ราคาทองคำที่ตลาดลอนดอนลดลงทำสถิติต่ำที่สุดในรอบ 2 ปี โดยลดลงไปแตะระดับ 1,385.55 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐฯต่อออนซ์ หรือลดลงถึง 6.3% ที่ตลาดลอนดอน แต่ที่นิวยอร์คลงถึง 9.3% หรือกว่า 139 เหรียญภายในวันเดียว ลดลงรุนแรงที่สุดในรอบ 7 ปี
อุณหภูมิการลงทุนในตลาดทองคำวันจันทร์ที่ 15 เมษายน 2556 ยังคงเต็มไปด้วยการเทขายออกอย่างหนัก ภายหลังราคาทองคำลดลงแรงอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วจนลงมาปิดที่ระดับ 1,500 เหรียญเมื่อวันศุกร์ ซึ่งเมื่อวันศุกร์ลดลงถึง 4% เศษ ที่ตลาดนิวยอร์ค อย่างไรก็ตาม ณ ขณะนี้ ซื้อขายกันที่ตลาดลอนดอน ราคาทองคำส่งมอบทันที ลดลงไปแตะระดับ 1,391 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐฯ(เวลา 11.06 น.ตามเวลาในลอนดอน)และลงไปทำจุดต่ำสุดของวันนี้ที่ระดับ 1,385.55 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐฯต่อออนซ์ หรือเป็นการลดลงถึง 6.2% นับเป็นระดับที่ต่ำที่สุดเท่าที่เคยเห็นนับตั้งแต่เมื่อเดือน มีนาคม 2554
ในขณะที่ราคาทองคำซื้อขายล่วงหน้าส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลงถึง 9.3% ไปแตะที่ระดับ 1,362 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐฯในตลาด Comex ที่นิวยอร์ค เป็นการลดลงถึง 139 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐฯต่อออนซ์ ภายในวันเดียว ลดลงแรงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน พ.ศ.2549
นักลงทุนชี้ว่า ราคาทองคำในวันนี้ รับข่าวประเด็นใหญ่ของเศรษฐกิจจีน เขตเศรษฐกิจอันดับที่สองของโลกรายงานตัวเลขเศรษฐกิจออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ ทำให้วิตกกังวลต่ออัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลก ภายหลังจากที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF ออกมาคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา เติบโตต่ำกว่าที่คาด และวันนี้ นายจอร์จ โซรอส ยังออกมาให้ความเห็นว่า เศรษฐกิจของเยอรมันที่ว่ากันว่า แข็งแกร่งที่สุดในยูโรโซน ก็จะเข้าสู่ภาวะถดถอย ในสิ้นเดือนกันยายนนี้
นอกเหนือจากนั้น ในการเจรจาการช่วยเหลือปัญหาภาระหนี้เร่งด่วน เมื่อวันที่ 9 เมษายนของคณะกรรมการธิการยุโรปได้มีข้อตกลงกับไซปรัส ให้รัฐบาลไซปรัสขายทองคำในทุนสำรองออกมาประมาณ 400 ล้านยูโร(หรือประมาณ 525 ล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐฯ) เพื่อนำเงินมาใช้ ซึ่งในประเด็นนี้สร้างความกระอักกระอ่วนใจให้กับธนาคารกลางของไซปรัสค่อนข้างมาก และออกมาตอบโต้ว่า มันแทบจะเป็นไปไม่ได้ในการที่จะพิจารณาขายทองคำในทุนสำรอง เนื่องจาก ทองคำในทุนสำรองของไซปรัสนั้นมีเหลืออยู่เพียง 13.9 เมตริกตัน มีมูลค่าคิดเป็นเงินประมาณ 622 ล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนหวั่นว่า ในที่สุด รัฐบาลไซปรัสจะขายทองคำเหล่านี้ออกมา ภายหลังจากที่รัฐบาลไซปรัสเดินหน้าขอความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากกองทุนเพื่อให้ความช่วยเหลือของสหภาพยุโรป
ความหวั่นวิตกของนักลงทุนยังมาจาก การถือครองทองคำของกองทุนเพื่อการลงทุนขนาดใหญ่ของโลกรายใหญ่ โดยมีข่าวออกมาว่า กองทุนเพื่อการซื้อขายทองคำ(ETF’S)ลดการถือครองทองคำลงมาอยู่ในระดับที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ต้นปี 2555 เป็นต้นมา
การถือครองทองคำในกองทุนที่ใหญ่ที่สุด อาทิ นิวยอร์ค SPDR โกลด์ ทรัสต์ ลดลงต่อเนื่องอีก2.1 ตัน หรือ 67,710 ออนซ์ (ตามข้อมูลเมื่อวันพฤหัสบดี) ภายหลังจากที่ขายไปแล้วจำนวน 17 ตันเมื่อวันพุธที่ผ่านมา
ปล. ดูๆแล้ว หลายๆปัจจัยรุมเร้าพร้อมๆกัน ส่วนใหญ่ก็ไม่ใช่ปัญหาระยะยาว จะมองว่าเป็นโอกาสก็น่าจะได้ ในเมื่อทุกเห็นแต่ปัญหา
ทองคำหลุดต่ำกว่า$ 1,400 ลดลงถึง$ 139 เหรียญ
อุณหภูมิการลงทุนในตลาดทองคำวันจันทร์ที่ 15 เมษายน 2556 ยังคงเต็มไปด้วยการเทขายออกอย่างหนัก ภายหลังราคาทองคำลดลงแรงอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วจนลงมาปิดที่ระดับ 1,500 เหรียญเมื่อวันศุกร์ ซึ่งเมื่อวันศุกร์ลดลงถึง 4% เศษ ที่ตลาดนิวยอร์ค อย่างไรก็ตาม ณ ขณะนี้ ซื้อขายกันที่ตลาดลอนดอน ราคาทองคำส่งมอบทันที ลดลงไปแตะระดับ 1,391 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐฯ(เวลา 11.06 น.ตามเวลาในลอนดอน)และลงไปทำจุดต่ำสุดของวันนี้ที่ระดับ 1,385.55 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐฯต่อออนซ์ หรือเป็นการลดลงถึง 6.2% นับเป็นระดับที่ต่ำที่สุดเท่าที่เคยเห็นนับตั้งแต่เมื่อเดือน มีนาคม 2554
ในขณะที่ราคาทองคำซื้อขายล่วงหน้าส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลงถึง 9.3% ไปแตะที่ระดับ 1,362 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐฯในตลาด Comex ที่นิวยอร์ค เป็นการลดลงถึง 139 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐฯต่อออนซ์ ภายในวันเดียว ลดลงแรงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน พ.ศ.2549
นักลงทุนชี้ว่า ราคาทองคำในวันนี้ รับข่าวประเด็นใหญ่ของเศรษฐกิจจีน เขตเศรษฐกิจอันดับที่สองของโลกรายงานตัวเลขเศรษฐกิจออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ ทำให้วิตกกังวลต่ออัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลก ภายหลังจากที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF ออกมาคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา เติบโตต่ำกว่าที่คาด และวันนี้ นายจอร์จ โซรอส ยังออกมาให้ความเห็นว่า เศรษฐกิจของเยอรมันที่ว่ากันว่า แข็งแกร่งที่สุดในยูโรโซน ก็จะเข้าสู่ภาวะถดถอย ในสิ้นเดือนกันยายนนี้
นอกเหนือจากนั้น ในการเจรจาการช่วยเหลือปัญหาภาระหนี้เร่งด่วน เมื่อวันที่ 9 เมษายนของคณะกรรมการธิการยุโรปได้มีข้อตกลงกับไซปรัส ให้รัฐบาลไซปรัสขายทองคำในทุนสำรองออกมาประมาณ 400 ล้านยูโร(หรือประมาณ 525 ล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐฯ) เพื่อนำเงินมาใช้ ซึ่งในประเด็นนี้สร้างความกระอักกระอ่วนใจให้กับธนาคารกลางของไซปรัสค่อนข้างมาก และออกมาตอบโต้ว่า มันแทบจะเป็นไปไม่ได้ในการที่จะพิจารณาขายทองคำในทุนสำรอง เนื่องจาก ทองคำในทุนสำรองของไซปรัสนั้นมีเหลืออยู่เพียง 13.9 เมตริกตัน มีมูลค่าคิดเป็นเงินประมาณ 622 ล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนหวั่นว่า ในที่สุด รัฐบาลไซปรัสจะขายทองคำเหล่านี้ออกมา ภายหลังจากที่รัฐบาลไซปรัสเดินหน้าขอความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากกองทุนเพื่อให้ความช่วยเหลือของสหภาพยุโรป
ความหวั่นวิตกของนักลงทุนยังมาจาก การถือครองทองคำของกองทุนเพื่อการลงทุนขนาดใหญ่ของโลกรายใหญ่ โดยมีข่าวออกมาว่า กองทุนเพื่อการซื้อขายทองคำ(ETF’S)ลดการถือครองทองคำลงมาอยู่ในระดับที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ต้นปี 2555 เป็นต้นมา
การถือครองทองคำในกองทุนที่ใหญ่ที่สุด อาทิ นิวยอร์ค SPDR โกลด์ ทรัสต์ ลดลงต่อเนื่องอีก2.1 ตัน หรือ 67,710 ออนซ์ (ตามข้อมูลเมื่อวันพฤหัสบดี) ภายหลังจากที่ขายไปแล้วจำนวน 17 ตันเมื่อวันพุธที่ผ่านมา
ปล. ดูๆแล้ว หลายๆปัจจัยรุมเร้าพร้อมๆกัน ส่วนใหญ่ก็ไม่ใช่ปัญหาระยะยาว จะมองว่าเป็นโอกาสก็น่าจะได้ ในเมื่อทุกเห็นแต่ปัญหา