เรื่องยกเลิกการประหารชีวิตในประเทศไทย

"องค์กรนิรโทษกรรมสากล" ยื่นหนังสือถึง "กระทรวงยุติธรรม" ให้ยกเลิกโทษประหารในประเทศไทย ชี้ โทษประหารไม่ทำสถิติอาชญากรรมลดลงเท่ากวดขันจับกุม วันที่ 11 เม.ย. ที่กระทรวงยุติธรรม น.ส.ปริญญา บุญฤทธิ์ฤทัยกุล ผอ.แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เข้าพบนายสุชน ชาลีเครือ ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม และ พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เพื่อยื่นหนังสือเรียกร้องให้ยกเลิกโทษประหารในประเทศไทย โดย น.ส.ปริญญา กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยยังเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่มีโทษประหารชีวิต อันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานตามหลักปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแห่งองค์การสหประชาชาติ โดยวันนี้ได้ยื่นข้อเรียกร้อง 4 ข้อให้กระทรวงยุติธรรมของไทยดำเนินการ คือ 1.ขอให้รัฐประกาศพักการใช้โทษประหาร 2.ขอให้แก้กฎหมาย 55 ความผิดคดีอาญา เพราะบางคดีไม่ใช่คดีอาญาร้ายแรง 3.ขอให้ร่างแผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ฉบับที่ 3 ซึ่งจะบังคับใช้ในปี 2557  มีการแสดงเจตจำนงค์ในการยกเลิกโทษประหารชีวิต และ 4.เปลี่ยนโทษประหารเป็นโทษจำคุกตลอดชีวิตแทนเช่นเดียวกับแผนสิทธิมนุษยชนฯ ฉบับที่ 2 นอกจากนี้ยังขอให้ไทยประกาศสัตยาบันรับรองพิธีสารเลือกรับฉบับที่สองของกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ทั้งนี้ อ้างถึงผลวิจัยการยกเลิกโทษประหารในต่างประเทศว่าไม่ได้มีผลให้สถิติก่ออาชญากรรมเพิ่มขึ้นหรือลดลง โดยมองว่าการจับกุมอย่างเคร่งครัดจะทำให้ประชาชนหวาดกลัวกับการกระทำผิดและมีผลต่อสถิติอาชญากรรมโดยตรง


น.ส.ปริญญา  กล่าวว่า  จากการพูดคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพบว่ามีความเห็นสอดคล้องกับการยกเลิกโทษประหาร  โดยในส่วนของกรมคุ้มครองสิทธิฯซึ่งมีบทบาทในการศึกษาเพื่อร่างแผนสิทธิมนุษยชนฉบับที่ 3 จะลงพื้นที่เพื่อสอบถามความคิดเห็นของภาคประชาชนมาประกอบการพิจารณาด้วย   พร้อมกันนี้ เปิดเผยรายงานสถานการณ์โทษประหารชีวิตและการประหารชีวิตในปี 2555 พบไทยเป็นหนึ่งใน 58 ประเทศทั่วโลกที่ยังคงใช้โทษประหารชีวิต  ขณะที่แนวโน้มทั่วโลกมุ่งสู่การยกเลิกโทษประหารชีวิต  โดยประเทศประชาคมอาเซียน 10 ประเทศ มีประเทศไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และเวียดนาม ที่ยังใช้โทษประหารชีวิต
http://www.dailynews.co.th/crime/196769
มันจะดีเหรอครับ