อ่านเอาครับ..เพิ่งเจอข่าวนี้ เพราะเกิดเมื่อสงกรานต์นี้เอง...ท่าน ไม่ต้องคิดมากเหมือนพวกเสื้อแดงที่ยื่นขอประกันแล้ว ขออีก..
แต่สำหรับ เดนสังคม2ตัวนี้..ขอปุ๊บ อนุมัติปั๊บ..มีไหร่ป่ะ
ต้องบอกก่อนนะครับ ผู้บาดเจ้บ จำได้ ยังไม่ตาย แล้วแบบนี้เขาจะอยู่กันอย่างไร..ถ้าไอ้2ตัวนี้ ออกมาเดินนอกคุกได้สบายๆแบบนี้
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
แฝดเกรียน" ต่อย "วรเจตน์" ซ่าอีก-ยิงทนายเจ็บ โดนข้อหาพยายามฆ่า
แฝด เกรียนโจทก์เก่า ‘วรเจตน์ ภาคีรัตน์’ โดนจับข้อหาพยายามฆ่าอีกคดี หลังก่อเหตุยิงถล่ม ‘ทนายเปี๊ยก’ ที่รับว่าความให้อดีตผู้ใหญ่บ้านชื่อดังย่านคลองหลวง ลูกพี่ใหญ่ของแฝดเกรียน จนแพ้แล้วไม่ได้ประกันตัว เลยแค้นลากปืน 9 ม.ม. ยิงถล่มไม่ยั้ง ขณะที่ทนายเปี๊ยกเลี้ยงฉลองสงกรานต์จนบาดเจ็บสาหัส เผยประวัติสุดแสบก่อเหตุทะเลาะวิวาทไปทั่ว ขึ้น-ลงโรงพักเป็นว่าเล่น ขนาดอยู่ระหว่างประกันตัวสู้คดีตื้บอาจารย์คนดัง ยังไม่วายมาก่อเหตุซ้ำอีก
ข่าวสดออนไลน์รายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 18 เม.ย. ที่ศาลจังหวัดธัญบุรี จ.ปทุมธานี พ.ต.อ.นราเดช ทิพย์รักษ์ ผกก.สภ.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี พร้อมพ.ต.ท.ปรากฏ นาคใหญ่ สว.สส. และพ.ต.ท.ภูริสิทธิ์ ทิมทอง สว.สส.ภ.จว.ปทุมธานี ร่วมกันคุมตัวนายสุพจน์ หรือแบงก์ ศิลารัตน์ อายุ 32 ปี และนายศิพัฒน์ หรือเบนซ์ ศิลารัตน์ อายุ 32 ปี สองพี่น้องฝาแฝด พักอยู่บ้านเลขที่ 180 ซ.รังสิต-นครนายก 13 แยกซอย 7 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ส่งฟ้องศาลในข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธปืนติดตัวเข้าไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรเร่งด่วนแก่พฤติการณ์
พ.ต.อ.นราเดชเปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 13 เม.ย.ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาทั้งคู่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนพกขนาด 9 ม.ม. ยิงนายจงกล พิจิตรพลากาศ หรือทนายเปี๊ยก อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 512/14 ม.4 ต.คูคต นายธีรพล นุ่มมาก อายุ 42 ปี และนายวาสนา คุ้มมา อายุ 27 ปี จำนวนหลายนัดได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะที่นายจงกลนั่งดื่มกินฉลองงานสงกรานต์อยู่กับลูกน้อง เหตุเกิดภายในซอยพหลโยธิน 62 หรือซอย 39 แยก 11 ต.คูคต
พ.ต.อ.นราเดชกล่าวว่า หลังเกิดเหตุนายจงกลให้การยืนยันว่า ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุคือนายสุพจน์ และนายสุพัฒน์ ซึ่งนายจงกลรู้จักดี เนื่องจากทั้งคู่เป็นลูกน้องคนสนิทของอดีตผู้ใหญ่คนหนึ่ง เจ้าของบ่อนไก่ชนย่าน อ.คลองหลวง ที่นายจงกลรับว่าความให้ ในคดีที่ผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวทำร้ายร่างกายกักขังหน่วงเหนี่ยว จนศาลอุทธรณ์สั่งพิพากษาจำคุกผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าว
พ.ต.อ.นราเดชกล่าวอีกว่า ต่อมาผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวต้องการประกันตัว แต่ติดขัดเรื่องกฎหมาย นายจงกลจึงไม่สามารถยื่นเรื่องขอประกันตัวได้ เป็นเหตุให้ผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวรวมถึงผู้ต้องหาทั้งคู่ กล่าวอาฆาตและข่มขู่นายจงกลไว้ กระทั่งเกิดเหตุดังกล่าว
เบื้องต้นหลังควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งคู่ส่งฟ้อง ศาลอนุญาตให้ผู้ต้องหาทั้งคู่ประกันตัวออกไปต่อสู้คดี
สำหรับประวัติของผู้ต้องหาทั้งคู่ เป็นคนมีนิสัยใจร้อน ไม่พอใจอะไรก็จะแสดงออกด้วยการชกต่อยอยู่บ่อยครั้ง เคยถูกจับในข้อหาทำร้ายร่างกาย ในท้องที่ สน.สายไหม สน.ดอนเมือง สน.ธัญบุรี นอกจากนั้นยังเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปในกรณีก่อเหตุทำร้ายร่างกายนาย วรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และแกนนำกลุ่มนิติราษฎร์ ซึ่งเคลื่อนไหวการแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 เมื่อวันที่ 29 ก.พ. 2555 โดยศาลตัดสินจำคุกทั้งคู่ และอยู่ระหว่างการประกันตัวเพื่อสู้คดีในศาลอุทธรณ์
ไอ้แผดนรก ยิงทนายและชาวบ้านสาหัส/ไม่ต้องคิดมาก..ประกันตัวได้สบายๆ..
แต่สำหรับ เดนสังคม2ตัวนี้..ขอปุ๊บ อนุมัติปั๊บ..มีไหร่ป่ะ
ต้องบอกก่อนนะครับ ผู้บาดเจ้บ จำได้ ยังไม่ตาย แล้วแบบนี้เขาจะอยู่กันอย่างไร..ถ้าไอ้2ตัวนี้ ออกมาเดินนอกคุกได้สบายๆแบบนี้
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
แฝดเกรียน" ต่อย "วรเจตน์" ซ่าอีก-ยิงทนายเจ็บ โดนข้อหาพยายามฆ่า
แฝด เกรียนโจทก์เก่า ‘วรเจตน์ ภาคีรัตน์’ โดนจับข้อหาพยายามฆ่าอีกคดี หลังก่อเหตุยิงถล่ม ‘ทนายเปี๊ยก’ ที่รับว่าความให้อดีตผู้ใหญ่บ้านชื่อดังย่านคลองหลวง ลูกพี่ใหญ่ของแฝดเกรียน จนแพ้แล้วไม่ได้ประกันตัว เลยแค้นลากปืน 9 ม.ม. ยิงถล่มไม่ยั้ง ขณะที่ทนายเปี๊ยกเลี้ยงฉลองสงกรานต์จนบาดเจ็บสาหัส เผยประวัติสุดแสบก่อเหตุทะเลาะวิวาทไปทั่ว ขึ้น-ลงโรงพักเป็นว่าเล่น ขนาดอยู่ระหว่างประกันตัวสู้คดีตื้บอาจารย์คนดัง ยังไม่วายมาก่อเหตุซ้ำอีก
ข่าวสดออนไลน์รายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 18 เม.ย. ที่ศาลจังหวัดธัญบุรี จ.ปทุมธานี พ.ต.อ.นราเดช ทิพย์รักษ์ ผกก.สภ.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี พร้อมพ.ต.ท.ปรากฏ นาคใหญ่ สว.สส. และพ.ต.ท.ภูริสิทธิ์ ทิมทอง สว.สส.ภ.จว.ปทุมธานี ร่วมกันคุมตัวนายสุพจน์ หรือแบงก์ ศิลารัตน์ อายุ 32 ปี และนายศิพัฒน์ หรือเบนซ์ ศิลารัตน์ อายุ 32 ปี สองพี่น้องฝาแฝด พักอยู่บ้านเลขที่ 180 ซ.รังสิต-นครนายก 13 แยกซอย 7 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ส่งฟ้องศาลในข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธปืนติดตัวเข้าไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรเร่งด่วนแก่พฤติการณ์
พ.ต.อ.นราเดชเปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 13 เม.ย.ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาทั้งคู่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนพกขนาด 9 ม.ม. ยิงนายจงกล พิจิตรพลากาศ หรือทนายเปี๊ยก อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 512/14 ม.4 ต.คูคต นายธีรพล นุ่มมาก อายุ 42 ปี และนายวาสนา คุ้มมา อายุ 27 ปี จำนวนหลายนัดได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะที่นายจงกลนั่งดื่มกินฉลองงานสงกรานต์อยู่กับลูกน้อง เหตุเกิดภายในซอยพหลโยธิน 62 หรือซอย 39 แยก 11 ต.คูคต
พ.ต.อ.นราเดชกล่าวว่า หลังเกิดเหตุนายจงกลให้การยืนยันว่า ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุคือนายสุพจน์ และนายสุพัฒน์ ซึ่งนายจงกลรู้จักดี เนื่องจากทั้งคู่เป็นลูกน้องคนสนิทของอดีตผู้ใหญ่คนหนึ่ง เจ้าของบ่อนไก่ชนย่าน อ.คลองหลวง ที่นายจงกลรับว่าความให้ ในคดีที่ผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวทำร้ายร่างกายกักขังหน่วงเหนี่ยว จนศาลอุทธรณ์สั่งพิพากษาจำคุกผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าว
พ.ต.อ.นราเดชกล่าวอีกว่า ต่อมาผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวต้องการประกันตัว แต่ติดขัดเรื่องกฎหมาย นายจงกลจึงไม่สามารถยื่นเรื่องขอประกันตัวได้ เป็นเหตุให้ผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวรวมถึงผู้ต้องหาทั้งคู่ กล่าวอาฆาตและข่มขู่นายจงกลไว้ กระทั่งเกิดเหตุดังกล่าว เบื้องต้นหลังควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งคู่ส่งฟ้อง ศาลอนุญาตให้ผู้ต้องหาทั้งคู่ประกันตัวออกไปต่อสู้คดี
สำหรับประวัติของผู้ต้องหาทั้งคู่ เป็นคนมีนิสัยใจร้อน ไม่พอใจอะไรก็จะแสดงออกด้วยการชกต่อยอยู่บ่อยครั้ง เคยถูกจับในข้อหาทำร้ายร่างกาย ในท้องที่ สน.สายไหม สน.ดอนเมือง สน.ธัญบุรี นอกจากนั้นยังเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปในกรณีก่อเหตุทำร้ายร่างกายนาย วรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และแกนนำกลุ่มนิติราษฎร์ ซึ่งเคลื่อนไหวการแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 เมื่อวันที่ 29 ก.พ. 2555 โดยศาลตัดสินจำคุกทั้งคู่ และอยู่ระหว่างการประกันตัวเพื่อสู้คดีในศาลอุทธรณ์