หลังจากทำใจได้กับการจากไปของโกโบริ ขออนุญาตส่งความเห็นเกี่ยวกับละครคู่กรรม ไปยังคุณบอย (ถกลเกียรติ วีรวรรณ) ผู้ผลิดผลงานนี้
จขกท.ทราบดีว่าละครเรื่องนี้เร่งรีบเปิดตัว และเร่งถ่ายทำ ด้วยเหตุผลที่เป็นที่เข้าใจได้ และเห็นว่าเป็นการออกผลงานในช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด ถ้ารอให้ช้ากว่านี้ คนอาจจะตอบสนองน้อยกว่านี้เพราะไปซ้ำกับผลงานอื่น
ตอนประกาศเปิดตัวคู่กรรม มึคนจำนวนหนึ่ง รวมทั้งสื่อมวลชนที่พยายามตั้งคำถามในเชิงลบเกี่ยวกับตัวนักแสดง และความยิ่งใหญ่ว่าจะสู้ผลงานที่เป็นที่นิยมอย่างมากในอดีตได้หรือไม่
แต่ข้อกังขาดังกล่าวก็หมดไปเมื่อผลงานเริ่มฉายในทีวี และยิ่งหลายตอน กระแสละครเรื่องนี้ก็ยิ่งแรงมากขึ้นๆ ดังจะเห็นว่ามีคำชมมากมาย รวมกับความคลั่งใคล้ละครเรื่องนี้ ที่ปรากฏในสื่อออนไลน์หลายสำนัก ทำให้เป็นละครที่ฮ็อต และมีโฆษณาถี่มาก ยิ่งตอนจบกระทู้ที่เกี่ยวข้องก็มีมากอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน
ขอแสดงความเห็นในฐานะผู้ชมธรรมดาคนหนึ่ง โดยไม่เปรียบเทียบกับบทประพันธ์ที่เป็นหนังสือหรือเปรียบเทียบกับคู่กรรมเวอร์ชั่นอื่น
โดยภาพรวม คู่กรรมเวอร์ชั่นนี้เป็นละครโทรทัศน์ที่ลงทุนมาก ทั้งในแง่การคิด และการใช้เงิน ภาพที่ออกมาจึงปรากฏเป็นเหตุการณ์ย้อนอดีตที่สมจริงมาก โดยรวมแล้วละครเรื่องนี้สามารถดึงคนดูให้เข้าไปอยู่ในประวัติศาสตร์ช่วงสงครามโลกครั้งที่สองได้ หลักฐานคือมีคนตั้งกระทู้ถามเกี่ยวกับที่ตั้ง บุคคล สงคราม และรายละเอียด ที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก
ขอให้ความเห็นบางประการทีละหัวข้อดังนี้
ฉาก
ที่ตั้งอู่ต่อเรือ เรือนไทย สิ่งก่อสร้าง สิ่งแวดล้อม และข้าวของ (โดยเฉพาะในครัว) ดูสมจริง ทำให้เชื่อว่าเป็นชีวิตความเป็นอยู่ของคนสมัยนั้น การใช้น้ำคลองมาใส่โอ่ง การใช้เตาถ่าน ใช้ครก ใช้หม้อดิน การนอนในมุ้ง ฯลฯ ล้วนทำให้ละครสมจริงมาก ที่สำคัญคือภาพออกมาสวยด้วย มีที่ตินิดหน่อยตรงฉากโกโบริตาย กองไม้ที่ทับถมตัวมันจงใจจัดวางเป็นระเบียบไม่สมจริงเลย
การแต่งกาย และการแต่งหน้า
จะเห็นได้ว่าเสื้อผ้าของตัวละครในเรื่อง ดูสมจริง มีความประณีตและสวยงาม อาจมีจุดเล็กน้อยที่ไม่เหมือนจริง คือการนุ่งผ้าถุง อันที่จริงผู้หญิงภาคกลางจะนุ่งผาถุงยาวกว่าที่อังศุมาลินนุ่ง แต่เพื่อความสวยงามและคล่องตัว ผ้าถุงสั้นหน่อยก็ถือว่ารับได้ การแต่งหน้าของตัวละครโดยทั่วไปดูดี ยกเว้นแต่การทาปากเข้มเกินไปของโกโบริในบางฉาก การแต่งหน้าที่หนาและขาววอกของวนัส และการแต่งหน้าที่ขาวผ่องเกินไปของอังศุมาลินในฉากตอนตื่นนอน ฉากหนีระเบิด ฉากตอนโกโบริตาย การแต่งหน้าตัวละครเป็นจุดอ่อนที่เห็นชัด เพราะขาดความสม่ำเสมอ บ่อยครั้งที่เหตุการณ์ต่อเนื่องกัน แต่หน้าของตัวละครเปลี่ยนไป เช่นอังศุมาลินกำลังร้องไห้น้ำตานองหน้า หน้าตาเศร้าหมอง เลอะเทอะอยู่ดีๆ (ซึ่งสมจริงดีแล้ว) แต่พอพูดต่อ (เข้าใจว่าหยุดแล้วมาถ่ายต่อ) กลายเป็นหน้าตาขาวผ่องสะอาด เหมือนไปงานเลย ทำให้อารมณ์คนดูสะดุดไป ฉากวนัสก็มีจากหน้าตาเลอะเทอะ สักประเดี๋ยวก็กลายเป็นหน้าเรียบขาว รอยแผลหายไป แล้วก็กลับมามีรอยแผลอีก โกโบริก็บ่อยมากที่ปากซีดอยู่ดีๆ หันมาอีกทีปากแดงเลย ต่อไปนี้ขอให้ระวังเรื่องการแต่งหน้า โดยเฉพาะอยากให้เลิกทาปากสีแดงให้ตัวละครผู้ชาย ใช้แค่ลิปมันก็พอ
การกำหนดตัวแสดง (casting) และการแสดง
ชอบการเลือกนักแสดงมารับบทของเรื่องนี้มาก ทุกคนเล่นเหมือนเป็นคนนั้นจริง รองจากพระเอกนางเอก ชอบคุณนิรุตติ์ ศิริจรรยา แม่ของอังศุมาลิน หมอทาเคดะ และตาบัวกับตาผล ที่ไม่ชอบคือยายเมี้ยน เพราะเล่นไม่สมจริง เว่อร์เกินไป บี้กับหนูนาเข้าถึงบทมากจนมีคนชมและชื่นชอบมากมาย ดูจากกระทู้จำนวนมหาศาลในสื่อออนไลน์ มันเป็นการแสดงที่ยากมาก เพราะ1) เป็นละครย้อนยุค ซึ่งบี้และหนูนาไม่มีประสบการณ์กับชีวิตแบบนั้นแน่นอน 2) เป็นตัวละครที่ไม่เหมือนตัวเขาเลย โกโบริ ห่างไกลจากนิสัยบี้มาก อังศุมาลิน ก็ห่างไกลจากหนูนาตัวจริง 3) อาชีพ ของโกโบริก็ห่างไกลจากอาชีพนักร้อง เป็นบทที่เล่นยาก ไหนจะต้องเป็นคนญี่ปุ่น ซึ่งก็ยากอยู่แล้ว ยังต้องเป็นทหาร ก็ยากอีก และยังต้องเป็นทหารในอดีต 70 ปีที่แล้วอีก ยังไม่พอยังต้องเป็นช่วงสงครามอีก อารมณ์ก็มีทั้งความเครียด ความรัก ความรับผิดชอบ ความผิดหวัง ความสุข ความเศร้า ฯลฯ มันซับซ้อนมาก แต่บี้ก็ทำได้ดีมาก โกโบริแสดงโดยบี้จึงเป็นโกโบริที่เป็นฮีโร่ กล้าหาญ แม้ตอนถูกปฏิเสธรัก ก็ยังดูมีศักดิ์ศรี ไม่ใช่โกโบริที่ตกเป็นเหยื่อ ถูกผู้หญิงทรมานเท่าใดก็ไม่เข็ดหลาบทำนองนั้น อย่างไรก็ตามมีบางฉากที่มีการเพิ่มบทให้ฮามากไป มีการหยอดมุก ความจริงก็ดี แต่มันทำให้เสียบุคลิกของโกโบริไปเล็กน้อย ส่วนหนูนา ก็ได้รับคำชมมากมายมหาศาล สมควรแล้วเพราะเธอตีบทแตก ความซับซ้อนของอารมณ์ แสดงออกได้ดีมาก นักแสดงต้องเก่งมากๆ จึงจะเล่นบทนี้ได้ ไม่ใช่เอาแต่เกลียดๆๆๆ หรือดุๆๆๆ แต่มันมีอารมณือื่นแฝงอยู่ หนูนาทำให้เรามองเห็น ผู้หญิงที่มี character มี personality โดดเด่น และที่สำคัญทำให้ผู้ชมเชื่อว่าทำไมทหารญี่ปุ่นที่เพียบพร้อมมาหลงรักผู้หญิงคนนี้ที่ไม่เคยตอบรับรักเขาได้ (อดเปรียบเทียบไม่ได้ ไม่เหมือนกับละครบางเรื่องที่ดูแล้วก็ไม่เข้าใจว่าเขาหลงรักกันได้อย่างไร)
จดหมายถึงคุณบอย เกี่ยวกับ “คู่กรรม”
จขกท.ทราบดีว่าละครเรื่องนี้เร่งรีบเปิดตัว และเร่งถ่ายทำ ด้วยเหตุผลที่เป็นที่เข้าใจได้ และเห็นว่าเป็นการออกผลงานในช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด ถ้ารอให้ช้ากว่านี้ คนอาจจะตอบสนองน้อยกว่านี้เพราะไปซ้ำกับผลงานอื่น
ตอนประกาศเปิดตัวคู่กรรม มึคนจำนวนหนึ่ง รวมทั้งสื่อมวลชนที่พยายามตั้งคำถามในเชิงลบเกี่ยวกับตัวนักแสดง และความยิ่งใหญ่ว่าจะสู้ผลงานที่เป็นที่นิยมอย่างมากในอดีตได้หรือไม่
แต่ข้อกังขาดังกล่าวก็หมดไปเมื่อผลงานเริ่มฉายในทีวี และยิ่งหลายตอน กระแสละครเรื่องนี้ก็ยิ่งแรงมากขึ้นๆ ดังจะเห็นว่ามีคำชมมากมาย รวมกับความคลั่งใคล้ละครเรื่องนี้ ที่ปรากฏในสื่อออนไลน์หลายสำนัก ทำให้เป็นละครที่ฮ็อต และมีโฆษณาถี่มาก ยิ่งตอนจบกระทู้ที่เกี่ยวข้องก็มีมากอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน
ขอแสดงความเห็นในฐานะผู้ชมธรรมดาคนหนึ่ง โดยไม่เปรียบเทียบกับบทประพันธ์ที่เป็นหนังสือหรือเปรียบเทียบกับคู่กรรมเวอร์ชั่นอื่น
โดยภาพรวม คู่กรรมเวอร์ชั่นนี้เป็นละครโทรทัศน์ที่ลงทุนมาก ทั้งในแง่การคิด และการใช้เงิน ภาพที่ออกมาจึงปรากฏเป็นเหตุการณ์ย้อนอดีตที่สมจริงมาก โดยรวมแล้วละครเรื่องนี้สามารถดึงคนดูให้เข้าไปอยู่ในประวัติศาสตร์ช่วงสงครามโลกครั้งที่สองได้ หลักฐานคือมีคนตั้งกระทู้ถามเกี่ยวกับที่ตั้ง บุคคล สงคราม และรายละเอียด ที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก
ขอให้ความเห็นบางประการทีละหัวข้อดังนี้
ฉาก
ที่ตั้งอู่ต่อเรือ เรือนไทย สิ่งก่อสร้าง สิ่งแวดล้อม และข้าวของ (โดยเฉพาะในครัว) ดูสมจริง ทำให้เชื่อว่าเป็นชีวิตความเป็นอยู่ของคนสมัยนั้น การใช้น้ำคลองมาใส่โอ่ง การใช้เตาถ่าน ใช้ครก ใช้หม้อดิน การนอนในมุ้ง ฯลฯ ล้วนทำให้ละครสมจริงมาก ที่สำคัญคือภาพออกมาสวยด้วย มีที่ตินิดหน่อยตรงฉากโกโบริตาย กองไม้ที่ทับถมตัวมันจงใจจัดวางเป็นระเบียบไม่สมจริงเลย
การแต่งกาย และการแต่งหน้า
จะเห็นได้ว่าเสื้อผ้าของตัวละครในเรื่อง ดูสมจริง มีความประณีตและสวยงาม อาจมีจุดเล็กน้อยที่ไม่เหมือนจริง คือการนุ่งผ้าถุง อันที่จริงผู้หญิงภาคกลางจะนุ่งผาถุงยาวกว่าที่อังศุมาลินนุ่ง แต่เพื่อความสวยงามและคล่องตัว ผ้าถุงสั้นหน่อยก็ถือว่ารับได้ การแต่งหน้าของตัวละครโดยทั่วไปดูดี ยกเว้นแต่การทาปากเข้มเกินไปของโกโบริในบางฉาก การแต่งหน้าที่หนาและขาววอกของวนัส และการแต่งหน้าที่ขาวผ่องเกินไปของอังศุมาลินในฉากตอนตื่นนอน ฉากหนีระเบิด ฉากตอนโกโบริตาย การแต่งหน้าตัวละครเป็นจุดอ่อนที่เห็นชัด เพราะขาดความสม่ำเสมอ บ่อยครั้งที่เหตุการณ์ต่อเนื่องกัน แต่หน้าของตัวละครเปลี่ยนไป เช่นอังศุมาลินกำลังร้องไห้น้ำตานองหน้า หน้าตาเศร้าหมอง เลอะเทอะอยู่ดีๆ (ซึ่งสมจริงดีแล้ว) แต่พอพูดต่อ (เข้าใจว่าหยุดแล้วมาถ่ายต่อ) กลายเป็นหน้าตาขาวผ่องสะอาด เหมือนไปงานเลย ทำให้อารมณ์คนดูสะดุดไป ฉากวนัสก็มีจากหน้าตาเลอะเทอะ สักประเดี๋ยวก็กลายเป็นหน้าเรียบขาว รอยแผลหายไป แล้วก็กลับมามีรอยแผลอีก โกโบริก็บ่อยมากที่ปากซีดอยู่ดีๆ หันมาอีกทีปากแดงเลย ต่อไปนี้ขอให้ระวังเรื่องการแต่งหน้า โดยเฉพาะอยากให้เลิกทาปากสีแดงให้ตัวละครผู้ชาย ใช้แค่ลิปมันก็พอ
การกำหนดตัวแสดง (casting) และการแสดง
ชอบการเลือกนักแสดงมารับบทของเรื่องนี้มาก ทุกคนเล่นเหมือนเป็นคนนั้นจริง รองจากพระเอกนางเอก ชอบคุณนิรุตติ์ ศิริจรรยา แม่ของอังศุมาลิน หมอทาเคดะ และตาบัวกับตาผล ที่ไม่ชอบคือยายเมี้ยน เพราะเล่นไม่สมจริง เว่อร์เกินไป บี้กับหนูนาเข้าถึงบทมากจนมีคนชมและชื่นชอบมากมาย ดูจากกระทู้จำนวนมหาศาลในสื่อออนไลน์ มันเป็นการแสดงที่ยากมาก เพราะ1) เป็นละครย้อนยุค ซึ่งบี้และหนูนาไม่มีประสบการณ์กับชีวิตแบบนั้นแน่นอน 2) เป็นตัวละครที่ไม่เหมือนตัวเขาเลย โกโบริ ห่างไกลจากนิสัยบี้มาก อังศุมาลิน ก็ห่างไกลจากหนูนาตัวจริง 3) อาชีพ ของโกโบริก็ห่างไกลจากอาชีพนักร้อง เป็นบทที่เล่นยาก ไหนจะต้องเป็นคนญี่ปุ่น ซึ่งก็ยากอยู่แล้ว ยังต้องเป็นทหาร ก็ยากอีก และยังต้องเป็นทหารในอดีต 70 ปีที่แล้วอีก ยังไม่พอยังต้องเป็นช่วงสงครามอีก อารมณ์ก็มีทั้งความเครียด ความรัก ความรับผิดชอบ ความผิดหวัง ความสุข ความเศร้า ฯลฯ มันซับซ้อนมาก แต่บี้ก็ทำได้ดีมาก โกโบริแสดงโดยบี้จึงเป็นโกโบริที่เป็นฮีโร่ กล้าหาญ แม้ตอนถูกปฏิเสธรัก ก็ยังดูมีศักดิ์ศรี ไม่ใช่โกโบริที่ตกเป็นเหยื่อ ถูกผู้หญิงทรมานเท่าใดก็ไม่เข็ดหลาบทำนองนั้น อย่างไรก็ตามมีบางฉากที่มีการเพิ่มบทให้ฮามากไป มีการหยอดมุก ความจริงก็ดี แต่มันทำให้เสียบุคลิกของโกโบริไปเล็กน้อย ส่วนหนูนา ก็ได้รับคำชมมากมายมหาศาล สมควรแล้วเพราะเธอตีบทแตก ความซับซ้อนของอารมณ์ แสดงออกได้ดีมาก นักแสดงต้องเก่งมากๆ จึงจะเล่นบทนี้ได้ ไม่ใช่เอาแต่เกลียดๆๆๆ หรือดุๆๆๆ แต่มันมีอารมณือื่นแฝงอยู่ หนูนาทำให้เรามองเห็น ผู้หญิงที่มี character มี personality โดดเด่น และที่สำคัญทำให้ผู้ชมเชื่อว่าทำไมทหารญี่ปุ่นที่เพียบพร้อมมาหลงรักผู้หญิงคนนี้ที่ไม่เคยตอบรับรักเขาได้ (อดเปรียบเทียบไม่ได้ ไม่เหมือนกับละครบางเรื่องที่ดูแล้วก็ไม่เข้าใจว่าเขาหลงรักกันได้อย่างไร)