
ช่วงเวลาในชีวิต ที่มีความสุขที่สุดของทุกคน คงจะไม่พ้นในวัยเด็ก ที่มีหน้าที่ไปโรงเรียน เพื่อเรียนหนังสือ เอาความรู้ใส่ในสมองในแต่ละช่วงของอายุ เล่นซุกซนกันในหมู่เพื่อน ๆ ที่โรงเรียนบ้าง ที่บ้านบ้าง นั่นคือการเรียนหนังสือของนักเรียนในแบบปกติ ที่ไปโรงเรียนในตอนเช้า และกลับบ้านในช่วงเย็น

แต่มีการเรียนในโรงเรียนอีกรูปแบบหนึ่ง ที่อาจจะไปแพร่หลาย หรืออาจจะไม่ได้รับความนิยมในบางกลุ่ม บางครอบครัว คือการไปอยู่โรงเรียนกิน นอน หรือเรียกกันว่า “ โรงเรียนประจำ ” ซึ่งในประเทศไทยก็มีอยู่ไม่มากแห่งนัก และแต่ละแห่ง จะมีอายุ มีตำนานของโรงเรียนนั้น ๆ มากันเป็นรุ่น ๆ กันไป

ผมเอง ได้รับการส่งเข้าเรียนในโรงเรียนกินนอนแห่งหนึ่ง ที่มีอายุและมีชื่อเสียงมากที่สุดโรงเรียนหนึ่งในประเทศไทย เป็นโรงเรียนที่ถือกำเนิดมาจากพระมหากษัตริย์ พระองค์หนึ่งของประเทศไทย ในสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า เจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 ซึ่งพระองค์ได้ให้กำเนิดโรงเรียนแห่งลูกผู้ชาย โรงเรียนที่สอนให้เด็กผู้ชายเป็นสุภาพบุรุษ และเป็นคนดีของสังคม ตามพระราชประสงค์ของเสด็จพ่อของเราทุกคน นักเรียนโรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย

การที่เข้ามาเรียนที่วชิราวุธ ทุกคนจะต้องช่วยตัวเองในทุกเรื่องของชีวิตประจำวันของตัวเอง ตั้งแต่ตื่นนอน กินข้าว เรียน เล่นกีฬาจนกระทั่งเข้านอน ทุกอย่างเป็นระบบและอยู่ในระเบียบทุกขณะ เรียกได้ว่า เมื่อเข้ามาเรียนที่นี่ได้หนึ่งเดือน เมื่อกลับไปบ้าน ทุกคนในบ้านจะเห็นความเปลี่ยนแปลงและเปลี่ยนไปของลูกผู้ชายที่เคยอ้อนแอ้น ไม่หยิบไม่จับ กลับกลายเป็นคนละคนกันได้เลย

กว่า 30 ปีที่จบและจากกันมา หลายคนในหมู่เพื่อน ๆ ไม่ได้พบหน้ากันเลยก็มี ได้พบกันประปรายในโอกาสต่าง ๆ ก็มี จนถึงวันที่เรากว่า 40 คนในปี 2556 ก็ได้มาพบหน้ากันมากที่สุด และด้วยเหตุผลที่เพื่อนคนหนึ่งเอ่ยขึ้นมา ซึ่งผมเห็นว่าจริงด้วยทุกประการคือ
“ เราต่างก็อายุเฉียด 50 กันเกือบทุกคนแล้ว ไม่ได้พบกันนานแล้ว ตั้งแต่เด็ก ที่แก้ผ้าอาบน้ำมาด้วยกัน กินข้าวหม้อเดียวกัน มาจนถึงตอนนี้ ถ้าวันนี้ไม่มา ก็ไม่แน่ว่าจะได้มาพบกันอีกเมื่อไหร่ หรืออาจจะไม่ได้พบกันอีกเลยก็เป็นได้ ”
มันใช่มาก ๆ ในความรู้สึกที่ระลึกย้อนหลังกันไป ที่บัดนี้ เพื่อนหลายคนเป็นข้าราชการใหญ่โต ตำแหน่งสูง ๆ เป็นผู้บริหารในบริษัทใหญ่ยักษ์ แต่พอมาเจอหน้ากัน บรรยากาศตอนเด็ก ๆ มันผุดขึ้นมามากมาย เรื่องราวสนุกสนานในอดีตต่างเล่าต่างคุยกันสนุกจนแทบจะลืมกินข้าวกันเลย

นักเรียนเก่าวชิราวุธ ฯ หรือ OV. ( Old Boy Vajiravudh ) มีสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธฯ ถนนพิชัย เป็นที่นัดหมายกันประจำ ที่นี่ดีตรงที่ทุกคนรู้จัก ชำนาญในการเดินทางและที่สำคัญที่สุดคือได้ไปกินอาหารที่รสชาติยังคงเดิม เหมือนสมัยที่ตอนเด็ก ๆ ได้ทานกันมา เพราะครัว OV. ดำเนินการโดยคนเก่าแก่ของโรงเรียนเอง โดยสมัยก่อน ท่านเป็นภริยาของผู้กำกับคณะจิตรลดา ต่อมาได้ถ่ายทอดตำรับเด็ด สูตรอร่อย ๆ ให้กับลูกชายและลูกสะใภ้จนหมดใจ เรียกได้ว่า ถ้าคิดถึงความอร่อยตอนเด็ก ๆ มาที่ครัว OV. ไม่มีผิดหวังครับ
วันนี้ ชายกางขอพาท่านไปพบกับของอร่อย ๆ ในสมัยที่ชายกางได้เล่าเรียน กินนอนอยู่ที่โรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัยกันนะครับ และอยากให้ท่านทั้งหลายได้ลองไปชิมอาหารของที่ร้านครัว OV. ดูกันบ้างครับ
[CR] << ตระเวนกิน ทั่วถิ่นไทย ... ครัว OV. @ สมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัย >>
ช่วงเวลาในชีวิต ที่มีความสุขที่สุดของทุกคน คงจะไม่พ้นในวัยเด็ก ที่มีหน้าที่ไปโรงเรียน เพื่อเรียนหนังสือ เอาความรู้ใส่ในสมองในแต่ละช่วงของอายุ เล่นซุกซนกันในหมู่เพื่อน ๆ ที่โรงเรียนบ้าง ที่บ้านบ้าง นั่นคือการเรียนหนังสือของนักเรียนในแบบปกติ ที่ไปโรงเรียนในตอนเช้า และกลับบ้านในช่วงเย็น
แต่มีการเรียนในโรงเรียนอีกรูปแบบหนึ่ง ที่อาจจะไปแพร่หลาย หรืออาจจะไม่ได้รับความนิยมในบางกลุ่ม บางครอบครัว คือการไปอยู่โรงเรียนกิน นอน หรือเรียกกันว่า “ โรงเรียนประจำ ” ซึ่งในประเทศไทยก็มีอยู่ไม่มากแห่งนัก และแต่ละแห่ง จะมีอายุ มีตำนานของโรงเรียนนั้น ๆ มากันเป็นรุ่น ๆ กันไป
ผมเอง ได้รับการส่งเข้าเรียนในโรงเรียนกินนอนแห่งหนึ่ง ที่มีอายุและมีชื่อเสียงมากที่สุดโรงเรียนหนึ่งในประเทศไทย เป็นโรงเรียนที่ถือกำเนิดมาจากพระมหากษัตริย์ พระองค์หนึ่งของประเทศไทย ในสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า เจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 ซึ่งพระองค์ได้ให้กำเนิดโรงเรียนแห่งลูกผู้ชาย โรงเรียนที่สอนให้เด็กผู้ชายเป็นสุภาพบุรุษ และเป็นคนดีของสังคม ตามพระราชประสงค์ของเสด็จพ่อของเราทุกคน นักเรียนโรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย
การที่เข้ามาเรียนที่วชิราวุธ ทุกคนจะต้องช่วยตัวเองในทุกเรื่องของชีวิตประจำวันของตัวเอง ตั้งแต่ตื่นนอน กินข้าว เรียน เล่นกีฬาจนกระทั่งเข้านอน ทุกอย่างเป็นระบบและอยู่ในระเบียบทุกขณะ เรียกได้ว่า เมื่อเข้ามาเรียนที่นี่ได้หนึ่งเดือน เมื่อกลับไปบ้าน ทุกคนในบ้านจะเห็นความเปลี่ยนแปลงและเปลี่ยนไปของลูกผู้ชายที่เคยอ้อนแอ้น ไม่หยิบไม่จับ กลับกลายเป็นคนละคนกันได้เลย
กว่า 30 ปีที่จบและจากกันมา หลายคนในหมู่เพื่อน ๆ ไม่ได้พบหน้ากันเลยก็มี ได้พบกันประปรายในโอกาสต่าง ๆ ก็มี จนถึงวันที่เรากว่า 40 คนในปี 2556 ก็ได้มาพบหน้ากันมากที่สุด และด้วยเหตุผลที่เพื่อนคนหนึ่งเอ่ยขึ้นมา ซึ่งผมเห็นว่าจริงด้วยทุกประการคือ
“ เราต่างก็อายุเฉียด 50 กันเกือบทุกคนแล้ว ไม่ได้พบกันนานแล้ว ตั้งแต่เด็ก ที่แก้ผ้าอาบน้ำมาด้วยกัน กินข้าวหม้อเดียวกัน มาจนถึงตอนนี้ ถ้าวันนี้ไม่มา ก็ไม่แน่ว่าจะได้มาพบกันอีกเมื่อไหร่ หรืออาจจะไม่ได้พบกันอีกเลยก็เป็นได้ ”
มันใช่มาก ๆ ในความรู้สึกที่ระลึกย้อนหลังกันไป ที่บัดนี้ เพื่อนหลายคนเป็นข้าราชการใหญ่โต ตำแหน่งสูง ๆ เป็นผู้บริหารในบริษัทใหญ่ยักษ์ แต่พอมาเจอหน้ากัน บรรยากาศตอนเด็ก ๆ มันผุดขึ้นมามากมาย เรื่องราวสนุกสนานในอดีตต่างเล่าต่างคุยกันสนุกจนแทบจะลืมกินข้าวกันเลย
นักเรียนเก่าวชิราวุธ ฯ หรือ OV. ( Old Boy Vajiravudh ) มีสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธฯ ถนนพิชัย เป็นที่นัดหมายกันประจำ ที่นี่ดีตรงที่ทุกคนรู้จัก ชำนาญในการเดินทางและที่สำคัญที่สุดคือได้ไปกินอาหารที่รสชาติยังคงเดิม เหมือนสมัยที่ตอนเด็ก ๆ ได้ทานกันมา เพราะครัว OV. ดำเนินการโดยคนเก่าแก่ของโรงเรียนเอง โดยสมัยก่อน ท่านเป็นภริยาของผู้กำกับคณะจิตรลดา ต่อมาได้ถ่ายทอดตำรับเด็ด สูตรอร่อย ๆ ให้กับลูกชายและลูกสะใภ้จนหมดใจ เรียกได้ว่า ถ้าคิดถึงความอร่อยตอนเด็ก ๆ มาที่ครัว OV. ไม่มีผิดหวังครับ
วันนี้ ชายกางขอพาท่านไปพบกับของอร่อย ๆ ในสมัยที่ชายกางได้เล่าเรียน กินนอนอยู่ที่โรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัยกันนะครับ และอยากให้ท่านทั้งหลายได้ลองไปชิมอาหารของที่ร้านครัว OV. ดูกันบ้างครับ