สวัสดีครับ ผมชื่อเอก มีพี่สาวสองคน ชื่อ นก และ เพ็ญ พวกเรายังเรียนอยู่ มีพี่นกที่ใกล้จะเรียนจบแล้ว
แม่ส่งเสียพวกเราด้วยความอดทน โดยการขายของตามแคตตาล็อค และตระเวนไปตามบ้านต่างๆ
บางครั้งแม่ก็ไปพักบ้านป้า หรือบ้านเพื่อนเลย เนื่องจากบ้านเราอยู่ชานเมืองรอบนอก และเวลาแม่
ไปขายของจะต้องนั่งสองแถว หรือรถเมล์เสมอ บางครั้งรถติดมาก กว่าจะกลับบ้านก็ดึกดื่น การพักบ้าน
คนรู้จักจึงเป็นเรื่องปกติของแม่แล้ว
จนวันหนึ่ง..พี่นกเรียกพวกเรามาปรึกษากัน
"วันนี้ พี่จะไปทดลองงานในห้างหลังเลิกเรียนนะ พี่ว่าจะซื้อแพคลิ้งค์สักสองเครื่อง มีของพี่
และให้แม่พกติดตัวไว้อีกเครื่อง มีอะไรจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงกัน แต่ต้องอาศัยเงินเก็บพวกเราด้วย
โอเคกันไหม? "
ผมและพี่เพ็ญพยักหน้า หงึก หงึก ตอบตกลง ทุกคนจึงรวบรวมเงินให้พี่นก พอค่ำๆพี่นกก็ได้แพคลิ้งค์
มาสองเครื่อง พวกเราจึงนำไปให้แม่ แต่! แม่ไม่ปลื้มครับ แม่บอกเป็นของฟุ่มเฟือย สู้คุยกันตรงๆทาง
โทรศัพท์ไม่ได้ ต้องฝากข้อความ แม่ไม่ถนัดนัก
สรุปว่า! แม่ก็ต้องพกเอาไว้ เพราะพวกลูกๆเป็นห่วง และพี่นกมอบหน้าที่ให้ผมเป็นผู้ประสานงาน
คอยรายงานแจ้งข่าวของคนในบ้าน โดยการเป็นผู้โทรเข้าศูนย์ฯ เพื่อฝากข้อความ เช่น
"วันนี้นกกลับดึก ไม่ต้องห่วง นก เพ็ญ เอก"
"เดินทางปลอดภัยนะครับ นก เพ็ญ เอก"
"รักแม่ครับ นก เพ็ญ เอก"
แม่รับทราบข้อความทุกครั้ง แต่แม่ไม่ค่อยโทรกลับ นอกจากจำเป็นจริงๆ และการส่งข้อความ
ก็เพื่อรายงานให้แม่สบายใจเหมือนมีพวกเราอยู่ใกล้ๆ
จนมาถึงวันหนึ่ง..พี่นกสั่งงานผมก่อนที่เธอจะไปทำงาน
"เอก! วันนี้ช่วงบ่าย ช่วยฝากข้อความถึงแม่ด้วยนะ บอกให้แม่กลับบ้านด้วยและอย่าดึกมาก
วันนี้วันเกิดพี่น่ะ พี่ว่าจะซื้ออะไรเข้ามากินกัน อืม..ให้แม่กลับมาสักหกโมงเย็น อย่าเกินนี้
จะได้พร้อมหน้าพร้อมตา อย่าลืมล่ะ! "
พี่นกสั่งเสร็จก็ออกจากบ้านไป และไม่เกินยี่สิบนาที เธอก็กลับเข้ามาใหม่ เพราะลืมของนั่นเอง
แต่ก็ไม่วายที่จะสั่งผมอีก
"เอก! อย่าลืมบอกแม่นะ เรายิ่งขี้ลืมอยู่ด้วย"
ผมพยักหน้ารับ พร้อมทั้งส่ายหน้าเบาๆให้พี่นกรู้ว่า เธอสั่งบ่อยเกินไปแล้ว ซึ่งแน่นอนเรื่องแบบนี้
สั่งกันขนาดนี้ ใครจะลืม!
ในวันนี้ผมไม่ได้ลงเรียนวิชาอะไร จึงอยู่บ้านดูหนังฟังเพลงสบายใจ เผลออีกที เกือบห้าโมงเย็นแล้ว
ผมลืมสนิทจริงๆ ผมตกใจลนลาน นึกถึงหน้าตาพี่นกแยกเขี้ยวใส่ผม สั่งเสียอย่างดิบดีผมยังลืมจนได้
ผมเริ่มใจไม่ดี จึงรีบคว้าโทรศัพท์เพื่อฝากข้อความถึงแม่โดยด่วน
"กลับบ้านด่วน นก เพ็ญ เอก"
หลังจากฝากข้อความเสร็จ ผมนึกถึงชะตากรรมของตนเองเล็กน้อย เพราะถึงอย่างไร แม่ก็ไม่มีทาง
กลับมาทันหกโมงเย็น พี่นกต้องซักไซ้ไล่เลียงผมและต่อว่าผมแน่นอน
หกโมงแล้ว พี่นกช่างตรงเวลาเสียจริง ไม่ต้องเอ่ยถึงพี่เพ็ญ เพราะคนนี้ไม่เคยผิดเวลาสักครั้ง แถมยังกลับมา
หุงข้าว เตรียมเครื่องดื่ม ภาชนะไว้รอพี่นกก่อนใครแล้ว
พี่นกวางถุงอาหารบนโต๊ะ พร้อมกับคำถามที่ยิงใส่ผมทันที
"แม่มาหรือยัง? .. แจ้งแม่กี่โมง? .. ลืมอีกล่ะสิ! "
"เอ่อ แจ้งแล้วครับ" ผมตอบไม่เต็มเสียง
"เอก! ถามจริงๆ เราแจ้งแม่กี่โมง?" พี่นกถามพร้อมแสดงสีหน้าเบื่อหน่ายสุดสุด
"ก็ ก็ เกือบห้าโมงครับ ... เย้! แม่มาแล้ว มาพอดีเลย"
แม่สุดที่รักมาเร็วกว่าที่ผมคาดคิด ผมเกือบโดนพี่นกกินแล้ว
แม่เดินเข้าบ้านด้วยสีหน้าที่ไม่ดีนัก เศร้าหมองพิกล พวกเราสวัสดีแม่ แต่แม่ไม่ยอมตอบ และเดินไปนั่งข้างโทรทัศน์
แม่เรียกพี่นกเบาๆ เหมือนคนไม่มีแรง พวกเราใจคอไม่ดีเลยโดยเฉพาะพี่นก หน้าตาสลดตามแม่ไปอย่างเห็นได้ชัด
"มีอะไรหรือเปล่าจ๊ะแม่! แม่เป็นอะไร ท่าทางแม่ดูไม่ดีเลย" พี่นกพูดรัวพร้อมกับจับแขนแม่
"นก! เล่าให้แม่ฟังทั้งหมดนะ เรื่องแบบนี้ทำไมใจเย็นกันอยู่อีก
มานี่! เพ็ญ เอก มาคุยพร้อมๆกันว่าจะเอาอย่างไร แล้วต่อไปเราจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนกัน"
แม่ตั้งคำถามใส่พี่นก เสียงแม่เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ ทำให้พี่นกหน้าตาเลิ่กลั่ก ส่วนผมกับพี่เพ็ญก็แปลกใจกับท่าทีของแม่เช่นกัน
"คุยเรื่องอะไรจ๊ะแม่ วันนี้เป็นวันเกิดหนูก็อยากให้แม่กลับมากินข้าวด้วยกัน เลยให้เจ้าเอกส่งข้อความไป"
พี่นกอธิบายให้แม่ฟัง พร้อมกับค่อยๆหันมามองหน้าผม สายตาพี่นกที่มองมาคือคำถามที่ไม่ต้องใช้เสียงพูด
ผมค่อยๆส่ายหน้าช้าๆ คล้ายจะบอกว่า "ไม่มีอะไรผิดพลาดแน่นอน เพราะผมทำตามที่พี่บอกทุกอย่างเลยนะครับ"
แม่เอื้อมหยิบกระเป๋าสะพายล้วงเข้าไป และดึงแพคลิ้งค์ออกมา หลังจากนั้นก็ยื่นให้พี่นกอ่านข้อความ
พี่นกอ่านเสร็จ ก็ยกแขนเงื้อมมือ ทำท่าจะเขกกบาลผมทันที
"เอก! ฝากข้อความแบบไหน ทำไมเป็นอย่างนี้ ใครอ่านก็ต้องตกใจ ดูสิ! ดู! " พี่นกเหมือนโมโหสุดขีด
"อ้าว! ผมก็ฝากโอปะเรเตอร์ปกตินะครับ"
"บอกว่าอะไร? " พี่นกถามสวนทันควัน
"แม่กลับบ้านด่วน นก เพ็ญ เอก .. แล้วผิดตรงไหนล่ะ" ผมเล่าเสร็จ พี่นกก็ยื่นแพ็คลิ้งค์ให้ผมอ่าน ข้อความนั้นคือ..
"กลับบ้านด่วน นก เป็น เอดส์"
แล้วพี่นกก็อดไม่ได้จริงๆที่จะเขกกบาลผมดัง โป๊ก! แล้วบ่นใส่ผม "แกน่ะสิ! เป็น..เอดส์"
..จบค่ะ..
**เป็นเรื่องเล่าที่อ้างอิงเรื่องจริง ถือโอกาสหัดเขียนไปด้วยในตัวค่ะ
ยังดูติดๆขัดๆอยู่เยอะ ยังไงรบกวนแนะนำติชมด้วยนะคะ
(ขอขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ตค่ะ)
** Paclink **
สวัสดีครับ ผมชื่อเอก มีพี่สาวสองคน ชื่อ นก และ เพ็ญ พวกเรายังเรียนอยู่ มีพี่นกที่ใกล้จะเรียนจบแล้ว
แม่ส่งเสียพวกเราด้วยความอดทน โดยการขายของตามแคตตาล็อค และตระเวนไปตามบ้านต่างๆ
บางครั้งแม่ก็ไปพักบ้านป้า หรือบ้านเพื่อนเลย เนื่องจากบ้านเราอยู่ชานเมืองรอบนอก และเวลาแม่
ไปขายของจะต้องนั่งสองแถว หรือรถเมล์เสมอ บางครั้งรถติดมาก กว่าจะกลับบ้านก็ดึกดื่น การพักบ้าน
คนรู้จักจึงเป็นเรื่องปกติของแม่แล้ว
จนวันหนึ่ง..พี่นกเรียกพวกเรามาปรึกษากัน
"วันนี้ พี่จะไปทดลองงานในห้างหลังเลิกเรียนนะ พี่ว่าจะซื้อแพคลิ้งค์สักสองเครื่อง มีของพี่
และให้แม่พกติดตัวไว้อีกเครื่อง มีอะไรจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงกัน แต่ต้องอาศัยเงินเก็บพวกเราด้วย
โอเคกันไหม? "
ผมและพี่เพ็ญพยักหน้า หงึก หงึก ตอบตกลง ทุกคนจึงรวบรวมเงินให้พี่นก พอค่ำๆพี่นกก็ได้แพคลิ้งค์
มาสองเครื่อง พวกเราจึงนำไปให้แม่ แต่! แม่ไม่ปลื้มครับ แม่บอกเป็นของฟุ่มเฟือย สู้คุยกันตรงๆทาง
โทรศัพท์ไม่ได้ ต้องฝากข้อความ แม่ไม่ถนัดนัก
สรุปว่า! แม่ก็ต้องพกเอาไว้ เพราะพวกลูกๆเป็นห่วง และพี่นกมอบหน้าที่ให้ผมเป็นผู้ประสานงาน
คอยรายงานแจ้งข่าวของคนในบ้าน โดยการเป็นผู้โทรเข้าศูนย์ฯ เพื่อฝากข้อความ เช่น
"วันนี้นกกลับดึก ไม่ต้องห่วง นก เพ็ญ เอก"
"เดินทางปลอดภัยนะครับ นก เพ็ญ เอก"
"รักแม่ครับ นก เพ็ญ เอก"
แม่รับทราบข้อความทุกครั้ง แต่แม่ไม่ค่อยโทรกลับ นอกจากจำเป็นจริงๆ และการส่งข้อความ
ก็เพื่อรายงานให้แม่สบายใจเหมือนมีพวกเราอยู่ใกล้ๆ
จนมาถึงวันหนึ่ง..พี่นกสั่งงานผมก่อนที่เธอจะไปทำงาน
"เอก! วันนี้ช่วงบ่าย ช่วยฝากข้อความถึงแม่ด้วยนะ บอกให้แม่กลับบ้านด้วยและอย่าดึกมาก
วันนี้วันเกิดพี่น่ะ พี่ว่าจะซื้ออะไรเข้ามากินกัน อืม..ให้แม่กลับมาสักหกโมงเย็น อย่าเกินนี้
จะได้พร้อมหน้าพร้อมตา อย่าลืมล่ะ! "
พี่นกสั่งเสร็จก็ออกจากบ้านไป และไม่เกินยี่สิบนาที เธอก็กลับเข้ามาใหม่ เพราะลืมของนั่นเอง
แต่ก็ไม่วายที่จะสั่งผมอีก
"เอก! อย่าลืมบอกแม่นะ เรายิ่งขี้ลืมอยู่ด้วย"
ผมพยักหน้ารับ พร้อมทั้งส่ายหน้าเบาๆให้พี่นกรู้ว่า เธอสั่งบ่อยเกินไปแล้ว ซึ่งแน่นอนเรื่องแบบนี้
สั่งกันขนาดนี้ ใครจะลืม!
ในวันนี้ผมไม่ได้ลงเรียนวิชาอะไร จึงอยู่บ้านดูหนังฟังเพลงสบายใจ เผลออีกที เกือบห้าโมงเย็นแล้ว
ผมลืมสนิทจริงๆ ผมตกใจลนลาน นึกถึงหน้าตาพี่นกแยกเขี้ยวใส่ผม สั่งเสียอย่างดิบดีผมยังลืมจนได้
ผมเริ่มใจไม่ดี จึงรีบคว้าโทรศัพท์เพื่อฝากข้อความถึงแม่โดยด่วน
"กลับบ้านด่วน นก เพ็ญ เอก"
หลังจากฝากข้อความเสร็จ ผมนึกถึงชะตากรรมของตนเองเล็กน้อย เพราะถึงอย่างไร แม่ก็ไม่มีทาง
กลับมาทันหกโมงเย็น พี่นกต้องซักไซ้ไล่เลียงผมและต่อว่าผมแน่นอน
หกโมงแล้ว พี่นกช่างตรงเวลาเสียจริง ไม่ต้องเอ่ยถึงพี่เพ็ญ เพราะคนนี้ไม่เคยผิดเวลาสักครั้ง แถมยังกลับมา
หุงข้าว เตรียมเครื่องดื่ม ภาชนะไว้รอพี่นกก่อนใครแล้ว
พี่นกวางถุงอาหารบนโต๊ะ พร้อมกับคำถามที่ยิงใส่ผมทันที
"แม่มาหรือยัง? .. แจ้งแม่กี่โมง? .. ลืมอีกล่ะสิ! "
"เอ่อ แจ้งแล้วครับ" ผมตอบไม่เต็มเสียง
"เอก! ถามจริงๆ เราแจ้งแม่กี่โมง?" พี่นกถามพร้อมแสดงสีหน้าเบื่อหน่ายสุดสุด
"ก็ ก็ เกือบห้าโมงครับ ... เย้! แม่มาแล้ว มาพอดีเลย"
แม่สุดที่รักมาเร็วกว่าที่ผมคาดคิด ผมเกือบโดนพี่นกกินแล้ว
แม่เดินเข้าบ้านด้วยสีหน้าที่ไม่ดีนัก เศร้าหมองพิกล พวกเราสวัสดีแม่ แต่แม่ไม่ยอมตอบ และเดินไปนั่งข้างโทรทัศน์
แม่เรียกพี่นกเบาๆ เหมือนคนไม่มีแรง พวกเราใจคอไม่ดีเลยโดยเฉพาะพี่นก หน้าตาสลดตามแม่ไปอย่างเห็นได้ชัด
"มีอะไรหรือเปล่าจ๊ะแม่! แม่เป็นอะไร ท่าทางแม่ดูไม่ดีเลย" พี่นกพูดรัวพร้อมกับจับแขนแม่
"นก! เล่าให้แม่ฟังทั้งหมดนะ เรื่องแบบนี้ทำไมใจเย็นกันอยู่อีก
มานี่! เพ็ญ เอก มาคุยพร้อมๆกันว่าจะเอาอย่างไร แล้วต่อไปเราจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนกัน"
แม่ตั้งคำถามใส่พี่นก เสียงแม่เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ ทำให้พี่นกหน้าตาเลิ่กลั่ก ส่วนผมกับพี่เพ็ญก็แปลกใจกับท่าทีของแม่เช่นกัน
"คุยเรื่องอะไรจ๊ะแม่ วันนี้เป็นวันเกิดหนูก็อยากให้แม่กลับมากินข้าวด้วยกัน เลยให้เจ้าเอกส่งข้อความไป"
พี่นกอธิบายให้แม่ฟัง พร้อมกับค่อยๆหันมามองหน้าผม สายตาพี่นกที่มองมาคือคำถามที่ไม่ต้องใช้เสียงพูด
ผมค่อยๆส่ายหน้าช้าๆ คล้ายจะบอกว่า "ไม่มีอะไรผิดพลาดแน่นอน เพราะผมทำตามที่พี่บอกทุกอย่างเลยนะครับ"
แม่เอื้อมหยิบกระเป๋าสะพายล้วงเข้าไป และดึงแพคลิ้งค์ออกมา หลังจากนั้นก็ยื่นให้พี่นกอ่านข้อความ
พี่นกอ่านเสร็จ ก็ยกแขนเงื้อมมือ ทำท่าจะเขกกบาลผมทันที
"เอก! ฝากข้อความแบบไหน ทำไมเป็นอย่างนี้ ใครอ่านก็ต้องตกใจ ดูสิ! ดู! " พี่นกเหมือนโมโหสุดขีด
"อ้าว! ผมก็ฝากโอปะเรเตอร์ปกตินะครับ"
"บอกว่าอะไร? " พี่นกถามสวนทันควัน
"แม่กลับบ้านด่วน นก เพ็ญ เอก .. แล้วผิดตรงไหนล่ะ" ผมเล่าเสร็จ พี่นกก็ยื่นแพ็คลิ้งค์ให้ผมอ่าน ข้อความนั้นคือ..
"กลับบ้านด่วน นก เป็น เอดส์"
แล้วพี่นกก็อดไม่ได้จริงๆที่จะเขกกบาลผมดัง โป๊ก! แล้วบ่นใส่ผม "แกน่ะสิ! เป็น..เอดส์"
..จบค่ะ..
**เป็นเรื่องเล่าที่อ้างอิงเรื่องจริง ถือโอกาสหัดเขียนไปด้วยในตัวค่ะ
ยังดูติดๆขัดๆอยู่เยอะ ยังไงรบกวนแนะนำติชมด้วยนะคะ
(ขอขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ตค่ะ)