[ขอความกรุณาอ่านด้วยครับ] สิ่งที่ทุกฝ่ายควรทำถ้าหากมีการลอกข้อมูลบัตร ATM แล้วโดนนำไปใช้

ขอยุ่งอีกสักครั้งเถอะ ขอบอกก่อนว่าผมคือ “สารานุกรมกัลโช่” ของห้องศุภชลาศัย ซึ่งเป็นที่รู้กับอยู่ว่าเป็นคนละเอียด และข้อมูลแน่นปึกเวลาเกิดเรื่องความขัดแย้งขึ้น ผมจะมาเป็นอธิบายให้ทุกอย่างกระจ่าง

เข้าเรื่องผมมีความรู้เรื่องเกี่ยวกับคดีระหว่างประเทศดี เพราะผมศึกษาจากคดีต่างๆที่เกิดขึ้นในวงการฟุตบอลอิตาลีซึ่งเกี่ยวข้องกับตำรวจสากลโดยตรง  ซึ่งเขาอธิบายทั้งวิธีการกระทำผิด วิธีการสืบสวน และวิธีการจับกุมอย่างละเอียด

ผมไม่ใช่แฮคเกอร์ เพราะผมไม่จำเป็นต้องแฮคข้อมูลใครหรอก แค่อ่านข้อมูลในเว็บ INTERPOL และอ่านข่าวอาญชญากรรมในประเทศต่างๆก็สืบได้แล้ว

อย่างแรกมาดูดันก่อนว่าใครในกรณีนี้ควรทำอย่างไร โดยยึดกันแบบสากล

เริ่มจากการอ่านข่าวนี้
http://www.bangkokpost.co.th/news/crimes/343724/foreign-gang-used-fake-atm-cards-to-steal-from-foreign-bank-accounts

เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2556 ที่ผ่านมาท่านพลตำรวจตรี พิสิษฐ์ เปาอินทร์ ได้แถลงจับกุมแกงค์ปลอมบัตร ATM แล้วนำไปถอนเงิน ด้วยความรวมมือจากธนาคาร SCB ที่คอยให้ข้อมูล
คนร้ายนั้นจะได้รับส่วนแบ่ง 10% จากเงินที่ถอนมาได้ โดยเงินที่ได้ต้องนำไปให้ชาวอินเดียที่ชื่อ “อโศก”

1. ผู้เสียหาย
จากข่าวหน่วยงานที่รับผิดชอบในคดีนี้ คือ กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาญชญากรรมทางเทคโนโลยี
ตั้งอยู่ที่
ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรรษา อาคาร B ชั้น 4 ถ.แจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร 10210

ลิงค์
http://www.tcsd.in.th/index.php

ถ้าหากท่านยื่นเรื่องไปแล้วไม่รับ ก็เอาข่าวนี้ให้คนรับเรื่องดูไปเลย ถ้าปฏิเสธที่จะรับเรื่องผมก็ไม่รู้จะพูดอะไรกับตำรวจไทยแล้ว

2 . ธนาคารกสิกรไทย
ถ้าทางธนาคารเข้ามาอ่านคุณ (ธนาคารกสิกร) มีหน้าที่ที่ต้องส่งข้อมูลให้ “กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาญชญากรรมทางเทคโนโลยี”  ไม่ว่าเงินนั้นจะถูกถอนไป ณ ตู้ธนาคารไหนก็ตาม และคุณต้องประสานกับธนาคารอื่นเพื่อระบุว่าตู้ปลายทางอยู่ที่ไหน

ในกรณีนี้คุณก็เห็นแล้วว่า “ธนาคาร SCB” ได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่จนจับตัวคนร้ายได้ แล้วทำไมทางธนาคารคุณจะทำไม่ได้บ้าง

3. กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาญชญากรรมทางเทคโนโลยี
คดีนี้การจับตัวคนร้ายที่แท้จริงคงลำบากถ้าหากทางเจ้าหน้าที่ไม่ร่วมมือกับทาง “ตำรวจสากล” คนร้ายที่ทางคุณจับได้ล่าสุดมันเป็นแค่ตัวเล็กๆ ตัวการใหญ่ยังคงลอยนวลอยู่ในมาเลเซียเลย
หลังจากที่พวกคุณจับได้เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2556 สัปดาห์ต่อมาวันที่ 10 เมษายน 2556 กลุ่มคนร้ายก็ก่อเหตุรูปแบบเดิมอีก

นี้คือเบอร์โทรติดต่อ “ตำรวจสากลมาเลเซีย”



ผมเมล์ข้อมูลส่งไปแล้วเวลา 06.32 น. ในวันจันทร์ที่ 15 เมษายน 2556 ของประเทศมาเลเซีย
ชื่อเรื่อง : Malaysians crossed frontier to make fake ATM crime in Thailand.
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  ธนาคาร คุ้มครองผู้บริโภค
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่