สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 39
ผมอยู่ที่บอสตันครับเลยติดตามค่อนข้างละเอียด คือเค้าอาศัยภาพจากจุดเกิดเหตุจากหลายๆ มุม ยิ่งปัจจุบันมีคนใช้มือถือถ่ายรูปถ่ายคลิปลง social media ยิ่งได้ข้อมูลมากขึ้นไปอีก (ที่น่าตลกคือโปรแกรมตรวจจับภาพไม่สามารถระบุชื่อของทั้งสองคนได้ ทั้งๆ ที่มีรูปอยู่ใน database) พอลงมาที่สองคนนี้ก็อาศัยการไปขอข้อมูลจากผู้อยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งมีแบบคนนึงที่เหตุจะๆ แบบเอากระเป๋าเป้ระเบิดมาวางไว้ข้างหน้าเค้าเลย เลยระบุตัวได้
ต่อมา FBI ก็เลยตัดสินใจเผยแพร่รูป ก็ยิ่งได้ข้อมูลเบาะแสมากขึ้นไปอีก สองคนนั้นคงจะตกใจพยายามหลบหนี เกิดเหตุการณ์ที่ 7/11 ยิงตำรวจที่ MIT จี้รถจนไปจอดเติมน้ำมัน บังคับให้คนขับรถกดเงิน ATM ให้ แล้วปล่อยตัวไป (มีข่าวว่าเจ้าของรถไม่ใช่คนอเมริกันเลยถูกปล่อยตัว) คนขับรถเลยแจ้งตำรวจ ตำรวจก็เลยตาม track รถคันนั้นจากโทรศัพท์ของเจ้าของรถที่ทิ้งไว้ในรถ
ตำรวจติดตามสองคนนั้นจนทัน และเกิดการปะทะกันที่ Waterdown จนคนพี่เสียชีวิต ส่วนคนน้องหนีไปได้ คนน้องตัดสินใจทิ้งรถแล้วหายตัวไป เช้าวันต่อมาผู้ว่าการรัฐออกคำสั่งร้องขอให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้าน (นึกสภาพว่ามันยิ่งใหญ่มาก แบบว่าปิดทั้งเมือง ลองนึกสภาพแบบกรุงเทพสั่งปิดเมืองทั้งเมืองเพื่อตามจับคนๆ เดียวดูนะครับ) แต่จนเย็นก็ยังหาตัวไม่เจอ
จนกระทั่งมีการตัดสินใจประกาศยกเลิกคำสั่งดังกล่าว ชายคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ที่บ้านหนึ่งใน Watertown ก็เลยออกมาเดินรอบๆ บ้านผ่อนคลายความเครียด เค้าสังเกตเห็นที่เรือของเค้าที่อยู่ที่สวนหลังบ้านมีความผิดปกติ ผ้าใบเหมือนถูกเปิดออก พอเข้าไปใกล้ๆ เห็นรอยเลือด เลยโทรแจ้งตำรวจ
พอตำรวจก็ยกกำลังมา เกิดการยิงกันนิดหน่อย (ไม่แน่ใจกับลำดับเหตุการณ์ตอนนี้เหมือนกัน) ตอนนั้นมีการตรวจจับการเคลื่อนไหว ตรวจจับความร้อน จนแน่ชัดว่าคนน้องอยู่ในนั้นแน่นอน มีการเจรจาจนกระทั่งเกิดการยอมมอบตัว (ช่วงนี้หนิลุ้นกันมันมาก คือมีคนเอาวิทยุตำรวจมา stream กันออนไลน์ ลุ้นกันแบบ real-time ถึงแม้จะเป็นข้อความแบบสั้นๆ ตั้งแต่คนร้ายอยู่ในเรือจริงหรือไม่ คนร้ายมีระเบิดหรือไม่เพราะในตัวเรือก็มีถังน้ำมันอยู่ ตำรวจเกิดการเถียงกันนิดหน่อย จนกระทั้งมีการขอน้ำเย็น ยันไปถึงขอแพทย์เข้ามาช่วยเหลือ พร้อมเสียงเฮ หยั่งกะดูซีรีย์อยู่จริงๆ แต่ตำรวจก็เสี่ยงเหมือนกันเพราะถ้าทำกันเป็นขบวนการหนิ ตำรวจคนไม่ปลอดภัยนัก)
สรุปคือนอกจากตำรวจจะจริงจัง+ใช้เทคโนโลยีมากแล้ว ผมว่าส่วนสำคัญมากส่วนหนึ่งคือความร่วมมือของประชาชนครับ ไม่งั้นก็ไม่เร็วขนาดนี้หรอก
ต่อมา FBI ก็เลยตัดสินใจเผยแพร่รูป ก็ยิ่งได้ข้อมูลเบาะแสมากขึ้นไปอีก สองคนนั้นคงจะตกใจพยายามหลบหนี เกิดเหตุการณ์ที่ 7/11 ยิงตำรวจที่ MIT จี้รถจนไปจอดเติมน้ำมัน บังคับให้คนขับรถกดเงิน ATM ให้ แล้วปล่อยตัวไป (มีข่าวว่าเจ้าของรถไม่ใช่คนอเมริกันเลยถูกปล่อยตัว) คนขับรถเลยแจ้งตำรวจ ตำรวจก็เลยตาม track รถคันนั้นจากโทรศัพท์ของเจ้าของรถที่ทิ้งไว้ในรถ
ตำรวจติดตามสองคนนั้นจนทัน และเกิดการปะทะกันที่ Waterdown จนคนพี่เสียชีวิต ส่วนคนน้องหนีไปได้ คนน้องตัดสินใจทิ้งรถแล้วหายตัวไป เช้าวันต่อมาผู้ว่าการรัฐออกคำสั่งร้องขอให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้าน (นึกสภาพว่ามันยิ่งใหญ่มาก แบบว่าปิดทั้งเมือง ลองนึกสภาพแบบกรุงเทพสั่งปิดเมืองทั้งเมืองเพื่อตามจับคนๆ เดียวดูนะครับ) แต่จนเย็นก็ยังหาตัวไม่เจอ
จนกระทั่งมีการตัดสินใจประกาศยกเลิกคำสั่งดังกล่าว ชายคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ที่บ้านหนึ่งใน Watertown ก็เลยออกมาเดินรอบๆ บ้านผ่อนคลายความเครียด เค้าสังเกตเห็นที่เรือของเค้าที่อยู่ที่สวนหลังบ้านมีความผิดปกติ ผ้าใบเหมือนถูกเปิดออก พอเข้าไปใกล้ๆ เห็นรอยเลือด เลยโทรแจ้งตำรวจ
พอตำรวจก็ยกกำลังมา เกิดการยิงกันนิดหน่อย (ไม่แน่ใจกับลำดับเหตุการณ์ตอนนี้เหมือนกัน) ตอนนั้นมีการตรวจจับการเคลื่อนไหว ตรวจจับความร้อน จนแน่ชัดว่าคนน้องอยู่ในนั้นแน่นอน มีการเจรจาจนกระทั่งเกิดการยอมมอบตัว (ช่วงนี้หนิลุ้นกันมันมาก คือมีคนเอาวิทยุตำรวจมา stream กันออนไลน์ ลุ้นกันแบบ real-time ถึงแม้จะเป็นข้อความแบบสั้นๆ ตั้งแต่คนร้ายอยู่ในเรือจริงหรือไม่ คนร้ายมีระเบิดหรือไม่เพราะในตัวเรือก็มีถังน้ำมันอยู่ ตำรวจเกิดการเถียงกันนิดหน่อย จนกระทั้งมีการขอน้ำเย็น ยันไปถึงขอแพทย์เข้ามาช่วยเหลือ พร้อมเสียงเฮ หยั่งกะดูซีรีย์อยู่จริงๆ แต่ตำรวจก็เสี่ยงเหมือนกันเพราะถ้าทำกันเป็นขบวนการหนิ ตำรวจคนไม่ปลอดภัยนัก)
สรุปคือนอกจากตำรวจจะจริงจัง+ใช้เทคโนโลยีมากแล้ว ผมว่าส่วนสำคัญมากส่วนหนึ่งคือความร่วมมือของประชาชนครับ ไม่งั้นก็ไม่เร็วขนาดนี้หรอก
สมาชิกหมายเลข 1108592 ถูกใจ, LC_Barrister ถูกใจ, เเมนเอล ถูกใจ, Iseria Queen ถูกใจ, งำงำก๊าก ถูกใจ, นายลุงหมี ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 708120 ถูกใจ, พี่ถึก ถูกใจ, jayaus ถูกใจ, p-ciousz ถูกใจรวมถึงอีก 3 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 15
บางคนมันก็เกลียดอเมริกาจนหน้ามืดตามัว.............ทฤษฎีอะไรก็เชื่อไปหมด แม้จะไร้สาระแค่ไหน....................ค่อย ๆ คิดแบบมีสติว่าน่าจะจริงไหมดีกว่าครับ
สมาชิกหมายเลข 4632122 ถูกใจ, เเมนเอล ถูกใจ, นายลุงหมี ถูกใจ, ploywerpuff ถูกใจ, ตาเถรตกกระโถน ถูกใจ, bloomviolet ถูกใจ, GOTIGER ถูกใจ, june_ju ถูกใจ, nut461 ถูกใจ, นกแคปหมู ถูกใจรวมถึงอีก 10 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
แสดงความคิดเห็น
ทำไมFBI กับตำรวจบอสตัน ตามสืบตามจับคนร้ายได้อย่างรวดเร็วมีประสิทธิภาพจัง และในภาพเขาใช้อาวุธ อุปกรณ์อะไรบ้าง
1
7-11 robbery
Central Square, Cambridge — A security camera records an image of a man identified as one of the suspects, wearing a gray hoodie.
2
Campus police officer shot
Stata Center, M.I.T. — About 10:30 p.m., a campus police officer is shot. He is found with multiple gunshot wounds and is taken to Massachusetts General Hospital, where he is pronounced dead.
3
Armed carjacking
Cambridge — A short time later, the police receive reports of an armed carjacking of a black Mercedes S.U.V. by two men in the area of Third Street.
4
Carjacking victim released
Cambridge — The carjacking victim is held in the car for about 30 minutes. He is later released, unharmed, at a gas station on Memorial Drive in Cambridge.
5
Car chase, explosives thrown
Watertown — Police immediately begin to search for the Mercedes, pursuing it into Watertown. During the chase, explosives are thrown from the vehicle.
6
Shootout
Watertown — Suspects and police exchange gunfire. A Watertown resident, Andrew Kitzenberg, 29, said he saw two men engaged in “constant gunfire” with police officers. A police S.U.V. “drove towards the shooters,” he said, and was shot at until it was severely damaged. Mr. Kitzenberg said he saw the shooters throw a bomb at the police, but it “went 20 yards at most.” One of the men is tackled by the police. The other man gets back into the S.U.V. and drives at the officers, breaking through them.
http://www.nytimes.com/2013/04/20/us/boston-marathon-bombings.html