''เสือใต้'' ทำสถิติคว้าแชมป์เร็วบุนเดสฯ สะท้อนช่องห่างบอล ยุโรป (แมนฯยู(พรีเมียร์ลีก) & บาซ่า(ลาลีก้า) & ยูเวนตุส(ซีรีย์อา)
การคว้าแชมป์บุนเดสลีกาได้อย่างรวดในฤดูกาลนี้ของ บาเยิร์น มิวนิค หลังทำแต้มทิ้งห่าง ดอร์ทมุนด์ ทีมแชมป์เก่า 20 คะแนน โดยเหลือการแข่งขันอีกหกนัด เป็นตัวอย่างให้เห็นว่าเกิดความผิดปกติขึ้นในลีกใหญ่ๆ ของ ยุโรป โดย แมนฯ ยูไนเต็ด ก็นำ แมนฯ ซิตี้ ทีมแชมป์เก่า พรีเมียร์ ลีก 13 แต้ม โดยแข่งมากกว่า 1 นัด และในลา ลีกา นั้น บาร์เซโลน่า นำ เรอัล มาดริด ทีมแชมป์เก่า 13 แต้ม ส่วนในกัลโช่ เซเรีย อา ทางยูเวนตุสนำ นาโปลี 11 แต้ม
ทั้งนี้สถิติต่างๆ ในฤดูกาลนี้แสดงให้เห็นว่าการลุ้นแชมป์ลีกใหญ่ๆ ในยุโรปเริ่มจะขาดความสูสี (สถิติถึงวันที่ 8 เมษายน 2013) โดยบาเยิร์น เก็บแต้มได้ถึงนัดละ 2.68 ต่อเกม มากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง ตามด้วย บาร์เซโลน่า 2.60 แต้มต่อเกม และ ยูไนเต็ด 2.57 แต้มต่อเกม โดยสถิติของ ''บาร์ซ่า'' ใกล้เคียงกับตอนที่ ''ราชันชุดขาว'' คว้า 100 แต้มเมื่อฤดูกาลที่แล้ว โดยพวกเขาทำเฉลี่ย 2.63 แต้มต่อเกม ส่วน ''ผีแดง'' ทำสถิติเหนือกว่าตอนที่เชลซีเก็บแต้มได้มากที่สุดในฤดูกาล 2004/05 โดยทำได้ทั้งหมด 95 แต้ม แต่ ''สิงโตน้ำเงินคราม'' ก็ทำเฉลี่ยแค่ 2.50 แต้มต่อเกม
บรรดาขุนพลทีม ''เสือใต้'' บาเยิร์น มิวนิค ไปขอบคุณแฟนๆ ที่คอยตามเชียร์และให้กำลังใจมาตลอดทั้งฤดูกาล หลังจบเกม
อย่างไรก็ตามตารางคะแนนในลีกเพียงแค่อย่างเดียวไม่สามารถบอกได้ว่าใครแข็งแกร่งกว่าใคร เพราะ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ตกรอบยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เพราะ เรอัล มาดริด มาแล้ว นอกจากนั้น ''ราชันชุดขาว'' ยังเอาชนะบาร์เซโลน่าได้ในถ้วยสแปนิช คัพ
ซิลแว็ง ดิสแต็ง กองหลังของเอฟเวอร์ตันเชื่อว่าเหตุผลสำคัญที่ทำให้ ยูไนเต็ด แตกต่างจากทีมอื่นๆ ใน พรีเมียร์ลีก นั่นคือพวกเขาสามารถรักษาฟอร์มการเล่นที่สม่ำเสมอได้อย่างน่าเหลือเชื่อ
อูลี่ เฮอเนส (ซ้าย) ประธานสโมสรบาเยิร์น และ คาร์ล ไฮนซ์ รุมเมนิกเก้ (ขวา) ซีอีโอของทีมมากันพร้อมหน้าพร้อมตาในเกมนี้
''พวกเขาไม่ใช่ทีมที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุด หรือเป็นทีมที่น่าประทับใจอะไร แต่พวกเขาเป็นทีมที่มีประสิทธิภาพมาก จุดแข็งอย่างหนึ่งของพวกเขาคือ รู้วิธีที่จะชนะหรือตีเสมอในวันที่เล่นได้ย่ำแย่''
ทั้งนี้ไม่ว่าอย่างไร เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจว่าทำไมฤดูกาลนี้การแข่งขันฟุตบอลลีกใหญ่ๆ ในยุโรป ถึงขาดความสูสีแบบนี้ และหวังว่ามันจะเป็นแค่ปรากฏการณ์ชั่วคราว เนื่องจากทุกคนต่างก็ต้องการเห็นการลุ้นแชมป์มีขึ้นจนถึงนัดสุดท้าย เหมือนอย่างฤดูกาลที่แล้วที่ แมนฯ ซิตี้ แย่งแชมป์พรีเมียร์ลีกไปจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ
credit : www.siamsport.co.th โดย คอลัมน์ : สกู๊ปพิเศษ จาก...สยามกีฬา โดย.. โกลเด้นโจ
[กระทู้สโมสรยุโรป 2013-04-20] ''เสือใต้''ทำสถิติคว้าแชมป์เร็วสะท้อนช่องห่างบอลยุโรป (แมนฯยู & บาซ่า & ยูเว่)
การคว้าแชมป์บุนเดสลีกาได้อย่างรวดในฤดูกาลนี้ของ บาเยิร์น มิวนิค หลังทำแต้มทิ้งห่าง ดอร์ทมุนด์ ทีมแชมป์เก่า 20 คะแนน โดยเหลือการแข่งขันอีกหกนัด เป็นตัวอย่างให้เห็นว่าเกิดความผิดปกติขึ้นในลีกใหญ่ๆ ของ ยุโรป โดย แมนฯ ยูไนเต็ด ก็นำ แมนฯ ซิตี้ ทีมแชมป์เก่า พรีเมียร์ ลีก 13 แต้ม โดยแข่งมากกว่า 1 นัด และในลา ลีกา นั้น บาร์เซโลน่า นำ เรอัล มาดริด ทีมแชมป์เก่า 13 แต้ม ส่วนในกัลโช่ เซเรีย อา ทางยูเวนตุสนำ นาโปลี 11 แต้ม
ทั้งนี้สถิติต่างๆ ในฤดูกาลนี้แสดงให้เห็นว่าการลุ้นแชมป์ลีกใหญ่ๆ ในยุโรปเริ่มจะขาดความสูสี (สถิติถึงวันที่ 8 เมษายน 2013) โดยบาเยิร์น เก็บแต้มได้ถึงนัดละ 2.68 ต่อเกม มากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง ตามด้วย บาร์เซโลน่า 2.60 แต้มต่อเกม และ ยูไนเต็ด 2.57 แต้มต่อเกม โดยสถิติของ ''บาร์ซ่า'' ใกล้เคียงกับตอนที่ ''ราชันชุดขาว'' คว้า 100 แต้มเมื่อฤดูกาลที่แล้ว โดยพวกเขาทำเฉลี่ย 2.63 แต้มต่อเกม ส่วน ''ผีแดง'' ทำสถิติเหนือกว่าตอนที่เชลซีเก็บแต้มได้มากที่สุดในฤดูกาล 2004/05 โดยทำได้ทั้งหมด 95 แต้ม แต่ ''สิงโตน้ำเงินคราม'' ก็ทำเฉลี่ยแค่ 2.50 แต้มต่อเกม
บรรดาขุนพลทีม ''เสือใต้'' บาเยิร์น มิวนิค ไปขอบคุณแฟนๆ ที่คอยตามเชียร์และให้กำลังใจมาตลอดทั้งฤดูกาล หลังจบเกม
อย่างไรก็ตามตารางคะแนนในลีกเพียงแค่อย่างเดียวไม่สามารถบอกได้ว่าใครแข็งแกร่งกว่าใคร เพราะ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ตกรอบยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เพราะ เรอัล มาดริด มาแล้ว นอกจากนั้น ''ราชันชุดขาว'' ยังเอาชนะบาร์เซโลน่าได้ในถ้วยสแปนิช คัพ
ซิลแว็ง ดิสแต็ง กองหลังของเอฟเวอร์ตันเชื่อว่าเหตุผลสำคัญที่ทำให้ ยูไนเต็ด แตกต่างจากทีมอื่นๆ ใน พรีเมียร์ลีก นั่นคือพวกเขาสามารถรักษาฟอร์มการเล่นที่สม่ำเสมอได้อย่างน่าเหลือเชื่อ
อูลี่ เฮอเนส (ซ้าย) ประธานสโมสรบาเยิร์น และ คาร์ล ไฮนซ์ รุมเมนิกเก้ (ขวา) ซีอีโอของทีมมากันพร้อมหน้าพร้อมตาในเกมนี้
''พวกเขาไม่ใช่ทีมที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุด หรือเป็นทีมที่น่าประทับใจอะไร แต่พวกเขาเป็นทีมที่มีประสิทธิภาพมาก จุดแข็งอย่างหนึ่งของพวกเขาคือ รู้วิธีที่จะชนะหรือตีเสมอในวันที่เล่นได้ย่ำแย่''
ทั้งนี้ไม่ว่าอย่างไร เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจว่าทำไมฤดูกาลนี้การแข่งขันฟุตบอลลีกใหญ่ๆ ในยุโรป ถึงขาดความสูสีแบบนี้ และหวังว่ามันจะเป็นแค่ปรากฏการณ์ชั่วคราว เนื่องจากทุกคนต่างก็ต้องการเห็นการลุ้นแชมป์มีขึ้นจนถึงนัดสุดท้าย เหมือนอย่างฤดูกาลที่แล้วที่ แมนฯ ซิตี้ แย่งแชมป์พรีเมียร์ลีกไปจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ
credit : www.siamsport.co.th โดย คอลัมน์ : สกู๊ปพิเศษ จาก...สยามกีฬา โดย.. โกลเด้นโจ