เครดิตบทความโดย SinthornVista
ถ้าหากมองแบบกว้างๆแล้ว โดยมองเฉพาะปัจจัยเศรษฐกิจในภาวะปกติ เมื่อเรามองหุ้นตัวใหญ่ที่สุดของตลาดอย่างบริษัท ปตท. (PTT) และเปรียบเทียบกับดัชนีก็จะพบว่าหุ้นตัวนี้ยังคงมีราคาที่ต่ำ ไม่ได้ขึ้นไปตามดัชนี หากแต่ยังคง “ล้าหลัง” ดัชนีอยู่มาก
ในแต่ละวันการเคลื่อนไหวของหุ้นและราคาหุ้นยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆทำให้นักลงทุนอึดอัดใจไม่น้อย รวมทั้งหุ้นกลุ่มพลังงานเองก็ยังไม่ได้ขึ้นมาสักเท่าไหร่ โดยเป็นเพราะปัจจัยเสี่ยงทางด้านสถานการณ์โลก ซึ่งมีผลอ่อนไหวต่อราคาสินค้า commodities โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่แกว่งขึ้นลงวันต่อวันแบบไม่มีทิศทางที่แน่ชัด ในจุดนี้จึงทำให้หุ้นกลุ่มพลังงานหลายๆตัวยังไม่ได้ขึ้นมาสู่ราคาเหมาะสมเท่าที่ควร
หากจะว่าไปแล้วจะหาหุ้นดีๆสักสองสามตัวประดับพอร์ทการลงทุน โดยที่ราคายังไม่แพงมาก และยังเป็นหุ้นที่ยังไม่ได้ขึ้นไปเยอะตามดัชนี ทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจคือ PTT หุ้นดีกลุ่มพลังงาน แม้ว่าปัจจัยเสี่ยงของ ปตท. จะมีพอสมควรทั้งเรื่องของรายจ่ายในกรณีท่อก๊าซรั่ว และราคาน้ำมันที่ยังเคลื่อนไหวแบบไม่มีทิศทางชัดเจน แต่ PTT ก็เป็นหุ้นดีหุ้นหนึ่งของตลาดที่น่าจับตามอง
เพราะหุ้น ปตท. เป็นหุ้นหลักของกลุ่มพลังงาน เป็นหุ้นหลักของดัชนี เป็นหุ้นที่มีผลประโยชน์ค่อนข้างมาก และกำไรการเติบโตชัดเจนดีขึ้นทุกปี ตราบใดที่ประเทศไทยและโลกยังต้องใช้พลังงานปิโตรเลียม หุ้น PTT ก็ยังคงไม่ล้มหายตายจากไปจากตลาดหุ้นแน่ๆ … และยังมีข้อดีอีกข้อคือบริษัทในเครือก็คือ ปตท. เคมิคอล (PTTCH) และ ปตท. อะโรเมติกส์และการกลั่น (PTTAR) จะทำการควบรวมกัน ซึ่งจะทำให้ผลประโยชน์กลับคืนมาสู่ผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนได้อย่างมาก โดยเฉพาะกับ ปตท. ที่มีสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทในเครือเหล่านี้สูง โดยจากการประเมิณเบื้องต้นในแต่ละปี หลังการควบรวมแล้วเสร็จ จะทำให้บริษัทใหม่หลังการควบรวมคือ ปตท. โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) น่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้น และรายจ่ายน้อยลงอย่างมาก ผลประโยชน์อยู่กับ ปตท.และผู้ถือหุ้นเต็มๆ
จากการดูข้อมูลทางบัญชีอย่างพื้นฐานพบว่าค่า P/E ของ ปตท. ยังอยู่แค่ 10 เท่ากว่าๆ ยังถือว่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ย P/E ของตลาดที่ขึ้นไปอยู่ระดับ 14 เท่าแล้ว อัตราการปันผลก็ไม่เลว อยู่ที่ประมาณเกือบ 3% รวมทั้งบริษัทในเครือของ ปตท. ต่างก็มีผลประกอบการที่ดีขึ้นมาโดยตลอด จะว่าไปแล้วพื้นฐานของ ปตท. ยังคงแข็งแกร่งอยู่มากและยังมี Upside ที่สูงกว่า 30%
ผลประกอบการของ ปตท.ในปีนี้คาดว่าน่าจะทำสถิติสูงสุดใหม่ได้ (All time high) แต่ราคาหุ้นของ ปตท.ยังคงล้าหลังดัชนีอยู่พอสมควร สถานการณ์และรายจ่ายก็ไม่ได้ถึงกับเลวร้ายมาก ราคาน้ำมันก็ยังอยู่ในระดับสูง แม้ว่าจะไม่ได้สูงอย่างไตรมาส 1/54 แต่ก็ถือว่ายังเป็นราคาน้ำมันที่ทำให้ ปตท.น่าจะมีผลประกอบการอย่างโดดเด่นและน่าประทับใจ
นโยบายภาครัฐยังมีแนวโน้มที่จะช่วยลดรายจ่ายสำคัญอย่างภาษีนิติบุคคลจากเดิม 30% ลงไปเหลือ 23% (คาดว่าจะทำได้ในปีแรก) จะยิ่งช่วยส่งผลให้ ผลประกอบการได้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น ประมาณการเป้าหมายของราคาหุ้นจะยิ่งต้องเพิ่มขึ้นไป การควบรวมกิจการลดภาระทางภาษีออกไปอีก ทำให้ผลประกอบการของบริษัทในเครือของ ปตท.จะยิ่งมีกำไรจากการลงทุนของ ปตท.เพิ่มมากยิ่งขึ้น ดังนั้นไม่ว่าจะมองอย่างไร ปตท. ถือว่าเป็นหุ้นดีมากตัวหนึ่งที่น่าจะซื้อเก็บไว้ หากสถานการณ์โลกอื่นๆที่บอบบางอย่างเพดานหนี้สหรัฐและปัญหาหนี้ยุโรป ไม่ลุกลามจนทำให้สภาพเศรษฐกิจโดยรวมเกิดภาวะวิกฤต ปีนี้ หุ้น PTT น่าจะขึ้นไปทำสถิติราคาสูงสุดใหม่ได้เพราะกำไรคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก และนโยบายภาครัฐยังน่าจะช่วยส่งเสริมให้กำไรสุทธิของ ปตท. เพิ่มขึ้นไปอีกได้
แต่ทำไมราคายังไม่ขึ้นล่ะ ? แล้วทำไมราคายังวนอยู่แถวนี้ล่ะ ? … มันค่อนข้าง “ลับ ลวง พราง” เหมือนกันนะเนี่ย อิอิ คงต้องไปคิดกันว่าเรื่องนี้มันเป็นฝีมือของใครที่กำลังเก็บหุ้นอยู่หรือไม่ !!!
ปล. ผมไม่มีหุ้นหรอกนะ แต่เห็นราคาแล้วสงสัย เกิดไรขึ้น
PTT หุ้นดีที่คุณคู่ควร
ถ้าหากมองแบบกว้างๆแล้ว โดยมองเฉพาะปัจจัยเศรษฐกิจในภาวะปกติ เมื่อเรามองหุ้นตัวใหญ่ที่สุดของตลาดอย่างบริษัท ปตท. (PTT) และเปรียบเทียบกับดัชนีก็จะพบว่าหุ้นตัวนี้ยังคงมีราคาที่ต่ำ ไม่ได้ขึ้นไปตามดัชนี หากแต่ยังคง “ล้าหลัง” ดัชนีอยู่มาก
ในแต่ละวันการเคลื่อนไหวของหุ้นและราคาหุ้นยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆทำให้นักลงทุนอึดอัดใจไม่น้อย รวมทั้งหุ้นกลุ่มพลังงานเองก็ยังไม่ได้ขึ้นมาสักเท่าไหร่ โดยเป็นเพราะปัจจัยเสี่ยงทางด้านสถานการณ์โลก ซึ่งมีผลอ่อนไหวต่อราคาสินค้า commodities โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่แกว่งขึ้นลงวันต่อวันแบบไม่มีทิศทางที่แน่ชัด ในจุดนี้จึงทำให้หุ้นกลุ่มพลังงานหลายๆตัวยังไม่ได้ขึ้นมาสู่ราคาเหมาะสมเท่าที่ควร
หากจะว่าไปแล้วจะหาหุ้นดีๆสักสองสามตัวประดับพอร์ทการลงทุน โดยที่ราคายังไม่แพงมาก และยังเป็นหุ้นที่ยังไม่ได้ขึ้นไปเยอะตามดัชนี ทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจคือ PTT หุ้นดีกลุ่มพลังงาน แม้ว่าปัจจัยเสี่ยงของ ปตท. จะมีพอสมควรทั้งเรื่องของรายจ่ายในกรณีท่อก๊าซรั่ว และราคาน้ำมันที่ยังเคลื่อนไหวแบบไม่มีทิศทางชัดเจน แต่ PTT ก็เป็นหุ้นดีหุ้นหนึ่งของตลาดที่น่าจับตามอง
เพราะหุ้น ปตท. เป็นหุ้นหลักของกลุ่มพลังงาน เป็นหุ้นหลักของดัชนี เป็นหุ้นที่มีผลประโยชน์ค่อนข้างมาก และกำไรการเติบโตชัดเจนดีขึ้นทุกปี ตราบใดที่ประเทศไทยและโลกยังต้องใช้พลังงานปิโตรเลียม หุ้น PTT ก็ยังคงไม่ล้มหายตายจากไปจากตลาดหุ้นแน่ๆ … และยังมีข้อดีอีกข้อคือบริษัทในเครือก็คือ ปตท. เคมิคอล (PTTCH) และ ปตท. อะโรเมติกส์และการกลั่น (PTTAR) จะทำการควบรวมกัน ซึ่งจะทำให้ผลประโยชน์กลับคืนมาสู่ผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนได้อย่างมาก โดยเฉพาะกับ ปตท. ที่มีสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทในเครือเหล่านี้สูง โดยจากการประเมิณเบื้องต้นในแต่ละปี หลังการควบรวมแล้วเสร็จ จะทำให้บริษัทใหม่หลังการควบรวมคือ ปตท. โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) น่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้น และรายจ่ายน้อยลงอย่างมาก ผลประโยชน์อยู่กับ ปตท.และผู้ถือหุ้นเต็มๆ
จากการดูข้อมูลทางบัญชีอย่างพื้นฐานพบว่าค่า P/E ของ ปตท. ยังอยู่แค่ 10 เท่ากว่าๆ ยังถือว่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ย P/E ของตลาดที่ขึ้นไปอยู่ระดับ 14 เท่าแล้ว อัตราการปันผลก็ไม่เลว อยู่ที่ประมาณเกือบ 3% รวมทั้งบริษัทในเครือของ ปตท. ต่างก็มีผลประกอบการที่ดีขึ้นมาโดยตลอด จะว่าไปแล้วพื้นฐานของ ปตท. ยังคงแข็งแกร่งอยู่มากและยังมี Upside ที่สูงกว่า 30%
ผลประกอบการของ ปตท.ในปีนี้คาดว่าน่าจะทำสถิติสูงสุดใหม่ได้ (All time high) แต่ราคาหุ้นของ ปตท.ยังคงล้าหลังดัชนีอยู่พอสมควร สถานการณ์และรายจ่ายก็ไม่ได้ถึงกับเลวร้ายมาก ราคาน้ำมันก็ยังอยู่ในระดับสูง แม้ว่าจะไม่ได้สูงอย่างไตรมาส 1/54 แต่ก็ถือว่ายังเป็นราคาน้ำมันที่ทำให้ ปตท.น่าจะมีผลประกอบการอย่างโดดเด่นและน่าประทับใจ
นโยบายภาครัฐยังมีแนวโน้มที่จะช่วยลดรายจ่ายสำคัญอย่างภาษีนิติบุคคลจากเดิม 30% ลงไปเหลือ 23% (คาดว่าจะทำได้ในปีแรก) จะยิ่งช่วยส่งผลให้ ผลประกอบการได้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น ประมาณการเป้าหมายของราคาหุ้นจะยิ่งต้องเพิ่มขึ้นไป การควบรวมกิจการลดภาระทางภาษีออกไปอีก ทำให้ผลประกอบการของบริษัทในเครือของ ปตท.จะยิ่งมีกำไรจากการลงทุนของ ปตท.เพิ่มมากยิ่งขึ้น ดังนั้นไม่ว่าจะมองอย่างไร ปตท. ถือว่าเป็นหุ้นดีมากตัวหนึ่งที่น่าจะซื้อเก็บไว้ หากสถานการณ์โลกอื่นๆที่บอบบางอย่างเพดานหนี้สหรัฐและปัญหาหนี้ยุโรป ไม่ลุกลามจนทำให้สภาพเศรษฐกิจโดยรวมเกิดภาวะวิกฤต ปีนี้ หุ้น PTT น่าจะขึ้นไปทำสถิติราคาสูงสุดใหม่ได้เพราะกำไรคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก และนโยบายภาครัฐยังน่าจะช่วยส่งเสริมให้กำไรสุทธิของ ปตท. เพิ่มขึ้นไปอีกได้
แต่ทำไมราคายังไม่ขึ้นล่ะ ? แล้วทำไมราคายังวนอยู่แถวนี้ล่ะ ? … มันค่อนข้าง “ลับ ลวง พราง” เหมือนกันนะเนี่ย อิอิ คงต้องไปคิดกันว่าเรื่องนี้มันเป็นฝีมือของใครที่กำลังเก็บหุ้นอยู่หรือไม่ !!!
ปล. ผมไม่มีหุ้นหรอกนะ แต่เห็นราคาแล้วสงสัย เกิดไรขึ้น