ว่าด้วยเรื่องการ"เข้าแถว" กับนายกฯ 2 ยุค

สมัยก่อนเมื่อไม่นานมานี้ในยุคนายกฯทำคลอดจากค่ายทหารขึ้นครองอำนาจ
มีเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้จดจำได้ไม่รู้ลืม นั่นคือการขาดแคลนน้ำมันปาล์มอย่างหนัก
ทั้งๆที่ว่ากันว่าบริษัทที่ครองตลาดน้ำปาล์มมากสุดในเมืองไทยเป็นของใครบางคนที่อยูุ่่ในรัฐบาลนั่นเอง
แต่ไม่รู้ว่าบริหารจัดการกันอีท่าไหนจึงทำให้ประเทศชาติต้องขาดขาดแคลนน้ำมันอย่างหนัก จนประชาชน
ต้องแห่แหนกันไปเข้าแถวเพื่อซื้อน้ำมันปาล์ม น้ำมันพืชกัน เป็นภาพประวัติศาตร์ที่ชวนให้เจ็บปวดใจอย่างยิ่ง
บางแห่งบางที่ถึงกับต้องเรื่องทะเลาะวิวาท แย่งชิงตบตีกันก็มี



แถมมีอีกนโยบายหนึ่งที่น่าชวนหัวปนเศร้าคือ"นโยบายใข่ชั่งกิโลฯ" นโยบายนี้ต้องใช้เงินภาษีประชาชน
ถึง 60 กว่าล้านไปจ้างชาวต่างชาติให้ช่วยคิดให้ ประชาชนทราบข่าวต่างสลดหดหู่กันถ้วนทั่ว
ยกเว้น"สลิ่มสาบ"เงียบกริบ คงจุกอกกับพรรคการเมืองที่พวกตนเองเชื่อถือจนพูดอะไรไม่ออก อมยิ้ม16




พอมาถึงยุคสมัยนายกฯที่ได้รับเลือกจากประชาชนเสียงข้างมากบ้าง
ก็เกิดปรากฏการณ์"เข้าแถว"ขึ้นมาอีก แต่คราวนี้ประชาชนคงจะมีกะตังค์กันมากขึ้น
หรืออย่างไรถึงได้มีการ"เข้าแถว"ซื้อทองกัน ทองนะครับทองคำ ขอย้ำว่าทองคำ



ในห้องราชฯการเมืองนี้มีกลุ่มผู้สนับสนุน,เห็นด้วยกับพรรคการเมืองที่ตนเองเชื่อถือ เชื่อมั่น เชื่อมือ
ให้ปกครองประเทศ ลองคิดทบทวนดูนะครับว่าพรรคการเมืองไหนที่เห็นควรเชื่อถือ,สนับสนุนหรือไม่สนับสนุนอย่างไร
คิดว่าความรู้ความสามารถของแต่ละท่านมีมากพออยู่แล้ว คงพอมองเห็นมองออก ถ้าอคติไม่บังตามากจนเกินไป

เคารพทุกความคิดเห็นครับ   อมยิ้ม17


ปล.  เพิ่มรูปภาพ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่