อาจเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจนเป็นเรื่องปกติของการใช้บริการรถแท็กซี่บ้านเราไปแล้วหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ
...นี่คือเรื่องที่เห็นต่อหน้าต่อตา จนไม่อาจเก็บไว้คนเดียว
ช่วงเวลาใกล้ค่ำ เมื่อ 2 - 3 วันก่อน ระหว่างที่ขับรถตามมาหลัง แท็กซี่สีฟ้าคันหนึ่ง จนมาจอด
ติดเป็นตังเมหน้าศูนย์การค้าแห่งหนึ่งใจกลางเมือง ไม่ขยับเขยื้อนอยู่นาน จึงมีโอกาสเห็นว่า ..
ในช่วงนั้นมีผู้โดยสารหลายท่านเปิดประตูด้านข้างคนขับ ..บอกจุดหมายที่จะไป แต่ร้อยทั้งร้อย
ต่างเดินผละห่างออกมา บางคนไม่แสดงอาการใดๆ ขณะที่หลายคนมีสีหน้าหงุดหงิด ไม่พอใจ
แต่มีอยู่รายหนึ่ง เป็นผู้หญิงท้องน่าจะ 7 - 8 เดือนขึ้นไป มากับเด็กสาววัยรุ่นคนนึง เดินพรวดเปิด
ประตูด้านหลัง แล้วก้าวเข้าไปนั่ง โดยที่ไม่ได้บอกกับคนขับก่อนว่าจะไปไหน ไม่ถึงครึ่งนาที ก็ต้อง
เปิดประตูออกมาอย่างลำบาก ชี้มือชี้ไม้บ่นโวยวาย .. คนขับเปิดประตูตามออกมาตะโกนด่าและ
มีปากเสียงอยู่พักใหญ่ ไม่รู้โชคดีหรือโชคร้าย ไฟเขียวพอดี ... รถจึงเคลื่อนตัวตามๆกันไป
สิ่งที่คาอยู่ในใจและมีคำถามเกิดขึ้นตามมาคือ... ใครคือฝ่ายผิด ?
ผู้โดยสารผิด ... ผิดที่ไม่บอกจุดหมายปลายทางก่อนขึ้นไปนั่ง
คนขับผิด.........ไม่ยอมรับผู้โดยสาร ทั้งที่มีสัมมาชีพในการขับรถให้บริการ
หลายคำอ้างที่เคยพบจากกระทู้ต่างๆเกี่ยวกับการใช้บริการรถแท็กซี่บ้านเรา ในลักษณะคล้ายกับกรณีนี้
นั่นคือ คนขับมักอ้างว่า
..
ก๊าซใกล้หมด ไปไม่ได้ ( แต่พอเห็นฝรั่งขึ้นทีไร ก๊าซเต็มถังทุกที )
..
ไม่รู้จักทาง ( ไม่เป็นไร ผู้โดยสาร ไม่มีใครลืมบ้านตัวเองหรอก ..เดี๋ยวเขาบอกทางให้ )
..
ไม่ไป ( ไม่บอกเหตุผล บางทีไม่พูด ส่ายหน้าปฎิเสธอย่างเดียว ตกลงเช่ารถมาหากิน หรือ มานั่งเล่น )
...
จะส่งรถ ( แล้วท่านมาทำซากอะไรกลางเมือง โน่นต้องเอารถไปล้างก่อนไม่ใช่เหรอ ... )
เพราะงั้นในฐานะที่พวกเราน่าจะอย่างน้อยเคยใช้บริการรถแท็กซี่มาบ้าง หรือใช้บริการเป็นประจำก็เถอะ
เคยมีประสบการณ์แย่ๆ กับการต้องขึ้นไปบนรถแล้วต้องหน้าแตก ลุกกลับออกมาเหมือนกรณีที่ จขกท.
ยกตัวอย่างบ้างหรือไม่
แล้วตัวคุณเองคิดว่า คุณผิด หรือ คนขับผิด กันแน่ .... ?
ความผิดใคร ?.. คนขับ - คนนั่ง ( TAXI )
...นี่คือเรื่องที่เห็นต่อหน้าต่อตา จนไม่อาจเก็บไว้คนเดียว
ช่วงเวลาใกล้ค่ำ เมื่อ 2 - 3 วันก่อน ระหว่างที่ขับรถตามมาหลัง แท็กซี่สีฟ้าคันหนึ่ง จนมาจอด
ติดเป็นตังเมหน้าศูนย์การค้าแห่งหนึ่งใจกลางเมือง ไม่ขยับเขยื้อนอยู่นาน จึงมีโอกาสเห็นว่า ..
ในช่วงนั้นมีผู้โดยสารหลายท่านเปิดประตูด้านข้างคนขับ ..บอกจุดหมายที่จะไป แต่ร้อยทั้งร้อย
ต่างเดินผละห่างออกมา บางคนไม่แสดงอาการใดๆ ขณะที่หลายคนมีสีหน้าหงุดหงิด ไม่พอใจ
แต่มีอยู่รายหนึ่ง เป็นผู้หญิงท้องน่าจะ 7 - 8 เดือนขึ้นไป มากับเด็กสาววัยรุ่นคนนึง เดินพรวดเปิด
ประตูด้านหลัง แล้วก้าวเข้าไปนั่ง โดยที่ไม่ได้บอกกับคนขับก่อนว่าจะไปไหน ไม่ถึงครึ่งนาที ก็ต้อง
เปิดประตูออกมาอย่างลำบาก ชี้มือชี้ไม้บ่นโวยวาย .. คนขับเปิดประตูตามออกมาตะโกนด่าและ
มีปากเสียงอยู่พักใหญ่ ไม่รู้โชคดีหรือโชคร้าย ไฟเขียวพอดี ... รถจึงเคลื่อนตัวตามๆกันไป
สิ่งที่คาอยู่ในใจและมีคำถามเกิดขึ้นตามมาคือ... ใครคือฝ่ายผิด ?
ผู้โดยสารผิด ... ผิดที่ไม่บอกจุดหมายปลายทางก่อนขึ้นไปนั่ง
คนขับผิด.........ไม่ยอมรับผู้โดยสาร ทั้งที่มีสัมมาชีพในการขับรถให้บริการ
หลายคำอ้างที่เคยพบจากกระทู้ต่างๆเกี่ยวกับการใช้บริการรถแท็กซี่บ้านเรา ในลักษณะคล้ายกับกรณีนี้
นั่นคือ คนขับมักอ้างว่า
.. ก๊าซใกล้หมด ไปไม่ได้ ( แต่พอเห็นฝรั่งขึ้นทีไร ก๊าซเต็มถังทุกที )
.. ไม่รู้จักทาง ( ไม่เป็นไร ผู้โดยสาร ไม่มีใครลืมบ้านตัวเองหรอก ..เดี๋ยวเขาบอกทางให้ )
.. ไม่ไป ( ไม่บอกเหตุผล บางทีไม่พูด ส่ายหน้าปฎิเสธอย่างเดียว ตกลงเช่ารถมาหากิน หรือ มานั่งเล่น )
...จะส่งรถ ( แล้วท่านมาทำซากอะไรกลางเมือง โน่นต้องเอารถไปล้างก่อนไม่ใช่เหรอ ... )
เพราะงั้นในฐานะที่พวกเราน่าจะอย่างน้อยเคยใช้บริการรถแท็กซี่มาบ้าง หรือใช้บริการเป็นประจำก็เถอะ
เคยมีประสบการณ์แย่ๆ กับการต้องขึ้นไปบนรถแล้วต้องหน้าแตก ลุกกลับออกมาเหมือนกรณีที่ จขกท.
ยกตัวอย่างบ้างหรือไม่
แล้วตัวคุณเองคิดว่า คุณผิด หรือ คนขับผิด กันแน่ .... ?