความคิดเรา คนกินเหล้า ไม่ได้เป็นคนไม่ดี หลายคนที่เรารู้จัก เป็นคนดี มีน้ำใจค่ะ แต่สาเหตุที่เราไม่กิน คือ ไม่ดีต่อสุขภาพค่ะ และไม่มีสติ ถ้าผู้หญิงไม่มีสติ อาจเกิดผลเสียอื่น ๆ ตามมา ที่เราไม่สามารถแก้ไขได้ค่ะ)
เราเคยมีแฟนในชีวิตแค่ 2 คนค่ะ ทั้งสองมีแนวทางการดำเนินชีวิตคล้าย ๆ กับเราเลย เป็นคนดีทั้งคู่ค่ะ
แฟนคนแรก เป็นวิศวกร เป็นคนหน้าตาธรรมดา ไม่โดดเด่น เป็นคนที่รักเรามาก เป็นคนเรียนเก่ง แต่การเข้าสังคม อาจยังไม่ค่อยได้ (ถึงเราไม่ได้เป็นคนชอบสังคมมากนัก แต่เราก็เข้าสังคม พูดคุยได้ค่ะ) แฟนคนนี้เงียบ ๆ บางทีเราก็กลัวเค้าอึดอัด ประกอบกับเค้าเป็นคนดื้อเงียบ ไม่ค่อยพูดในสิ่งที่เค้าเป็นปัญหามากนัก แต่ในระยะที่คบกัน เราไม่เคยทะเลาะกันเลยค่ะ แต่เรารู้สึกว่ายังไม่ใช่ค่ะ มันมีอีกหลายๆ จุดที่คิดว่า ไม่น่าใช่ค่ะ เราเป็นคนถอยมาค่ะ
แฟนคนที่สอง อยู่ใน รพ ค่ะ จบการศึกษาสูง ทุกคนที่ทราบข่าวว่าเราเป็นแฟนกัน ต่างโทรมาแสดงความยินดี ประหนึ่งว่า เราทั้งสองจะแต่งงานกัน^^ คนนี้เรารักในความดีของเค้ามาก เค้าเป็นคนเรียนเก่ง หัวดี เราเชื่อมั่นในความคิดของเค้า เป็นคนสมถะ เรียบง่ายค่ะ เค้าเป็นคนหน้าปานกลาง บุคลิกไม่ค่อยดี แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะ เราคิดว่าเรารับได้ หลาย ๆ ครั้งเรารู้สึกสงสารเค้าเหลือเกิน เพราะเค้าเกิดมาในครอบครัวยากจน คุณพ่อเค้าพิการค่ะ แต่เค้ามุมานะ ตั้งใจเรียน จนจบศึกษาที่สูง เป็นเสาหลักให้ครอบครัว เป็นคนที่รักพ่อแม่มาก มีความกตัญญู หลายๆ ครั้งเค้าจะซื้อของแพงให้เรา แต่เค้ากลับใช้ของธรรมดา เรารู้สึกสงสารเค้าอย่างจับใจ บางครั้งเราก็แอบร้องให้ในโชคชะตาเค้า เราปฏิเสธทุกครั้งที่เค้าจะให้ของราคาแพง เราบอกให้เค้าเก็บเงินไว้เถอะ และกลับไปใช้ในครอบครัวของเค้า (พอพิมพ์ช่วงนี้ รุู้สึกอยากร้องให้ค่ะ) ความดีของเค้า มันตราตรึงในหัวใจของเราเหลือเกิน เราตั้งใจแต่งงานกับเค้าหลังจากเค้าเรียนจบเฉพาะทางแล้ว แต่เราทั้งสอง อาจไม่ใช่คู่กัน เราเลิกกับเค้าเมือเดือนมกรา ที่ผ่านมาเองค่ะ (เราเป็นคนบอกเลิกค่ะ) เพราะเป้าหมายในชีวิตไม่เหมือนกันค่ะ เราอยากมีลูก แต่เค้าไม่อยากมีค่ะ เราถกปัญหานี้นานมาก พูดเมื่อไหร่ ทั้งสองก็ร้องให้ด้วยกันทั้งคู่ และมีเรื่องอื่น ๆอีกเล็กน้อย ที่มีผลกระทบต่อความสัมพันธ์) ถึงแม้เราจะไม่ได้ใช้ชีวิตร่วมกัน แต่เราจะเก็บความรู้สึกนี้ไว้ และอยากช่วยเหลือเค้าในทุกด้านค่ะ
**เรามีแฟนยากมากนะคะ แต่ละคนกว่าจะมีได้ อาศัยเพื่อนและคนรุู้สึกแนะนำค่ะ แฟนคนแรกนี้เป็นญาติแนะนำค่ะ แฟนคนที่สองนี้เป็นเพื่อนค่ะ แต่ละคนที่เข้ามาใช้เวลาห่างกันพอสมควร ส่วนคนที่เข้ามาในชีวิตเอง โดยที่ไม่ผ่านการแนะนำ ก็มีบ้างค่ะ แต่เราก็รู้สึกยังไม่ใช่ค่ะ ก็เลยไม่ได้คบเลย
หลังจากเลิกกับแฟนคนที่สอง มีคนแนะนำ นายตำรวจ ให้คนหนึ่ง คนนี้เป็นคนเก่ง ฉลาด ฐานะดี แต่วิถึชีวิตอาจแตกต่างกันค่ะ เคยเจอกันครั้งหนึ่ง แล้วเค้าก็ Line มาหาเราเป็นช่วง ๆ ส่วนเราไม่เคยทักเค้าก่อนเลย รู้สึกว่าเค้า คงไม่ได้ชอบเรา เรามีเซ้นต์อย่างนั้น ตอนนี้เค้าก็ไม่ได้ติดต่อมาเลย
จะเห็นได้ว่า เรามีทั้งคนที่เข้ามาหา และ มีทั้งคนที่ปฏิเสธเรา (เช่น ตำรวจ) เรามีวิถึชีวิตที่เรียบง่ายค่ะ ชีวิตดำเนินไปตามดำเนินไปตามทาง มีสีสรรโดยการไปท่องเที่ยว เห็นโลกกว้าง ไปต่างประเทศ เราชอบชีวิตแบบนี้นะ มันเป็นสิ่งที่ยั่งยืนสำหรับเรา สำหรับบุคลิกภายนอก ก็เป็นคนที่สดใส ร่าเริงนะ ชอบยิ้ม ส่วนบุคคลภายนอก หน้าตาน่าจะโอเค (อ้างอิงจากหลายๆ คนพูด) แต่รูปร่างอ้วนค่ะ เราสูง 155 cm น้ำหนัก 50 kg ค่ะ หลายคนบอกว่าเราเป็นสาวหวาน ๆ หน้าตาออกหวาน แต่ไม่ใช่สาวเปรี้ยวค่ะ
ณ ตอนนี้ ชีวิตเราแต่งานค่ะ เป็นงานที่หนักพอควร เป็นงานเกี่ยวกับวิชาการ ช่วงนี้อยู่ในที่ทำงาน และที่พักเท่านั้น เพราะทำงานแต่ละวันเสร็จ ก็รู้สึกเหนื่อย อยากกลับมาพัก มานอนเอาแรง แต่ถ้าจะให้ไปเที่ยวนั่งดื่ม หรือ เที่ยวสังสรรค์กลางคืนบ่อย ๆ อาจจะไม่ใช่ตัวเราเท่าไหร่ค่ะ แต่ถ้าไปสังสรรค์เป็นบางครั้ง ก็ได้ค่ะ