สัปดาห์ที่ผ่านมา คนไทยมีความสุขกับการทำหน้าที่อย่างแข็งขันของคณะทีมกฎหมายไทยในคดีประสาทพระวิหารโดยมี ท่านทูตวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเฮก เนเธอร์แลนด์ เพราะทุกคำพูดทุกถ้อยคำล้วนแสดงถึงความรักชาติ
การแสดงออกซึ่งความรักชาติไม่ใช่เรื่องน่าอายหรือเรื่องเสียหาย อย่างพี่น้องที่อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ไปชุมนุมที่ทางขึ้นปราสาทพระวิหารจะเอาธงชาติไปปักบนผามออีแดงเพื่อแสดงออกถึงความรักชาติ
แต่ยังมีเจ้าหน้าที่หัวโบราณขัดขวางเกรงใจเขมรว่าจะเป็นการยั่วยุ ทั้งๆ ที่ผ่านมาเราจะเห็นแล้วว่าเขมรภายใต้การนำของฮุนเซ็นไม่เคยเกรงใจคนไทยและประเทศไทยเลย แล้วธุระอะไรที่เราต้องไปเกรงใจมัน
ผมบอกตรงๆ ว่าบ้านเมืองเป็นเอกราชมาจนปัจจุบันนี้โดยไม่ตกเป็นเมืองขึ้นของใครเลยนั้นไม่ว่าจะในยุคล่าอาณานิคมหรือยุคสงครามโลกนั่นเพราะเรามีคนรักชาติมากกว่าคนขายชาติ แม้บางครั้งพระมหากษัตริย์ไทยจะยอมเจ็บปวดเฉือนแผ่นดินเพื่อแลกกับเอกราชบ้างก็ตามแต่นั่นเป็นการแก้ปัญหาเพื่อให้ชาติและประชาชนอยู่รอด
ผิดกับปัจจุบันที่มีนักการเมืองบางกลุ่มกำลังจะขายชาติขายแผ่นดินเพื่อแลกกับผลประโยชน์ส่วนตน
ผมคิดเล่นๆ นี่ถ้าท่านทูตวีรชัย เกิดก่อนปี 2505 นานกว่านี้ (ท่านทูตเกิดปี 2503) ท่านจะมีโอกาสเป็นหนึ่งในทีมทนายความต่อสู้คดีประสาทพระวิหารที่ยึดครองโดยฝรั่งเศส ไม่แน่นะเราอาจชนะ เขาพระวิหารจะไม่ตกเป็นของกัมพูชา
วันนี้ผมก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมคนรุ่นก่อนถึงนิ่งเฉยปล่อยให้ปราสาทพระวิหารหลุดมือไปเพราะ กฎหมายปิดปาก ทำไมเราไม่ทักท้วง ทำไมเราไม่ประท้วง ทำไมถึงปล่อยให้กฎหมายปิดปาก
กรณีท่านทูตวีรชัย ก็ถูกนักการเมืองและผู้มีอำนาจทำการ “ปิดปาก” เหมือนกัน แต่เหมือนเดชะบุญแห่งพระสยามเทวาธิราช ที่พวกขายชาติ ย้ายท่านทูตให้หนีห่างจากคดีเขาพระวิหาร จนในที่สุดได้กลับมาเป็นท่านทูตที่กรุงเฮก ซึ่งจะต้องว่าความคดีปราสาทพระวิหาร
โบราณเขาว่า ธรรมะย่อมชนะอธรรม
พอท่านทูตวีรชัยและทีมทนายความขึ้นแถลงด้วยวาจาจบยกแรก ปรากฏว่าไม่เป็นไปตามที่ฝ่ายการเมืองต้องการคือ ให้ยอมแพ้เขมร แต่ท่านทูตวีรชัยและทีมกฎหมายรักชาติ จึงต่อสู้เพื่อปกป้องชาติ โดยไม่สนคนระดับรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของไทยที่ไปคุมเชิงอยู่ที่นั่น
ผลของความรักชาติ ทำให้ท่านทูตวีรชัยและทีมกฎหมายได้รับการชื่นชมจากคนไทยทั่วโลก พลังแห่งโลกออนไลน์มันทำให้พวกคนขายชาติทั้งหลายต้องหลบฉากกันพัลวัน บางคนหลบไม่ทันก็อ้อมแอ้มขอโหนภารกิจยิ่งใหญ่ของทีมกฎหมายในครั้งนี้ด้วย
เห็นหรือยังละครับว่าคนรักชาติกับคนขายชาติต่างกันตรงที่คนรักชาติทำหน้าที่เพื่อปกป้องรักษาชาติบ้านเมืองเอาไว้ แต่คนขายชาติทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ตนเอง
ผลงานของท่านทูตวีรชัยครั้งนี้ เสมือนตบหน้าพวกขายชาติอย่างจัง
ที่มา:
http://www.naewna.com/politic/columnist/6334
ปล.ผมขอคาราวะ..ท่านทูต และทีมทนายทุกท่านครับ......
รักชาติและขายชาติ
การแสดงออกซึ่งความรักชาติไม่ใช่เรื่องน่าอายหรือเรื่องเสียหาย อย่างพี่น้องที่อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ไปชุมนุมที่ทางขึ้นปราสาทพระวิหารจะเอาธงชาติไปปักบนผามออีแดงเพื่อแสดงออกถึงความรักชาติ
แต่ยังมีเจ้าหน้าที่หัวโบราณขัดขวางเกรงใจเขมรว่าจะเป็นการยั่วยุ ทั้งๆ ที่ผ่านมาเราจะเห็นแล้วว่าเขมรภายใต้การนำของฮุนเซ็นไม่เคยเกรงใจคนไทยและประเทศไทยเลย แล้วธุระอะไรที่เราต้องไปเกรงใจมัน
ผมบอกตรงๆ ว่าบ้านเมืองเป็นเอกราชมาจนปัจจุบันนี้โดยไม่ตกเป็นเมืองขึ้นของใครเลยนั้นไม่ว่าจะในยุคล่าอาณานิคมหรือยุคสงครามโลกนั่นเพราะเรามีคนรักชาติมากกว่าคนขายชาติ แม้บางครั้งพระมหากษัตริย์ไทยจะยอมเจ็บปวดเฉือนแผ่นดินเพื่อแลกกับเอกราชบ้างก็ตามแต่นั่นเป็นการแก้ปัญหาเพื่อให้ชาติและประชาชนอยู่รอด
ผิดกับปัจจุบันที่มีนักการเมืองบางกลุ่มกำลังจะขายชาติขายแผ่นดินเพื่อแลกกับผลประโยชน์ส่วนตน
ผมคิดเล่นๆ นี่ถ้าท่านทูตวีรชัย เกิดก่อนปี 2505 นานกว่านี้ (ท่านทูตเกิดปี 2503) ท่านจะมีโอกาสเป็นหนึ่งในทีมทนายความต่อสู้คดีประสาทพระวิหารที่ยึดครองโดยฝรั่งเศส ไม่แน่นะเราอาจชนะ เขาพระวิหารจะไม่ตกเป็นของกัมพูชา
วันนี้ผมก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมคนรุ่นก่อนถึงนิ่งเฉยปล่อยให้ปราสาทพระวิหารหลุดมือไปเพราะ กฎหมายปิดปาก ทำไมเราไม่ทักท้วง ทำไมเราไม่ประท้วง ทำไมถึงปล่อยให้กฎหมายปิดปาก
กรณีท่านทูตวีรชัย ก็ถูกนักการเมืองและผู้มีอำนาจทำการ “ปิดปาก” เหมือนกัน แต่เหมือนเดชะบุญแห่งพระสยามเทวาธิราช ที่พวกขายชาติ ย้ายท่านทูตให้หนีห่างจากคดีเขาพระวิหาร จนในที่สุดได้กลับมาเป็นท่านทูตที่กรุงเฮก ซึ่งจะต้องว่าความคดีปราสาทพระวิหาร
โบราณเขาว่า ธรรมะย่อมชนะอธรรม
พอท่านทูตวีรชัยและทีมทนายความขึ้นแถลงด้วยวาจาจบยกแรก ปรากฏว่าไม่เป็นไปตามที่ฝ่ายการเมืองต้องการคือ ให้ยอมแพ้เขมร แต่ท่านทูตวีรชัยและทีมกฎหมายรักชาติ จึงต่อสู้เพื่อปกป้องชาติ โดยไม่สนคนระดับรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของไทยที่ไปคุมเชิงอยู่ที่นั่น
ผลของความรักชาติ ทำให้ท่านทูตวีรชัยและทีมกฎหมายได้รับการชื่นชมจากคนไทยทั่วโลก พลังแห่งโลกออนไลน์มันทำให้พวกคนขายชาติทั้งหลายต้องหลบฉากกันพัลวัน บางคนหลบไม่ทันก็อ้อมแอ้มขอโหนภารกิจยิ่งใหญ่ของทีมกฎหมายในครั้งนี้ด้วย
เห็นหรือยังละครับว่าคนรักชาติกับคนขายชาติต่างกันตรงที่คนรักชาติทำหน้าที่เพื่อปกป้องรักษาชาติบ้านเมืองเอาไว้ แต่คนขายชาติทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ตนเอง
ผลงานของท่านทูตวีรชัยครั้งนี้ เสมือนตบหน้าพวกขายชาติอย่างจัง
ที่มา:http://www.naewna.com/politic/columnist/6334
ปล.ผมขอคาราวะ..ท่านทูต และทีมทนายทุกท่านครับ......