สวัสดีชาวพันทิพย์ทุกคนครับ ผมสิงอยู่ที่ห้องนี้มานาน ได้ความรู้เรื่องการลงทุน วางแผนชีวิต เลยอยากแชร์ประสบการณ์หารายได้เสริมของผมบ้างครับ
ผมเองเริ่มทำงานมาได้ 2 ปีกว่า ใช้บัตรเครดิตมาปีครึ่งละครับ หลักการใช้บัตรเครดิตของผมคือ ถ้าใช้ ต้องไม่คิดค่าชาร์จ และไม่รูดเกินเงินที่เรามี
ทันทีที่เงินเดือนออก ผมเอาค่าบัตรเครดิตเข้าก่อนทันที ไม่งั้นได้เสียดอกเบี้ยบานเบอะแน่ๆ
ว่าแต่ผมจะมาพูดเรื่องการใช้บัตรเครดิตทำไม ผมจะมาพูดเรื่องการสร้างรายได้จากบัตรเครดิตไม่ใช่หรอ เอาล่ะ เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า
เกริ่นก่อนนะครับ ผมเองเป็นคนนึงที่รักการซื้อของแบบถูกลิขสิทธิ์ ตั้งแต่ทำงานได้ ผมก็เริ่มซื้อของทุกอย่างเป็นของแท้ครับ ไม่ว่าจะเป็น Software App android เกม PS3, PC ผมซื้อแท้หมดครับ (ผมชอบเล่นเกมครับ)
ถ้าคนที่ชอบเล่น Line จะมีช่วงนึงที่ Android สามารถทำให้ซื้อสติ๊กเกอร์ต่างประเทศได้ (ในที่นี้คือ ญี่ปุ่น) เพราะสติ๊๊กเกอร์ญี่ปุ่น จะมีลายน่ารักๆ และเป็นลายการ์ตูนที่เรารู้จักกันดีครับ ผมเองก็ไปลองทำมาเหมือนกัน แต่ก็มีข้อจำกัดหลายๆอย่าง เช่น ต้อง Root เครื่องเท่านั้น และการจะซื้อสติ๊กเกอร์ได้ ก็ต้องมีบัตรเครดิต คนไม่มีบัตร แต่อยากซื้อสติ๊กเกอร์ ก็ซื้อไม่ได้อีก ผมเลยปิ๊งไอเดีย งั้นเราก็ทำเป็นบริการฝากซื้อไปเลยซิ ผมก็เลยเริ่มจากการไปตั้งกระทู้บริการฝากซื้อตามเว็บ android ใหญ่ๆครับ ได้ผล ก็เริ่มมีลูกค้ามาติดต่อบ้าง เพียงแค่ 2 อาทิตย์ ผมทำกำไรได้เกือบ 1,000 เลยทีเดียว ผมเลยต่อยอดด้วยการทำเพจเพื่อเอาไว้อัพเดทว่ามีสติ๊กเกอร์ลายอะไรมาใหม่บ้าง และอัพรูปสติ๊กเกอร์เพื่อให้ลูกค้าดูรูปสติ๊กเกอร์ได้ด้วยครับ
อย่างที่บอกข้างต้น การข้ามประเทศเพื่อซื้อสติ๊กเกอร์ เหมือนเป็นการใช้ช่องโหว่ของ app ทาง Line ก็ต้องมีการป้องกันบ้าง ก็จะมีบางช่วงครับที่ขายไม่ได้เลย เพราะโดนบล็อค แต่ผมก็ไม่ซีเรียสครับ เพราะถือว่าเป็นรายได้เสริม และเป็นการสนับสนุนให้คนไทยใช้ของลิขสิทธิ์กันมากขึ้นด้วย (กำไรต่ออันของสติ๊กเกอร์ ไม่มากครับ อันละ 10-20 บาทเอง)
เนื่องจากผมเป็นคนชอบเล่นเกม ก็เริ่มหาช่องทางการขายบัตรเติมเงินของเจ้าอื่นๆด้วยครับ ผมเล่น PS3 เป็นหลัก และได้หาวิธีการซื้อบัตรเติมเงินของ PS3 ผ่านเว็บ Amazon ซึ่งก็ต้องมีบัตรเครดิตอีก ผมก็เลยขายบัตรเติมเงินของ PS3 เนี่ยแหละครับ ถึงจะขายไม่ดีเท่าสติ๊กเกอร์ เพราะกลุ่มลูกค้าเล็กกว่า แต่กำไรต่อชิ้นมากกว่าพอสมควรครับ (50-100 บาท)
ทั้งนี้ ผมจะเน้นเรื่องการบริการเป็นสำคัญครับ ทันทีที่ลูกค้าโอนเงินมา ไม่เกิน 15 นาที ลูกค้าต้องได้รับของแล้ว เพราะผมเน้นการบริการ เพื่อให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจและประทับใจครับ ลูกค้าจะได้บอกต่อไปเรื่อยๆครับ
เพจของผมจากตอนแรกมีคนไลค์ไม่ถึง 50 ตอนนี้ก็มีคนไลค์ 400 กว่าๆแล้ว ซึ่งผมเองก็พอใจมากครับ ไม่คิดว่าจะมีคนกดเยอะขนาดนี้
รวมๆทั้งหมดที่ผมขายทั้งหมด น่าจะกำไรไปได้ 3,000-5,000 บาทละครับ
มาดูข้อดีข้อเสียของการขายสินค้าแบบ Digital กัน
ข้อดี
- ไม่มีหน้าร้าน ไม่มีต้นทุนการจัดเก็บ เพราะเป็นสินค้าแบบ Digital จับต้องไม่ได้
- เนื่องจากมันเป็นสินค้าที่จับต้องไม่ได้ ดังนั้นจึงไม่มีเรื่องค่าจัดส่ง โดยสินค้าพวกนี้จะส่งเป็นรหัส จากนั้นก็ให้ลูกค้าเอารหัสไปกรอกกับผู้ให้บริการ ก็จะได้รับสินค้าทันที ทำให้สะดวกมากๆครับ
- ลูกค้าที่ซื้อ พอซื้อกับเราครั้งแรกแล้ว ก็จะซื้อกับเราต่อไปเืรื่อยๆ (สติ๊กเกอร์ก็มีแบบใหม่มาเรื่อยๆ บัตรเติมเงิน พอใช้หมดก็มาซื้อเพิ่มอีก)
ข้อเสีย
- เป็นสินค้าเฉพาะกลุ่ม ทำให้ขายได้น้อย หรือบางวันขายไม่ได้เลย
- ถ้าจะทำเป็นรายได้หลัก คงไม่คุ้มเท่าไหร่
ทั้งหมดที่ว่ามานี้ ผมคงจะทำไม่ได้ ถ้าไม่มีบัตรพลาสติกแข็งๆ ที่เรียกว่า "บัตรเครดิต" ครับ
ขอบคุณครับ
แท็กบัตรเครดิต เพราะเกี่ยวข้องโดยตรง
แท็กการตลาดกับ การบริหารจัดการ เพื่อแชร์ข้อมูลการขายของผมครับ
หลายคนบอกว่าบัตรเครดิตเป็นสิ่งที่ทำให้เราเป็นหนี้ แต่ผมเอามันมาทำให้เกิดรายได้ ทำยังไง มาดูกัน !!!
ผมเองเริ่มทำงานมาได้ 2 ปีกว่า ใช้บัตรเครดิตมาปีครึ่งละครับ หลักการใช้บัตรเครดิตของผมคือ ถ้าใช้ ต้องไม่คิดค่าชาร์จ และไม่รูดเกินเงินที่เรามี
ทันทีที่เงินเดือนออก ผมเอาค่าบัตรเครดิตเข้าก่อนทันที ไม่งั้นได้เสียดอกเบี้ยบานเบอะแน่ๆ
ว่าแต่ผมจะมาพูดเรื่องการใช้บัตรเครดิตทำไม ผมจะมาพูดเรื่องการสร้างรายได้จากบัตรเครดิตไม่ใช่หรอ เอาล่ะ เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า
เกริ่นก่อนนะครับ ผมเองเป็นคนนึงที่รักการซื้อของแบบถูกลิขสิทธิ์ ตั้งแต่ทำงานได้ ผมก็เริ่มซื้อของทุกอย่างเป็นของแท้ครับ ไม่ว่าจะเป็น Software App android เกม PS3, PC ผมซื้อแท้หมดครับ (ผมชอบเล่นเกมครับ)
ถ้าคนที่ชอบเล่น Line จะมีช่วงนึงที่ Android สามารถทำให้ซื้อสติ๊กเกอร์ต่างประเทศได้ (ในที่นี้คือ ญี่ปุ่น) เพราะสติ๊๊กเกอร์ญี่ปุ่น จะมีลายน่ารักๆ และเป็นลายการ์ตูนที่เรารู้จักกันดีครับ ผมเองก็ไปลองทำมาเหมือนกัน แต่ก็มีข้อจำกัดหลายๆอย่าง เช่น ต้อง Root เครื่องเท่านั้น และการจะซื้อสติ๊กเกอร์ได้ ก็ต้องมีบัตรเครดิต คนไม่มีบัตร แต่อยากซื้อสติ๊กเกอร์ ก็ซื้อไม่ได้อีก ผมเลยปิ๊งไอเดีย งั้นเราก็ทำเป็นบริการฝากซื้อไปเลยซิ ผมก็เลยเริ่มจากการไปตั้งกระทู้บริการฝากซื้อตามเว็บ android ใหญ่ๆครับ ได้ผล ก็เริ่มมีลูกค้ามาติดต่อบ้าง เพียงแค่ 2 อาทิตย์ ผมทำกำไรได้เกือบ 1,000 เลยทีเดียว ผมเลยต่อยอดด้วยการทำเพจเพื่อเอาไว้อัพเดทว่ามีสติ๊กเกอร์ลายอะไรมาใหม่บ้าง และอัพรูปสติ๊กเกอร์เพื่อให้ลูกค้าดูรูปสติ๊กเกอร์ได้ด้วยครับ
อย่างที่บอกข้างต้น การข้ามประเทศเพื่อซื้อสติ๊กเกอร์ เหมือนเป็นการใช้ช่องโหว่ของ app ทาง Line ก็ต้องมีการป้องกันบ้าง ก็จะมีบางช่วงครับที่ขายไม่ได้เลย เพราะโดนบล็อค แต่ผมก็ไม่ซีเรียสครับ เพราะถือว่าเป็นรายได้เสริม และเป็นการสนับสนุนให้คนไทยใช้ของลิขสิทธิ์กันมากขึ้นด้วย (กำไรต่ออันของสติ๊กเกอร์ ไม่มากครับ อันละ 10-20 บาทเอง)
เนื่องจากผมเป็นคนชอบเล่นเกม ก็เริ่มหาช่องทางการขายบัตรเติมเงินของเจ้าอื่นๆด้วยครับ ผมเล่น PS3 เป็นหลัก และได้หาวิธีการซื้อบัตรเติมเงินของ PS3 ผ่านเว็บ Amazon ซึ่งก็ต้องมีบัตรเครดิตอีก ผมก็เลยขายบัตรเติมเงินของ PS3 เนี่ยแหละครับ ถึงจะขายไม่ดีเท่าสติ๊กเกอร์ เพราะกลุ่มลูกค้าเล็กกว่า แต่กำไรต่อชิ้นมากกว่าพอสมควรครับ (50-100 บาท)
ทั้งนี้ ผมจะเน้นเรื่องการบริการเป็นสำคัญครับ ทันทีที่ลูกค้าโอนเงินมา ไม่เกิน 15 นาที ลูกค้าต้องได้รับของแล้ว เพราะผมเน้นการบริการ เพื่อให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจและประทับใจครับ ลูกค้าจะได้บอกต่อไปเรื่อยๆครับ
เพจของผมจากตอนแรกมีคนไลค์ไม่ถึง 50 ตอนนี้ก็มีคนไลค์ 400 กว่าๆแล้ว ซึ่งผมเองก็พอใจมากครับ ไม่คิดว่าจะมีคนกดเยอะขนาดนี้
รวมๆทั้งหมดที่ผมขายทั้งหมด น่าจะกำไรไปได้ 3,000-5,000 บาทละครับ
มาดูข้อดีข้อเสียของการขายสินค้าแบบ Digital กัน
ข้อดี
- ไม่มีหน้าร้าน ไม่มีต้นทุนการจัดเก็บ เพราะเป็นสินค้าแบบ Digital จับต้องไม่ได้
- เนื่องจากมันเป็นสินค้าที่จับต้องไม่ได้ ดังนั้นจึงไม่มีเรื่องค่าจัดส่ง โดยสินค้าพวกนี้จะส่งเป็นรหัส จากนั้นก็ให้ลูกค้าเอารหัสไปกรอกกับผู้ให้บริการ ก็จะได้รับสินค้าทันที ทำให้สะดวกมากๆครับ
- ลูกค้าที่ซื้อ พอซื้อกับเราครั้งแรกแล้ว ก็จะซื้อกับเราต่อไปเืรื่อยๆ (สติ๊กเกอร์ก็มีแบบใหม่มาเรื่อยๆ บัตรเติมเงิน พอใช้หมดก็มาซื้อเพิ่มอีก)
ข้อเสีย
- เป็นสินค้าเฉพาะกลุ่ม ทำให้ขายได้น้อย หรือบางวันขายไม่ได้เลย
- ถ้าจะทำเป็นรายได้หลัก คงไม่คุ้มเท่าไหร่
ทั้งหมดที่ว่ามานี้ ผมคงจะทำไม่ได้ ถ้าไม่มีบัตรพลาสติกแข็งๆ ที่เรียกว่า "บัตรเครดิต" ครับ
ขอบคุณครับ
แท็กบัตรเครดิต เพราะเกี่ยวข้องโดยตรง
แท็กการตลาดกับ การบริหารจัดการ เพื่อแชร์ข้อมูลการขายของผมครับ