[CR] The rock huahin ความรู้สึกแย่ๆที่ไม่อยากให้เกิดกับคนอื่น

The rock huahin ความรู้สึกแย่ๆที่ิไม่อยากให้เกิดกับคนอื่นๆ

สวัสดีค่ะเพื่อนสมาชิกทุกท่าน ความคิดเห็นของเราต่อไปนี้มาจากประสบการณ์ และความรู้สึกส่วนตัวของเราเองซึ่งอาจไม่ตรงกับหลายๆท่าน ถ้ามีใครเห็นต่างก็ยินดีรับฟังทุกๆคอมเมนท์นะคะ
เราอยากแชร์ประสบการณ์ความรู้สึกไม่ดีที่ติดค้างในใจจากวันหยุดยาวที่ผ่านมา และหากว่าท่านที่อ่านโพสต์นี้อยู่ คิดคล้ายๆกับเรา ก็ขอให้ได้เป็นประโยชน์กับท่านในการตัดสินใจเลือกที่พักนะคะ

ขอออกตัวว่าไม่เคยรีวิวใดๆในพันทิพมาก่อน ได้แต่แวะมาเก็บข้อมูลเป็นประจำ โดยเฉพาะห้องบลู 
และเนื่องจากรู้สึกอกหักจากที่พัก จนไม่มีอารมณ์จะถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก รีวิวนี้จึงไม่มีภาพประกอบ คุณอาจหาดูได้เพื่ออรรถรสในการอ่าน ในคลังกระทู้(ซึ่งมีรีวิวthe rock huahin เต็มไปหมด )ก็ขอให้มองรูปด้วยสายตาที่มีวิจารณญาณ ไม่เช่นนั้นอาจเป็นแบบเรา

เล่าย้อนหลังหน่อยว่าโดยปกติแล้ว เราได้ไปหัวหินเฉลี่ยปีละครั้ง และเรากับแฟนจะชอบพักแนว boutique resortเวลาไปทะเล ไม่ชอบโรงแรมใหญ่ เพราะชอบที่ๆเป็นส่วนตัว เก๋ๆ ที่พักที่เคยลองก็มีหลายเกรด หลายราคา คุณภาพและการบริการก็หลากหลายและสมน้ำสมเนื้อ ที่พักที่ราคาไม่เกินสามพันจะมีความเป็นกันเอง และต้องดูแลตัวเองนิดนึง เช่นยกกระเป๋าเองบ้าง ก็เป็นเรื่องธรรมดา และถือว่าเป็นเสน่ห์
  มีที่พักที่หนึ่ง ที่เรากับแฟนประทับใจเป็นพิเศษ ราคาอยู่ที่6000-7000 แล้วแต่season เป็นที่ๆบรรยากาศ และ facilityดีมาก ดีที่สุดคือบริการ (ใครอยากสอบถาม มาหลังไมค์ได้เลยนะคะ) แต่ในเมื่อโอกาสจะได้เที่ยวมีน้อย เราจึงพยายามไม่กลับไปที่เดิมที่เคยพัก เพราะอยากลองที่ใหม่ๆ โดยมาหาดูจากในพันทิพ และครั้งนี้ก็ได้เรื่องค่ะ


เราจองที่พักวันหยุดยาวที่the rock  ที่ๆเรียกตัวเองว่า small luxury boutique resortเป็นห้องexecutive delux ซึ่งอัพเกรดจากdelux ตรงที่ขนาดห้องใหญ่กว่า และมีอ่างอาบน้ำ โดยเลือกจากรีวิวในเวบ  สนนราคาประมาณ7000 บาท 
2 คืน หมื่นกลางๆ ด้วยความเชื่อมั่นศรัทธา ต้องการความทรงจำดีๆ เพราะงานยุ่งมาก ปกติไม่เคยได้หยุดสงกรานต์ สำหรับราคานี้สำหรับหลายๆคนคงเฉยๆ แต่สำหรับเรา อายุยี่สิบกลางๆ เพิ่งทำงานได้สองปี เรียกได้ว่าแกลบจ้า

อกหักตอนที่หนึ่ง : ที่จอดรถ
ดูรูปรีวิว เห็นด้านหน้าโรงแรมมาพอควรแต่ไปดูจริงๆ ถึงกับอึ้ง
โรงแรมเป็นลักษณะ ยาว และแคบ นึกถึงสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวๆแคบๆนะคะ ส่วนแคบนั่นล่ะคือด้านหน้า รถจอดหน้าโรงแรมได้อย่างแน่นประมาณแปดคัน  คือซ้อนกันแถวหน้าสี่คัน แถวหลังสี่คันโดยไม่มีที่บังแดด ไม่ต่างอะไีกับการจอดข้างถนน ส่วนที่เหลือต้องขับเลยไปจอดฝั่งตรงข้ามแล้วข้ามถนนมา ซึ่งลานจอดรถฝั่งตรงข้ามก็ทำไว้ชุ่ยมากคือเป็นพื้นที่โล่ง คล้ายลานจอดรถสาธารณะ มีขยะ ต่างจากสภาพหน้าโรงแรมชัดเจน
ตอนเราขับไปถึง ไม่มีคนเฝ้าที่จอดรถด้านหน้า ต้องเปิดประตูลงไปถามแม่บ้านว่าจอดตรงไหน แม่บ้านก็ชี้บุ้ยใบ้ไปฝั่งตรงข้าม เราต้องเปิดประตูรถ ขนของลงเอง ให้แฟนจอดรถแล้วเดินตามมา

อกหักตอนที่สอง : service mind
รู้สึกได้เลยตั้งแต่ตอนเช็คอินว่าต่างจากที่อื่นๆ ตอนแรกเราเฉยๆ พอเสร็จหมดทุกขั้นตอนพนักงานfront deskบอกว่า เข้าที่พักได้เลยนะคะ. เราบอกว่า เดี๋ยวรอแฟนก่อน จากนั้นเรามานั่งพักตรงโซฟากลาง พอแฟนมา เราก็ยืนคุยกันเรื่องที่จอดรถคุยกันไม่ถึงครึ่ง
นาทีพนักงานตะโกนออกมาจากเคาน์เตอร์ว่า "คุณผู้หญิงคะ เข้าที่พักได้เลยนะคะ มีคนรอขนกระเป๋าด้านนอกค่ะ" แฟนเราชะงัก 
ห้องมี29ห้อง ตรงนั้นก็ไม่ได้มีคนจอแจแต่รีบไล่เราเข้าห้อง เพียงเพราะมีคนรอขนกระเป๋า?

อกหักตอนที่สาม : special requirement
เข้าไปในห้อง ปรากฎว่าได้เตียง twin โดยที่ตอนจองเราพิมพ์บอกไปว่าขอdouble bed
ลองเดินกลับไปถามฟร้อนท์ว่าทำไมได้ twin มีห้องอื่นหรือเปล่า พนง.บอกว่าเราไม่ได้ระบุ ว่าเอาdouble bed และไม่มีห้องว่าง ดังนั้นให้เลื่อนสองเตียงเล็กเข้าหากันจะได้เตียงใหญ่
(คนจองคือเรา เราแน่ใจว่าระบุแน่นอนค่ะ) โอเค เรื่องเตียงเรื่องเล็ก เราเลยหยวนๆไป แต่ที่ติดใจคือพนักงานบอกว่าเรา"ไม่ได้บอกเองว่าจะเอาเตียงแบบไหน"เรานึกไม่ถึงว่าจะได้รับคำตอบที่เป็นไปในทางโยนความผิดแบบนี้ค่ะ

อกหักตอนที่สี่ : seaview by telescope
ตอนเช็คอินเราคอนเฟิร์มว่า ห้องเราเป็นseaview หรือเปล่า พนง.บอกว่า ระเบียงที่นี่seaview ทุกห้องค่ะ
พอเปิดเข้าไปโอแม่เจ้า ลองนึกผังโรงแรมเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าแคบๆนะคะ แต่ละห้อวก็เรียงกันตา ความยาวของโรงแรมเลยค่ะ ห้องที่ติดถนนที่สุดจะเป็นห้องA จากนั้นก็ไล่ไปถึงหาด ยาวไปถึงตัว J หรือK นั่นเลย บางยูนิต มีถึงชั้นสอง หรือสาม สำหรับเราได้ห้อง C3 ( คือ ถัดจากถนนเป็นลำดับที่สามและอยู่ชั้นสามนั่นเอง) ดังนั้น sea viewที่เราเห็นคือ ระเบียงของห้อง D E F G H I....กับทะเลแว๊บ ๆซึ่งต้องดูด้วยกล้อง telescope ถึงจะเห็นชัดๆ แต่ถ้ามองด้วยสายตามนุษย์ปกติ สิ่งที่เห็นคือระเบียงของทุกคน ตั้งแต่ชั้นหนึ่งถึงสาม กับบรรดาเสื้อผ้าที่ตากไว้ตามระเบียง หากตอนกลางคืนคุณจะมาทำซึ้งดูดาวเดือน รับลมกลางคืน ข้างหน้าข้างหลังคุณก็คือเสื้อผ้า ชุดว่ายน้ำบ้านอื่น และแขกท่านอื่นๆที่มาพักในวันเดียวกัน ไม่มีความเป็นส่วนตัวเลยว่างั้น
แฟนหันมาถาม"นี่ ห้องราคาเท่าไหร่นะ? เป็นไปได้ไหมว่าเค้าเอาห้องให้เราผิด"
อกหักตอนที่ห้า :ห้องน้ำเหม็นอะไร?
ทันที ที่ก้าวเข้าห้องส้วม มีกลิ่นไม่ดีมาแตะจมูก เป็นกลิ่นเวลาใช้ห้องน้ำต่อจากคน"กลิ่นแรง"
ซึ่งเราทำงานด้านการแพทย์ บ่องตง ว่ากลิ่น.เอ่อ..ไม่ดีอ่ะค่ะ. ขอข้ามไปเร็วๆ ไม่อยากพูดถึง
หลังจากเอาสายยางฉีด และเอาสบู่ลงชักโครก กลิ่นก็ดีขึ้น

อกหักตอนที่หก :อ่างน้ำเก่าจุงเบย
เป็นธรรมดาสำหรับคนชอบแช่ ที่จะเลือกห้องหรือโรงแรมที่มีอ่างใหญ่ (แน่นอน ไม่งั้นอยู่บ้านแช่อ่างตัวเองไม่ดีกว่าหรอ ถ้าได้อ่างเล็ก ยิ้ม
แสงและเงาของอ่างจริงๆต่างจากรูปในเวบมากนะคะ ก้นอ่าง ตรงช่วงใกล้ๆท่อระบายน้ำ เป็นรอยถูกกัดกร่อนจากความเก่าและสารเคมี ให้สยองนิดๆ เดี๋ยวจะมาเล่าเรื่องอ่างอีกทีนะคะ

อกหักตอนที่เจ็ด : สระน้ำเล็กได้ใจ
สระน้ำของที่นี่นั้นอยุ่ริมทะเลเหมือนโรงแรมทั่วๆไป แต่เก๋ที่ขอบสระด้านหนึ่งอยู่ชิดริมขอบหน้าสุดของโรงแรมเลย เราสามารถมานั่งเกาะขอบสระ ดูน้ำทะเล ดูหาดใกล้ๆได้
แต่เทียบดูขนาดสระแล้ว ค่อนข้างเล็กมาก ไม่เหมาะสำหรับว่าย แต่เหมาะกับนั่งแช่เฉยๆ ไม่ใช่สิ่งที่คาดหวังว่าจะได้รับจากราคานี้เลย และน้ำนั้นเหม็น คอนเฟิร์มจากพ่อลูกคู่หนึ่งที่อยู่ในสระตอนเราเกินผ่าน พ่อพูดกับลูกว่า เหม็นกลิ่นน้ำ และเมื่อเราไปลงเอง ก็ได้เห็นว่าไม่ใช่แค่กลิ่น แต่เป็นตะกอนที่ปนในน้ำ เศษผมเศษอะไร จะบอกว่าช่วงลองวีคเอนด์คนพักเยอะ สระจะสกปรกก็คงไม่ใช่ เพราะห้องพักมีแค่ยี่สิบกว่าห้อง ไม่ได้มีเป็นร้อย และเราไปลงน้ำตอนแปดโมงเช้าที่ไม่มีคน แต่สิ่งที่เห็นมันเหมือนกับว่าตอนกลางคืนไม่ได้มีคนมาดูแลสระให้พร้อมสำหรับเช้าวันใหม่เลย และโรงแรมอื่นที่ห้องไม่มากในหัวหินก็สระใหญ่กว่านี้

เดี๋ยวมาต่อนะคะ
ชื่อสินค้า:   The rock hua hin
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่