เนื่องจากภาวะน้ำท่วมที่ผ่านมา เมื่อเราได้ขับขี่รถยนต์ผ่านในบริเวณน้ำท่วม ย่อมจะต้องมี
การบำรุงรักษาที่มากกว่าปกติ เพื่อให้รถยนต์ของเรา คงประสิทธิภาพในการใช้งานได้อย่างสูงสุด
และไม่พาให้เราไปกินข้าวลิงข้างทาง จากปัญหาที่พบเจอมาจาก น้าๆ สมาชิก พบว่า ไดสตาร์ท
เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ ที่มีปัญหาหลังจากที่เราขับรถไปลุยน้ำในบริเวณที่น้ำท่วมสูง ก็มีคำถามอีกว่า
น้ำต้องสูงแค่ไหน ? บริเวณที่อยู่ของไดสตาร์ท รถยนต์ ISUZU จะอยู่สูงพอสมควร แต่ถ้าใคร
ไปลุยน้ำมาระดับท่วมล้อรถยนต์มาแล้ว สรุปได้ทันทีเลยว่าน้ำเข้าแน่นอน แต่ไม่ใช่ว่าไดสตาร์ท
จะต้องเสียหายในทันที เนื่องจากมันออกแบบมาให้ทนทาน บำรุงรักษาน้อยมาก จนแทบจะไม่ต้อง
ไปยุ่งกันมันเลย เผลอๆ บางคน ขายรถไปแล้ว ยังไม่รู้เลยว่า รถตัวเองมีไดสตาร์ทด้วย เพียงแต่ว่า
ประสิทธิภาพการหล่อลื่นภายในจะลดลงไปเรื่อยๆ เนื่องจากน้ำเข้า จนอาจจะก่อปัญหาในระยะเวลา
ข้างหน้าได้
ลองดูหลักการทำงานก่อนนะครับ หน้าตาไดสตาร์ทของรถยี่ห้อจะแตกต่างออกไป แต่หลักการ
ทำงานเหมือนกัน
1. ไดสตาร์ท จะอยู่ใกล้กับช่องเสียบเหล็กวัดน้ำมันเครื่องครับ จะแตกต่างไปตามรุ่นรถครับ
ส่วนหลักการทำงาน แต่ละยี่ห้อก็จะเหมือนๆ กัน โดยปกติถ้าไม่มีอาการผิดปกติใดๆ ก็ไม่ต้อง
ไปยุ่งกับมันหรอกครับ เพราะว่าถอดออก และใส่เข้ายากมาก ถ้าเครื่องมือไม่ครบ และไม่มี
ประสบการณ์ ส่วนผมไม่เคยถอด และอยากถอดเพราะว่าต้องการประสบการณ์ รุ่นรถผม
Hi-Lander 4x2 Gold Series รถสูงแบบนี้ไม่ต้องขึ้นแม่แรง นอนถอดสบายเลย
2. ทำการเตรียมเครื่องมือครับ เนื่องจากไดชาร์จ เป็นอุปกรณ์ที่ลึกลับมาก คือ ทุกคนรู้ว่า
มีอยู่จริงแต่ว่าไม่มีใครได้เห็นตัวเป็นๆ หรือชิ้นส่วนภายในเลย ถ้าเราไปร้านไดสตาร์ทไม่ว่า
จะเข้าไปทำอะไร ก็เตรียมตังค์เอาไว้เลยครับ อย่างน้อย 1,000 บาท เพราะว่าถ้า 500 บาท
ผมว่าไม่คุ้มค่าแรงถอดออก ใส่เข้าครับ ใช้เครื่องมือเยอะด้วย จากการที่ถอดออกด้วยตัวเอง
แบบประสบการณ์น้อย ขอบอกว่าหินมากครับ ถอดออกมาแล้ว ใส่กลับคืนที่ไม่ได้ หรือใส่คืนไป
แล้วสตาร์ทไม่ได้ งานเข้าแน่นอน ผบ.ที่บ้าน ควรพิจารณานะครับ อย่าให้น้าๆ ไปถอดรื้อออกมา
เล่นกัน ซ่อมรถเองได้ก็เสมอตัวครับไม่มีความดีความชอบ แต่รถพังไปจ่ายตลาดไม่ได้งานเข้า
แน่นอนครับ เหมือนเอาชีวิตจริงมาออกอากาศเลยวุ้ย.....
จากรูป อะไหล่ที่ซื้อเตรียมเอาไว้ และอุปกรณ์อื่นๆ เพิ่มเติม ราคาพอๆ กับไปจ้างที่ร้านทำได้เลย
ในเมื่อ ก็เสียตังค์เหมือนกัน ถ้าอย่างนั้นเราก็ต้องสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยการศึกษาให้มันรู้ลึก รู้จริงกันไปเลย
3. จากประสบการณ์ในการ D.I.Y. ทำให้พบว่า พลาสเตอร์ปิดแผล ช่วยได้มากเวลาบาดเจ็บ
ทำให้งานเรา สามารถเดินต่อไปได้ รักจะเสพ D.I.Y. อย่าไปกลัวเสียมือ จัดไป
4. สงสัยว่าคืนนี้ ม้าคงจะดีด น้าใหญ่ ทำรถตอนกลางคืน แบบว่ารถผมเน้นวิ่งเวลากลางวัน
หลังจากนั้นเป็นเวลาในการตรวจเช็ค และซ่อมบำรุง เดี๋ยวเรามาดูขั้นตอนคราวๆ ในการ ตรวจเช็ค
ทำความสะอาด ไดสตาร์ทรถยนต์ ISUZU กันนะครับ
หลัการพื้นฐาน ถอดออกมาแบบไหน ใส่กลับเข้าไปแบบเดิม อะไหล่ห้ามเหลือ ขั้นตอนคือ
ถอดสายแบตเตอรี่ ถอดสายไฟไดสตาร์ท ถอดเอาไดสตาร์ทออกมา ถอดรื้อไดสตาร์ท
ทำความสะอาด ประกอบไดสตาร์ทกลับคืน ทดสอบก่อนติดตั้ง ใส่ไดสตาร์ทคืนที่เดิม
ใส่สายไฟไดสตาร์ทกลับคืนที่เดิม ใส่สายแบตเตอรี่กลับคืนที่เดิม ลองทำการสตาร์ทรถ
5. อ้าว.....โม้มากไปหน่อย จนไดสตาร์ทหลุดออกมาเองซะงั้น ฮา.... ทำการปลดสายไฟ
ที่ด้านหลังไดสตาร์ทออกไปก่อน จากนั้นใช้ประแจบล็อค ข้องอ ข้อต่อยาว และลูกบล็อคหกเหลี่ยม
เบอร์ 17 ทำการถอดดออกมา ถอดน็อตไม่ยากครับ แต่ขยับให้ไดสตาร์ทออกมาให้ได้ยากกว่า
ผมไม่ได้ถอดล้อหน้าข้างซ้ายครับ ไปนอนดู อยู่ใต้ท้องรถตั้งนานว่าจะทำอย่างไรดี สุดท้ายมันก็ออกมาได้แล้ว
6. และแล้วก็มาเจอกันแล้วครับ ไดสตาร์ทของรถยนต์ ISUZU เครื่องยนต์ 3.0 VGS รหัส
เครื่องยนต์ 4JJ1-TCX ไดสตาร์ท จะแตกต่างกันไปตามรุ่นรถ และยี่ห้อรถ แต่หลัการทำงาน
เหมือนกัน เห็นตัวเล็กๆ แบบนี้หนักเอาเรื่อง เลยนะครับ 3 - 5 กิโลกรัมเลย
7. คืนนี้ไม่ต้องนอนกันแล้วครับ เครื่องมือพร้อม อะไหล่พร้อม เอกสารพร้อม กำลังใจดีเยี่ยม
มาลุยกันเลยครับ ข้อควรระวัง ในการเสพ D.I.Y. ระวังคนข้างๆ เขางอนเอานะครับ เพราะว่า
ความสนใจของเราที่มีต่อเขาจะลดลง
8. กำลังทำการ ถอดรื้อชุดแมกเนติกสวิตช์ (โซลินอยด์สตาร์ท) ในกรณีที่มันค้างเราต้องลอง
เอาไม้มาเคาะที่ชุดนี้ดูครับ บางครั้งมันอาจจะติดขัด เนื่องจากขวลวดภายในไม่สามารถดึงแกน
ขาเขี่ยไดสตาร์ทได้ครับ มันก็เลยไม่ครบวงจร ส่วนที่ว่ามันติดขัดยังงัย ลองติดตามไปดูชิ้นส่วน
ภายในกัน จากรูป คืนนี้อากาศมันหนาวครับก็เลย เอาเสื้อแขนยาวมาใส่ ไม่ได้กลัวเลอะครับ
ใช้ประแจบล็อค พร้อมลูกบล็อคเบอร์ 10 ทำการถอดรื้อออกมา
9. ทั้งหมดนี้ เรียกว่า ชุดแมกเนติกสวิตช์ (โซลินอยด์สตาร์ท) หลักกการคือ เมื่อมีไฟบวก
จ่ายเข้ามา แท่งเหล็กที่ยึดกับขาเขี่ยไดสตาร์ท จะถูกดูดเข้าไปในชุดขวดลวด เขี่ยชุดครัชสตาร์ท
ให้ไปขบกับฟลายวีล จากนั้นมอเตอร์จะหมุน ทำให้ฟลายวีล หมุนตาม
ทำการเช็คถูทำความสะอาด ใช้ สเปรย์ Contact Cleanner ฉีดล้าง ทำความสะอาด
เช็ดให้แห้ง ตามด้วย สเปรย์น้ำมันหล่อลื่นที่แท่งเหล็ก จากรูปชุดนี้ไม่ค่อยสกปรกเท่าไรครับ
เดี๋ยวไปดูชุดมอตอร์สตาร์ทครับ
10. จากรูป กำลังทำการใช้เครื่องมือพิเศษ จับไดสตาร์ทให้มั่น แล้วใช้ใช้ประแจบล็อค พร้อมลูกบล็อค
เบอร์ 10 ทำการถอดรื้อออกมา พบว่าสภาพภายในสกปรกมาก เนื่องจากน้ำเข้า ก่อนทำการถอดรื้อ
ไดสตาร์ทพบว่ามีอาการผิดปกติ คือ เสียงเปลี่ยนไป เวลาในการสตาร์ทนานขึ้น เสียงมันไม่แน่นเหมือน
แต่ก่อน แต่ว่าก็ยังใช้งานได้ รถผมอายุ 3 ปี ใช้มาแล้ว 155,000 Km. ส่วนรถเพื่อนผม 5 ปีใช้มา
250,000 Km. แล้ว ไปลุยน้ำมาลึกด้วย ยังไม่ต้องมาถอดออกมาทำอะไรเลยใช้อย่างเดียว
ก็ยังสงสัยตัวเองอยู่เหมือนกันว่า ของเราถอดออกมาทำไม ?
11. จากรูป คาดว่าในกรณีที่น้ำท่วมไดสตาร์ท น้ำน่าจะเข้าภายในได้ที่รูนี้ แต่คนออกแบบอาจจะ
มีเหตุผลอื่นๆ หรือเปล่า ? ที่เราไม่รู้แน่ชัด ว่าทำเอาไว้ทำไม น้าท่านใดมีข้อมูล ขอคำชี้แนะด้วยครับ
12. ใช้สเปรย์ Contact Cleanner ฉีดล้าง ทำความสะอาด เนื่องจากภายในมอเตอร์สตาร์ท
สกปรกมาก อย่าเรียกว่า ฉีดล้าง ทำความสะอาด เลยครับ ในเมื่อเราทำเอง และไม่ได้ทำบ่อย
ฉีดให้ทั่ว เทออกมา เป่าให้แห้ง ฉีดล้างอีกครั้ง ทำบ่อยๆ จนได้สภาพสะอาดเป็นที่น่าพอใจ
น้ำยา Contact Cleanner มันจะแห้งไปเองครับ ในกรณีที่ทำการฉีดแต่น้อย แต่ถ้าเราไปฉีดมาก
เหมือนไปอาบน้ำมา ต้องมีตัวช่วยทำให้แห้งไวๆ ครับ
13. ส่วนบริเวณซี่ลวดคอมมิวเตเตอร์ หรือหน้าสัมผัสของถ่านไดสตาร์ท ใช้กระดาษทรายละเอียด
เบอร์ 1000 หรือมากกว่าทำการขัดถู ทำความสะอาดอย่างเบาๆ มือ เพราะว่าถ้าตรงนี้สกปรกมาก
ลักษณะจะเหมือนฉนวนทางไฟฟ้า กระแสไฟฟ้าจะไหลผ่านได้ไม่ค่อยสะดวกครับ
14. สภาพที่ทำการล้างเสร็จแล้วครับ เอาเท่าได้ รื้อออกเยอะมากเดี๋ยวเหนื่อย ถึงจะไม่สะอาด
เหมือนของใหม่ แต่เราก็ทำเท่าที่ทำได้อย่างเต็มที่ครับ
15. ทำการถอดชุดเฟืองขับ ออกมาทำความสะอาด และหล่อลื่นด้วยจารบีครับ ภายในจะมีลูกปืน
เฟืองขับ และสปริง จับมาใส่จารบีซะให้หมด ถ้าชุดนี้ติดขัดก็มีความเป็นไปได้ ที่มอเตอร์จะทำงาน
หนักมากขึ้น กินกระแสในการสตาร์ทมากขึ้น เสียงดังมากขึ้น อายุการใช้งานจะลดลงกว่าปกติ
16. ลองทำการประกอบ ชุดแมกเนติกสวิตช์ (โซลินอยด์สตาร์ท) พร้อมขาเขี่ยไดสตาร์ท
หลังจากทำความสะอาด แล้วหล่อลื่นด้วยน้ำมัน และจารบีแล้ว
17. กำลังจะทำการประกอบกลับคืนแล้วครับ ปรากฎว่า งานเข้าแล้วครับ ใส่โครงมอเตอร์สตาร์ท
ไม่เข้าครับ เนื่องจากติดแปรงถ่านด้านใน ต้องถอดชุดด้านหลังอีกชุด จึงจะทำการขยับแปรงถ่านได้
ซึ่งจากการที่ได้ลองถอด พบว่า น็อตตัวเล็กๆ สี่แฉกแค่ 2 ตัว ขันมาแน่นมาก จนขันไม่ออก พยายาม
อยู่นาน จนไม่ไหวแล้ว ไปนอนก่อนดีกว่า เดี๋ยวพรุ่งเช้าน่าจะคิดออก
18. หลังจากนอนได้สักพัก ไปเอาแรงมาแล้ว ไปได้ผู้ช่วยมาครับ เป็นไขควงที่ใช้ตอก หมุนน็อตออกมา
ถ้าไม่ได้เครื่องมือตัวนี้ แย่แน่เลยครับ เพราะว่าน็อตมันล็อคมาแน่นมากๆ
D.I.Y. ตรวจเช็ค ทำความสะอาด ไดสตาร์ทรถยนต์ Isuzu by Yai6000
การบำรุงรักษาที่มากกว่าปกติ เพื่อให้รถยนต์ของเรา คงประสิทธิภาพในการใช้งานได้อย่างสูงสุด
และไม่พาให้เราไปกินข้าวลิงข้างทาง จากปัญหาที่พบเจอมาจาก น้าๆ สมาชิก พบว่า ไดสตาร์ท
เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ ที่มีปัญหาหลังจากที่เราขับรถไปลุยน้ำในบริเวณที่น้ำท่วมสูง ก็มีคำถามอีกว่า
น้ำต้องสูงแค่ไหน ? บริเวณที่อยู่ของไดสตาร์ท รถยนต์ ISUZU จะอยู่สูงพอสมควร แต่ถ้าใคร
ไปลุยน้ำมาระดับท่วมล้อรถยนต์มาแล้ว สรุปได้ทันทีเลยว่าน้ำเข้าแน่นอน แต่ไม่ใช่ว่าไดสตาร์ท
จะต้องเสียหายในทันที เนื่องจากมันออกแบบมาให้ทนทาน บำรุงรักษาน้อยมาก จนแทบจะไม่ต้อง
ไปยุ่งกันมันเลย เผลอๆ บางคน ขายรถไปแล้ว ยังไม่รู้เลยว่า รถตัวเองมีไดสตาร์ทด้วย เพียงแต่ว่า
ประสิทธิภาพการหล่อลื่นภายในจะลดลงไปเรื่อยๆ เนื่องจากน้ำเข้า จนอาจจะก่อปัญหาในระยะเวลา
ข้างหน้าได้
ลองดูหลักการทำงานก่อนนะครับ หน้าตาไดสตาร์ทของรถยี่ห้อจะแตกต่างออกไป แต่หลักการ
ทำงานเหมือนกัน
1. ไดสตาร์ท จะอยู่ใกล้กับช่องเสียบเหล็กวัดน้ำมันเครื่องครับ จะแตกต่างไปตามรุ่นรถครับ
ส่วนหลักการทำงาน แต่ละยี่ห้อก็จะเหมือนๆ กัน โดยปกติถ้าไม่มีอาการผิดปกติใดๆ ก็ไม่ต้อง
ไปยุ่งกับมันหรอกครับ เพราะว่าถอดออก และใส่เข้ายากมาก ถ้าเครื่องมือไม่ครบ และไม่มี
ประสบการณ์ ส่วนผมไม่เคยถอด และอยากถอดเพราะว่าต้องการประสบการณ์ รุ่นรถผม
Hi-Lander 4x2 Gold Series รถสูงแบบนี้ไม่ต้องขึ้นแม่แรง นอนถอดสบายเลย
2. ทำการเตรียมเครื่องมือครับ เนื่องจากไดชาร์จ เป็นอุปกรณ์ที่ลึกลับมาก คือ ทุกคนรู้ว่า
มีอยู่จริงแต่ว่าไม่มีใครได้เห็นตัวเป็นๆ หรือชิ้นส่วนภายในเลย ถ้าเราไปร้านไดสตาร์ทไม่ว่า
จะเข้าไปทำอะไร ก็เตรียมตังค์เอาไว้เลยครับ อย่างน้อย 1,000 บาท เพราะว่าถ้า 500 บาท
ผมว่าไม่คุ้มค่าแรงถอดออก ใส่เข้าครับ ใช้เครื่องมือเยอะด้วย จากการที่ถอดออกด้วยตัวเอง
แบบประสบการณ์น้อย ขอบอกว่าหินมากครับ ถอดออกมาแล้ว ใส่กลับคืนที่ไม่ได้ หรือใส่คืนไป
แล้วสตาร์ทไม่ได้ งานเข้าแน่นอน ผบ.ที่บ้าน ควรพิจารณานะครับ อย่าให้น้าๆ ไปถอดรื้อออกมา
เล่นกัน ซ่อมรถเองได้ก็เสมอตัวครับไม่มีความดีความชอบ แต่รถพังไปจ่ายตลาดไม่ได้งานเข้า
แน่นอนครับ เหมือนเอาชีวิตจริงมาออกอากาศเลยวุ้ย.....
จากรูป อะไหล่ที่ซื้อเตรียมเอาไว้ และอุปกรณ์อื่นๆ เพิ่มเติม ราคาพอๆ กับไปจ้างที่ร้านทำได้เลย
ในเมื่อ ก็เสียตังค์เหมือนกัน ถ้าอย่างนั้นเราก็ต้องสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยการศึกษาให้มันรู้ลึก รู้จริงกันไปเลย
3. จากประสบการณ์ในการ D.I.Y. ทำให้พบว่า พลาสเตอร์ปิดแผล ช่วยได้มากเวลาบาดเจ็บ
ทำให้งานเรา สามารถเดินต่อไปได้ รักจะเสพ D.I.Y. อย่าไปกลัวเสียมือ จัดไป
4. สงสัยว่าคืนนี้ ม้าคงจะดีด น้าใหญ่ ทำรถตอนกลางคืน แบบว่ารถผมเน้นวิ่งเวลากลางวัน
หลังจากนั้นเป็นเวลาในการตรวจเช็ค และซ่อมบำรุง เดี๋ยวเรามาดูขั้นตอนคราวๆ ในการ ตรวจเช็ค
ทำความสะอาด ไดสตาร์ทรถยนต์ ISUZU กันนะครับ
หลัการพื้นฐาน ถอดออกมาแบบไหน ใส่กลับเข้าไปแบบเดิม อะไหล่ห้ามเหลือ ขั้นตอนคือ
ถอดสายแบตเตอรี่ ถอดสายไฟไดสตาร์ท ถอดเอาไดสตาร์ทออกมา ถอดรื้อไดสตาร์ท
ทำความสะอาด ประกอบไดสตาร์ทกลับคืน ทดสอบก่อนติดตั้ง ใส่ไดสตาร์ทคืนที่เดิม
ใส่สายไฟไดสตาร์ทกลับคืนที่เดิม ใส่สายแบตเตอรี่กลับคืนที่เดิม ลองทำการสตาร์ทรถ
5. อ้าว.....โม้มากไปหน่อย จนไดสตาร์ทหลุดออกมาเองซะงั้น ฮา.... ทำการปลดสายไฟ
ที่ด้านหลังไดสตาร์ทออกไปก่อน จากนั้นใช้ประแจบล็อค ข้องอ ข้อต่อยาว และลูกบล็อคหกเหลี่ยม
เบอร์ 17 ทำการถอดดออกมา ถอดน็อตไม่ยากครับ แต่ขยับให้ไดสตาร์ทออกมาให้ได้ยากกว่า
ผมไม่ได้ถอดล้อหน้าข้างซ้ายครับ ไปนอนดู อยู่ใต้ท้องรถตั้งนานว่าจะทำอย่างไรดี สุดท้ายมันก็ออกมาได้แล้ว
6. และแล้วก็มาเจอกันแล้วครับ ไดสตาร์ทของรถยนต์ ISUZU เครื่องยนต์ 3.0 VGS รหัส
เครื่องยนต์ 4JJ1-TCX ไดสตาร์ท จะแตกต่างกันไปตามรุ่นรถ และยี่ห้อรถ แต่หลัการทำงาน
เหมือนกัน เห็นตัวเล็กๆ แบบนี้หนักเอาเรื่อง เลยนะครับ 3 - 5 กิโลกรัมเลย
7. คืนนี้ไม่ต้องนอนกันแล้วครับ เครื่องมือพร้อม อะไหล่พร้อม เอกสารพร้อม กำลังใจดีเยี่ยม
มาลุยกันเลยครับ ข้อควรระวัง ในการเสพ D.I.Y. ระวังคนข้างๆ เขางอนเอานะครับ เพราะว่า
ความสนใจของเราที่มีต่อเขาจะลดลง
8. กำลังทำการ ถอดรื้อชุดแมกเนติกสวิตช์ (โซลินอยด์สตาร์ท) ในกรณีที่มันค้างเราต้องลอง
เอาไม้มาเคาะที่ชุดนี้ดูครับ บางครั้งมันอาจจะติดขัด เนื่องจากขวลวดภายในไม่สามารถดึงแกน
ขาเขี่ยไดสตาร์ทได้ครับ มันก็เลยไม่ครบวงจร ส่วนที่ว่ามันติดขัดยังงัย ลองติดตามไปดูชิ้นส่วน
ภายในกัน จากรูป คืนนี้อากาศมันหนาวครับก็เลย เอาเสื้อแขนยาวมาใส่ ไม่ได้กลัวเลอะครับ
ใช้ประแจบล็อค พร้อมลูกบล็อคเบอร์ 10 ทำการถอดรื้อออกมา
9. ทั้งหมดนี้ เรียกว่า ชุดแมกเนติกสวิตช์ (โซลินอยด์สตาร์ท) หลักกการคือ เมื่อมีไฟบวก
จ่ายเข้ามา แท่งเหล็กที่ยึดกับขาเขี่ยไดสตาร์ท จะถูกดูดเข้าไปในชุดขวดลวด เขี่ยชุดครัชสตาร์ท
ให้ไปขบกับฟลายวีล จากนั้นมอเตอร์จะหมุน ทำให้ฟลายวีล หมุนตาม
ทำการเช็คถูทำความสะอาด ใช้ สเปรย์ Contact Cleanner ฉีดล้าง ทำความสะอาด
เช็ดให้แห้ง ตามด้วย สเปรย์น้ำมันหล่อลื่นที่แท่งเหล็ก จากรูปชุดนี้ไม่ค่อยสกปรกเท่าไรครับ
เดี๋ยวไปดูชุดมอตอร์สตาร์ทครับ
10. จากรูป กำลังทำการใช้เครื่องมือพิเศษ จับไดสตาร์ทให้มั่น แล้วใช้ใช้ประแจบล็อค พร้อมลูกบล็อค
เบอร์ 10 ทำการถอดรื้อออกมา พบว่าสภาพภายในสกปรกมาก เนื่องจากน้ำเข้า ก่อนทำการถอดรื้อ
ไดสตาร์ทพบว่ามีอาการผิดปกติ คือ เสียงเปลี่ยนไป เวลาในการสตาร์ทนานขึ้น เสียงมันไม่แน่นเหมือน
แต่ก่อน แต่ว่าก็ยังใช้งานได้ รถผมอายุ 3 ปี ใช้มาแล้ว 155,000 Km. ส่วนรถเพื่อนผม 5 ปีใช้มา
250,000 Km. แล้ว ไปลุยน้ำมาลึกด้วย ยังไม่ต้องมาถอดออกมาทำอะไรเลยใช้อย่างเดียว
ก็ยังสงสัยตัวเองอยู่เหมือนกันว่า ของเราถอดออกมาทำไม ?
11. จากรูป คาดว่าในกรณีที่น้ำท่วมไดสตาร์ท น้ำน่าจะเข้าภายในได้ที่รูนี้ แต่คนออกแบบอาจจะ
มีเหตุผลอื่นๆ หรือเปล่า ? ที่เราไม่รู้แน่ชัด ว่าทำเอาไว้ทำไม น้าท่านใดมีข้อมูล ขอคำชี้แนะด้วยครับ
12. ใช้สเปรย์ Contact Cleanner ฉีดล้าง ทำความสะอาด เนื่องจากภายในมอเตอร์สตาร์ท
สกปรกมาก อย่าเรียกว่า ฉีดล้าง ทำความสะอาด เลยครับ ในเมื่อเราทำเอง และไม่ได้ทำบ่อย
ฉีดให้ทั่ว เทออกมา เป่าให้แห้ง ฉีดล้างอีกครั้ง ทำบ่อยๆ จนได้สภาพสะอาดเป็นที่น่าพอใจ
น้ำยา Contact Cleanner มันจะแห้งไปเองครับ ในกรณีที่ทำการฉีดแต่น้อย แต่ถ้าเราไปฉีดมาก
เหมือนไปอาบน้ำมา ต้องมีตัวช่วยทำให้แห้งไวๆ ครับ
13. ส่วนบริเวณซี่ลวดคอมมิวเตเตอร์ หรือหน้าสัมผัสของถ่านไดสตาร์ท ใช้กระดาษทรายละเอียด
เบอร์ 1000 หรือมากกว่าทำการขัดถู ทำความสะอาดอย่างเบาๆ มือ เพราะว่าถ้าตรงนี้สกปรกมาก
ลักษณะจะเหมือนฉนวนทางไฟฟ้า กระแสไฟฟ้าจะไหลผ่านได้ไม่ค่อยสะดวกครับ
14. สภาพที่ทำการล้างเสร็จแล้วครับ เอาเท่าได้ รื้อออกเยอะมากเดี๋ยวเหนื่อย ถึงจะไม่สะอาด
เหมือนของใหม่ แต่เราก็ทำเท่าที่ทำได้อย่างเต็มที่ครับ
15. ทำการถอดชุดเฟืองขับ ออกมาทำความสะอาด และหล่อลื่นด้วยจารบีครับ ภายในจะมีลูกปืน
เฟืองขับ และสปริง จับมาใส่จารบีซะให้หมด ถ้าชุดนี้ติดขัดก็มีความเป็นไปได้ ที่มอเตอร์จะทำงาน
หนักมากขึ้น กินกระแสในการสตาร์ทมากขึ้น เสียงดังมากขึ้น อายุการใช้งานจะลดลงกว่าปกติ
16. ลองทำการประกอบ ชุดแมกเนติกสวิตช์ (โซลินอยด์สตาร์ท) พร้อมขาเขี่ยไดสตาร์ท
หลังจากทำความสะอาด แล้วหล่อลื่นด้วยน้ำมัน และจารบีแล้ว
17. กำลังจะทำการประกอบกลับคืนแล้วครับ ปรากฎว่า งานเข้าแล้วครับ ใส่โครงมอเตอร์สตาร์ท
ไม่เข้าครับ เนื่องจากติดแปรงถ่านด้านใน ต้องถอดชุดด้านหลังอีกชุด จึงจะทำการขยับแปรงถ่านได้
ซึ่งจากการที่ได้ลองถอด พบว่า น็อตตัวเล็กๆ สี่แฉกแค่ 2 ตัว ขันมาแน่นมาก จนขันไม่ออก พยายาม
อยู่นาน จนไม่ไหวแล้ว ไปนอนก่อนดีกว่า เดี๋ยวพรุ่งเช้าน่าจะคิดออก
18. หลังจากนอนได้สักพัก ไปเอาแรงมาแล้ว ไปได้ผู้ช่วยมาครับ เป็นไขควงที่ใช้ตอก หมุนน็อตออกมา
ถ้าไม่ได้เครื่องมือตัวนี้ แย่แน่เลยครับ เพราะว่าน็อตมันล็อคมาแน่นมากๆ