เรื่องมีอยู่ว่าดิฉันมีเพื่อนที่สนิทและรักมากอยู่คนหนึ่งหล่อนอายุ 35 ปี (อายุมากกว่าดิฉัน 3 ปี) ยังไม่แต่งงาน หล่อนทำงานให้กับบริษัทเอาท์ซอร์สและได้ประจำตำแหน่งเป็น call center ของธนาคารแห่งหนึ่งย่านชิดลม รายได้ที่หล่อนเคยเปรยๆให้ดิฉันฟังมาประมาณ 13,500 ฿/เดือน มีเบี้ยขยันต่างหากประมาณห้าร้อย ค่าทักษะในการทำงานประมาณพันนึง เบ็ดเสร็จรายรับของหล่อนไม่เกินหมื่นห้า สาเหตุที่อายุหล่อนเยอะและยังทำงานเป็นแค่พนักงานสัญญาจ้างมาจากหล่อนทำงานที่ไหนก็มักจะอยู่ได้ไม่นานอีกทั้งมักมีปัญหากับเพื่อนหรือคนในบริษัทเสมอ แต่ประเด็นสำคัญมันอยู่ตรงที่หล่อนเป็นผู้หญิงที่มักจะมีรายจ่ายสูงเกินกว่ารายรับที่มีในแต่ละเดือน และยิ่งไปกว่านั้นหล่อนกำลังสนุกสนานกับการเปิดใช้บัตรเครดิตซึ่งก่อนหน้านี้หล่อนมีบัตรเครดิตกสิกรแค่แบงค์เดียว แต่ตอนนี้หล่อนเพิ่มภาระบัตรอิออนมาอีกหนึ่งบัตร
** ใบแรก ตอน : 4เอส กับ วงเงินสุดท้ายที่เหลืออยู่)
แบงค์แรกหล่อนกดเงินมาเพราะเห็นดิฉันใช้ไอโฟน5 แต่หล่อนบอกว่าวงเงินหล่อนคงไม่พอหล่อนจึงถามความเห็นจากดิฉันว่าถ้าหล่อนจะซื้อ4เอสบ้างจะดีมั้ย ดิฉันตอบหล่อนกลับไปอย่างไม่คิดว่า เธอจะซื้อทำไมในเมื่อเครื่องที่เธอมีอยู่ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรหล่อนอ้างกลับว่าเครื่องที่หล่อนใช้เคสโทรศัพท์ไม่ค่อยสวยแถมหายากอีกทั้งเครื่องมักจะค้างบ่อยๆ ดิฉันก็ไม่รู้จะทำยังไงก็เลยได้แต่อึ้งในความคิดของหล่อนหลังจากทานอาหารมื้อกลางวันเสร็จในวันนั้นหล่อนก็เดินไปร้านขายมือถือมือสองเพื่อที่จะไปซื้อไอโฟน4เอส ทั้งนี้หล่อนบอกคนขายให้ประเมินราคามือถือเครื่องเก่าที่เพิ่งซื้อมาไม่ถึง2เดือนเพื่อที่จะขอเทินและเพิ่มเงินสรุปทางร้านขายให้หล่อนในราคาประมาณหมื่นกว่าบาทดิฉันแย้งหล่อนไปว่าคิดให้ดีนะทำไมต้องสร้างภาระให้ตัวเองอีกมือถือที่ดิฉันใช้ดิฉันซื้อเงินสดไม่ได้ไปกู้หนี้ยืมสินมาหากว่าต้องกู้หนี้มาซื้อดิฉันคงไม่เอา ดิฉันทั้งพูดจูงใจทั้งพรรณาให้หล่อนเห็นภาพว่าการเป็นหนี้มันแย่ขนาดไหนแต่หล่อนก็ค้านหัวชนฝาว่าจะซื้อให้ได้แล้วก็ชวนดิฉันไปกดเงินสดออกมาแปดพันบาท ซึ่งก็เป็นวงเงินสุดท้ายที่เหลืออยู่ในบัตร.
(** ใบที่ 2 ตอน: จิ้มจุ่มมหาประลัย กับ อิออนที่ถูกล็อก )
หล่อนชวนดิฉันไปทานอาหารอิสาน(จิ้มจุ่ม)แถวอพาร์ทเมนท์ที่หล่อนพักซึ่งอยู่แถวลาซาลดิฉันก็ไปโดยใช้บริการรถไฟฟ้าจากคอนโดดิฉัน(ทองหล่อ)ไปพบหล่อน
ทันทีที่พบหล่อน หล่อนบอกดิฉันว่าทำยังไงดีบัตรเครดิตกดเงินไม่ได้โดนล็อกเพราะกดรหัสผิดติดกัน3 ครั้ง ดิฉันเลยถามหล่อนไปว่าถ้ารู้ว่าจะชวนดิฉันมาทานข้าวทำไมเธอไม่เตรียมเงินให้พร้อมก่อนหล่อนอ้างว่าหล่อนมีเงินติดตัวในกระเป๋า600฿และก็เพิ่งเจอเงินในกระเป๋ากางเกงตอนซักผ้าอีก 200฿แต่ปัญหาคือหล่อนบอกว่าหล่อนจะไม่มีเงินไปทำงานจนถึงเงินเดือนออกหล่อนเอ่ยปากยืมเงินดิฉัน500฿เพื่อที่จะมีค่ารถไฟฟ้าไปทำงานในแต่ละวันและค่าอาหารมื้อนี้ก็ให้ดิฉันจ่ายไปก่อนด้วย ซึ่งดิฉันก็ปฎิเสธไม่ได้ ในระหว่างที่ทานข้าวดิฉันก็เหลือบไปเห็นเคสโทรศัพท์ใหม่ของหล่อนด้วยความโมโหดิฉันเลยตำหนิหล่อนไปว่า หล่อนใช้เงินฟุ่มเฟือยมาก อันเก่าที่มีอยู่3-4อันหล่อนบอกว่ามันไม่สวยเอาไปแจกเพื่อนที่ทำงานหมดแล้ว ได้ยินแบบนั้นดิฉันโกรธจนลมออกหู พูดอะไรไม่ถูก และหล่อนยังมีหน้ามาชวนดิฉันไปเที่ยวผับในงานวันเกิดของหล่อนที่จะมาถึงอีกด้วย ดิฉันตอบปฎิเสธไปอย่างสิ้นเชิงว่า ดิฉันอายุเยอะแล้วภาระเรื่องของในอนาคตรออยู่คงไม่มีเวลาไปที่แบบนั้นหรอกต้องขอโทษด้วยดิฉันคิดเพียงแต่ว่านี่ดิฉันอุตส่าห์ถ่อมาจากทองหล่อเพื่อที่จะมาเลี้ยวข้าวเพื่อนแถมเอาเงินมาให้เพื่อนยืมอีกหรือนี่ (ปกติหล่อนก็มักจะให้ดิฉันโอนเงินให้หล่อนยืมเป็นค่าอาหารบ้าง ค่ากาแฟบ้างครั้งละพัน สองพัน ) หลังจากที่แยกย้ายกันกลับในขณะที่ดิฉันอยู่บนรถไฟฟ้าดิฉันนั่งไตร่ตรองพิจารณาชีวิตของเพื่อนคนนี้อย่างข่มขื่น หล่อนใช้ชีวิตไปวันๆโดยไม่คิดอะไรเลย หากเกิดปัญหาเรื่องอะไรก็ตามหล่อนมักจะนึกถึงดิฉันเป็นคนแรกเสมอ เรื่องนี้ดิฉันควรจะทำยังไงดีกับหล่อนดีจะมีหนทางไหนที่จะดัดนิสัยเพื่อนแบบนี้ได้โดยให้เขาคิดถึงคุณค่าของเงินและชีวิตในอนาคตบ้างคะ ตอนนี้ดิฉันปวดหัวกับหล่อนมากๆเพราะหล่อนเป็นเพื่อนสนิทและเป็นเพื่อนที่ดิฉันรักมาก ดิฉันควรทำยังไงดี?
วิธีดัดนิสัยเพื่อนที่สนิทและรักมาก กับ นิสัยชอบใช้เงินเกินตัว! !
** ใบแรก ตอน : 4เอส กับ วงเงินสุดท้ายที่เหลืออยู่)
แบงค์แรกหล่อนกดเงินมาเพราะเห็นดิฉันใช้ไอโฟน5 แต่หล่อนบอกว่าวงเงินหล่อนคงไม่พอหล่อนจึงถามความเห็นจากดิฉันว่าถ้าหล่อนจะซื้อ4เอสบ้างจะดีมั้ย ดิฉันตอบหล่อนกลับไปอย่างไม่คิดว่า เธอจะซื้อทำไมในเมื่อเครื่องที่เธอมีอยู่ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรหล่อนอ้างกลับว่าเครื่องที่หล่อนใช้เคสโทรศัพท์ไม่ค่อยสวยแถมหายากอีกทั้งเครื่องมักจะค้างบ่อยๆ ดิฉันก็ไม่รู้จะทำยังไงก็เลยได้แต่อึ้งในความคิดของหล่อนหลังจากทานอาหารมื้อกลางวันเสร็จในวันนั้นหล่อนก็เดินไปร้านขายมือถือมือสองเพื่อที่จะไปซื้อไอโฟน4เอส ทั้งนี้หล่อนบอกคนขายให้ประเมินราคามือถือเครื่องเก่าที่เพิ่งซื้อมาไม่ถึง2เดือนเพื่อที่จะขอเทินและเพิ่มเงินสรุปทางร้านขายให้หล่อนในราคาประมาณหมื่นกว่าบาทดิฉันแย้งหล่อนไปว่าคิดให้ดีนะทำไมต้องสร้างภาระให้ตัวเองอีกมือถือที่ดิฉันใช้ดิฉันซื้อเงินสดไม่ได้ไปกู้หนี้ยืมสินมาหากว่าต้องกู้หนี้มาซื้อดิฉันคงไม่เอา ดิฉันทั้งพูดจูงใจทั้งพรรณาให้หล่อนเห็นภาพว่าการเป็นหนี้มันแย่ขนาดไหนแต่หล่อนก็ค้านหัวชนฝาว่าจะซื้อให้ได้แล้วก็ชวนดิฉันไปกดเงินสดออกมาแปดพันบาท ซึ่งก็เป็นวงเงินสุดท้ายที่เหลืออยู่ในบัตร.
(** ใบที่ 2 ตอน: จิ้มจุ่มมหาประลัย กับ อิออนที่ถูกล็อก )
หล่อนชวนดิฉันไปทานอาหารอิสาน(จิ้มจุ่ม)แถวอพาร์ทเมนท์ที่หล่อนพักซึ่งอยู่แถวลาซาลดิฉันก็ไปโดยใช้บริการรถไฟฟ้าจากคอนโดดิฉัน(ทองหล่อ)ไปพบหล่อน
ทันทีที่พบหล่อน หล่อนบอกดิฉันว่าทำยังไงดีบัตรเครดิตกดเงินไม่ได้โดนล็อกเพราะกดรหัสผิดติดกัน3 ครั้ง ดิฉันเลยถามหล่อนไปว่าถ้ารู้ว่าจะชวนดิฉันมาทานข้าวทำไมเธอไม่เตรียมเงินให้พร้อมก่อนหล่อนอ้างว่าหล่อนมีเงินติดตัวในกระเป๋า600฿และก็เพิ่งเจอเงินในกระเป๋ากางเกงตอนซักผ้าอีก 200฿แต่ปัญหาคือหล่อนบอกว่าหล่อนจะไม่มีเงินไปทำงานจนถึงเงินเดือนออกหล่อนเอ่ยปากยืมเงินดิฉัน500฿เพื่อที่จะมีค่ารถไฟฟ้าไปทำงานในแต่ละวันและค่าอาหารมื้อนี้ก็ให้ดิฉันจ่ายไปก่อนด้วย ซึ่งดิฉันก็ปฎิเสธไม่ได้ ในระหว่างที่ทานข้าวดิฉันก็เหลือบไปเห็นเคสโทรศัพท์ใหม่ของหล่อนด้วยความโมโหดิฉันเลยตำหนิหล่อนไปว่า หล่อนใช้เงินฟุ่มเฟือยมาก อันเก่าที่มีอยู่3-4อันหล่อนบอกว่ามันไม่สวยเอาไปแจกเพื่อนที่ทำงานหมดแล้ว ได้ยินแบบนั้นดิฉันโกรธจนลมออกหู พูดอะไรไม่ถูก และหล่อนยังมีหน้ามาชวนดิฉันไปเที่ยวผับในงานวันเกิดของหล่อนที่จะมาถึงอีกด้วย ดิฉันตอบปฎิเสธไปอย่างสิ้นเชิงว่า ดิฉันอายุเยอะแล้วภาระเรื่องของในอนาคตรออยู่คงไม่มีเวลาไปที่แบบนั้นหรอกต้องขอโทษด้วยดิฉันคิดเพียงแต่ว่านี่ดิฉันอุตส่าห์ถ่อมาจากทองหล่อเพื่อที่จะมาเลี้ยวข้าวเพื่อนแถมเอาเงินมาให้เพื่อนยืมอีกหรือนี่ (ปกติหล่อนก็มักจะให้ดิฉันโอนเงินให้หล่อนยืมเป็นค่าอาหารบ้าง ค่ากาแฟบ้างครั้งละพัน สองพัน ) หลังจากที่แยกย้ายกันกลับในขณะที่ดิฉันอยู่บนรถไฟฟ้าดิฉันนั่งไตร่ตรองพิจารณาชีวิตของเพื่อนคนนี้อย่างข่มขื่น หล่อนใช้ชีวิตไปวันๆโดยไม่คิดอะไรเลย หากเกิดปัญหาเรื่องอะไรก็ตามหล่อนมักจะนึกถึงดิฉันเป็นคนแรกเสมอ เรื่องนี้ดิฉันควรจะทำยังไงดีกับหล่อนดีจะมีหนทางไหนที่จะดัดนิสัยเพื่อนแบบนี้ได้โดยให้เขาคิดถึงคุณค่าของเงินและชีวิตในอนาคตบ้างคะ ตอนนี้ดิฉันปวดหัวกับหล่อนมากๆเพราะหล่อนเป็นเพื่อนสนิทและเป็นเพื่อนที่ดิฉันรักมาก ดิฉันควรทำยังไงดี?