ขอคำปรึกษาและช่วยเหลือด้วยครับ
เนื้อหาอาจจะยาวหน่อยนะครับ
...........
เมื่อวันที่3เมษายน หรือต้นเดือนนี้
ภรรยาคนญี่ปุ่นที่ทำงานถูกล้วงกระเป๋าที่ทางเดินระหว่าง
BTSอโศกกับTerminal 21
และรู้สึกตัวหลังจากนั้นประมาณบ่ายโมง
จึงได้ทำการระงับบัตรเครดิต
แต่พอเช็คการใช้แล้ว มีการใช้บัตร2ใบ
เป็นจำนวนเงิน210,000ที่ห้างParagon
ร้านKARATชั้น1 จึงได้รวบรวมข้อมูล
และไปแจ้งตำรวจ สน. ลุมพินี ในวันนั้นตอนเย็น
และได้ทำการลงบันทึกประจำวันเบื้องต้นแล้ว
....จบวันที่3เมษา...
วันที่4เมษา
วันต่อมาคนญี่ปุ่นได้พาผมไปแปล
ที่สน.และตำรวจพยายามบ่ายเบี่ยง
ให้เราไปขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดเอง(?)
จนคนญี่ปุ่นถามว่านี่มันหน้าที่ตำรวจไม่ใช่เหรอ?
และพยายามไล่ให้เราไปที่ร้านเอง
แต่ผมก็บอกให้ลองหาเบอร์ในเนตแล้วโทรไปถามก่อน
แต่ก็โดนบ่ายเบี่ยงจนผมต้องหาเบอร์ด้วยเนตมือถือเอง
และโทรไปเอง พอโทรไปและเล่าเรื่องให้พนักงงานที่ร้านฟัง
พนักงานที่ร้านบอกไม่มีคนมาซื้อและจะให้คุยกับ
ผู้จัดการ(หรือเจ้าของร้านผมไม่ทราบ)
แต่ก็โดนตัดสายไป ผมจึงโทรไปอีกทีและเป็นอีกคนนึงรับ
ซึ่งน่าจะเป็นผู้จัดการ ผมจึงให้ตำรวจคุย
และมีท่าทีว่าจะไม่ให้ดูกล้องวงจรปิด แต่ก็นัดไปดูในวันถัดไป
....จบวันที่4เมษา....
วันที่5เมษา
วันถัดมาจ่าที่ดูแลคดีนี้อยู่ได้โทรมาหาผมบอกว่า
ทางร้านยืนยันว่าไม่มีการซื้อ และร้านเปิดเที่ยง
ไม่มีทางมาซื้อได้แน่นอนก็เลยไม่ได้ทำการตรวจกล้องวงจรปิด
เลยให้ผมรวมหลักฐานที่ยืนยันการซื้อที่ร้านนั้นมาก่อน
แล้วจะไปตรวจให้อีกที
....จบวันที่5เมษา....
วันนี้17เมษา
เนื่องจากการขอหลักฐานจากญี่ปุ่นใช้เวลานาน
เลยได้เอกสารวันนี้ ซึ่งได้ทำการโทรไปอีกที
และทำการแฟกซ์หลักฐานไป
แต่ตำรวจที่ดูแลกรณีนี้พยายามพูดบ่ายเบี่ยงจะไม่เข้าไปตรวจ
เพราะทางร้านยืนยันว่ายังไม่เปิด ไม่มีการซื้อแน่นอน
แต่ผมก็บอกไปว่า ทางเราก็มีหลักฐานยืนยันเหมือนกัน
ถ้าไม่เข้าก็จะคราบแคลงใจไม่ใช่เหรอ? แล้วออกหมายค้นไม่ได้เหรอ?
ทางตำรวจก็ตอบกลับมาว่า "ถ้าออกหมายค้นไปถ้าไม่มีเขาฟ้องกลับก็ตายน่ะสิ" (?)
ผมต้องพูดวนประมาณ3รอบกว่าจะบอกว่าจะเข้าไปตรวจ
แต่พอถามว่าจะเข้าไปตรวจเมื่อไหร่ก็พยายามไม่ตอบ
ผมจึงถามหลายรอบจนบอกว่า วันนี้จะเข้าไป"ดูให้"อีกรอบ
ซึ่งก็มีท่าทีว่าจะไม่คืบหน้าเหมือนเดิม
..............
ถึงตรงนี้ผมได้ยินว่า หากทางร้านมีการใช้บัตรเครดิต
โดยไม่ตรวจสอบลายมือชื่อให้ถูกต้องจะมี"ความผิด"
หากเป็นเช่นนั้นเป็นไปได้ว่าทางร้านพยายามปัดสวะออกจากตัว
และอาจมีการขอร้องตำรวจทำอะไรสักอย่าง(?)
ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นคดีอาจจะเงียบไปเลยก็ได้..
ผมควรทำอย่างไงดีครับ ควรจะกระจายเรื่องนี้ไปในSocialไหม
หรือจะทำยังไงดีเพราะไม่มีpowerพอจะกดดันใคร
เพราะไม่อยากปล่อยให้คนญี่ปุ่นที่พึ่งเข้ามาทำงานในไทย
มีภรรยาและลูกตัวเล็กๆอายุ3ขวบ ถูกขโมยเงินกว่า6แสนเยน
โดยที่ไม่ได้รับความร่วมมือจากคนไทยเลย..
ทำยังไงดีครับ...
ภรรยาคนญี่ปุ่นที่ทำงานถูกล้วงกระเป๋าแต่ไม่ได้รับความช่วยเหลือจากตำรวจ...
เนื้อหาอาจจะยาวหน่อยนะครับ
...........
เมื่อวันที่3เมษายน หรือต้นเดือนนี้
ภรรยาคนญี่ปุ่นที่ทำงานถูกล้วงกระเป๋าที่ทางเดินระหว่าง
BTSอโศกกับTerminal 21
และรู้สึกตัวหลังจากนั้นประมาณบ่ายโมง
จึงได้ทำการระงับบัตรเครดิต
แต่พอเช็คการใช้แล้ว มีการใช้บัตร2ใบ
เป็นจำนวนเงิน210,000ที่ห้างParagon
ร้านKARATชั้น1 จึงได้รวบรวมข้อมูล
และไปแจ้งตำรวจ สน. ลุมพินี ในวันนั้นตอนเย็น
และได้ทำการลงบันทึกประจำวันเบื้องต้นแล้ว
....จบวันที่3เมษา...
วันที่4เมษา
วันต่อมาคนญี่ปุ่นได้พาผมไปแปล
ที่สน.และตำรวจพยายามบ่ายเบี่ยง
ให้เราไปขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดเอง(?)
จนคนญี่ปุ่นถามว่านี่มันหน้าที่ตำรวจไม่ใช่เหรอ?
และพยายามไล่ให้เราไปที่ร้านเอง
แต่ผมก็บอกให้ลองหาเบอร์ในเนตแล้วโทรไปถามก่อน
แต่ก็โดนบ่ายเบี่ยงจนผมต้องหาเบอร์ด้วยเนตมือถือเอง
และโทรไปเอง พอโทรไปและเล่าเรื่องให้พนักงงานที่ร้านฟัง
พนักงานที่ร้านบอกไม่มีคนมาซื้อและจะให้คุยกับ
ผู้จัดการ(หรือเจ้าของร้านผมไม่ทราบ)
แต่ก็โดนตัดสายไป ผมจึงโทรไปอีกทีและเป็นอีกคนนึงรับ
ซึ่งน่าจะเป็นผู้จัดการ ผมจึงให้ตำรวจคุย
และมีท่าทีว่าจะไม่ให้ดูกล้องวงจรปิด แต่ก็นัดไปดูในวันถัดไป
....จบวันที่4เมษา....
วันที่5เมษา
วันถัดมาจ่าที่ดูแลคดีนี้อยู่ได้โทรมาหาผมบอกว่า
ทางร้านยืนยันว่าไม่มีการซื้อ และร้านเปิดเที่ยง
ไม่มีทางมาซื้อได้แน่นอนก็เลยไม่ได้ทำการตรวจกล้องวงจรปิด
เลยให้ผมรวมหลักฐานที่ยืนยันการซื้อที่ร้านนั้นมาก่อน
แล้วจะไปตรวจให้อีกที
....จบวันที่5เมษา....
วันนี้17เมษา
เนื่องจากการขอหลักฐานจากญี่ปุ่นใช้เวลานาน
เลยได้เอกสารวันนี้ ซึ่งได้ทำการโทรไปอีกที
และทำการแฟกซ์หลักฐานไป
แต่ตำรวจที่ดูแลกรณีนี้พยายามพูดบ่ายเบี่ยงจะไม่เข้าไปตรวจ
เพราะทางร้านยืนยันว่ายังไม่เปิด ไม่มีการซื้อแน่นอน
แต่ผมก็บอกไปว่า ทางเราก็มีหลักฐานยืนยันเหมือนกัน
ถ้าไม่เข้าก็จะคราบแคลงใจไม่ใช่เหรอ? แล้วออกหมายค้นไม่ได้เหรอ?
ทางตำรวจก็ตอบกลับมาว่า "ถ้าออกหมายค้นไปถ้าไม่มีเขาฟ้องกลับก็ตายน่ะสิ" (?)
ผมต้องพูดวนประมาณ3รอบกว่าจะบอกว่าจะเข้าไปตรวจ
แต่พอถามว่าจะเข้าไปตรวจเมื่อไหร่ก็พยายามไม่ตอบ
ผมจึงถามหลายรอบจนบอกว่า วันนี้จะเข้าไป"ดูให้"อีกรอบ
ซึ่งก็มีท่าทีว่าจะไม่คืบหน้าเหมือนเดิม
..............
ถึงตรงนี้ผมได้ยินว่า หากทางร้านมีการใช้บัตรเครดิต
โดยไม่ตรวจสอบลายมือชื่อให้ถูกต้องจะมี"ความผิด"
หากเป็นเช่นนั้นเป็นไปได้ว่าทางร้านพยายามปัดสวะออกจากตัว
และอาจมีการขอร้องตำรวจทำอะไรสักอย่าง(?)
ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นคดีอาจจะเงียบไปเลยก็ได้..
ผมควรทำอย่างไงดีครับ ควรจะกระจายเรื่องนี้ไปในSocialไหม
หรือจะทำยังไงดีเพราะไม่มีpowerพอจะกดดันใคร
เพราะไม่อยากปล่อยให้คนญี่ปุ่นที่พึ่งเข้ามาทำงานในไทย
มีภรรยาและลูกตัวเล็กๆอายุ3ขวบ ถูกขโมยเงินกว่า6แสนเยน
โดยที่ไม่ได้รับความร่วมมือจากคนไทยเลย..
ทำยังไงดีครับ...