ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ท.ไพฑูรย์ ชูชัยยะ ผู้บัญชาการศูนย์ปฎิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.), พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.), นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา, นายประมุข ลมุน ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี และคณะข้าราชการตำรวจ เดินทางเข้ากราบนมัสการพระธรรมสิทธิมงคล เจ้าอาวาสวัดเมืองยะลา พร้อมร่วมสรงน้ำพระธรรมสิทธิมงคล ถวายจตุปัจจัยไทยธรรม เนื่องในวันสงกรานต์ และร่วมรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ ในเขตเทศบาลนครยะลา และผู้สูงอายุ จากบ้านทักษิณยะลา จำนวน 20 ท่าน เพื่อขอพร และเพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิตครอบครัว รวมทั้งเป็นการสืบสานประเพณีวัฒนธรรมปีใหม่ไทย
โดยภายหลังเสร็จสิ้นกิจกรรมรดน้ำดำหัว คณะรองนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางเข้าร่วมประชุมกับ พ.ต.อ.ทวี และผู้เกี่ยวข้อง ที่ ศอ.บ.ต. ทั้งนี้ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.ต.ท.ไพฑูรย์ เผยถึงกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม ลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ร.ต.อ.เฉลิม ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนประสานการทำงานร่วมกัน และเพิ่มความระมัดระวังในการทำหน้าที่ รวมทั้งงานด้านมวลชน ก็ขอให้พยายามเข้าถึงประชาชนในพื้นที่
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.ไพฑูรย์ ย้ำว่า ร.ต.อ.เฉลิม ไม่ได้วิตกกังวลสถานการณ์ในพื้นที่ เพราะเชื่อว่า ทหารและตำรวจที่ปฏิงานอยู่นั้น เข้าใจสถานการณ์เป็นอย่างดีว่า การที่รัฐเจรจากับกลุ่ม BRN เป็นคนละส่วนกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะต้องเพิ่มความระมัดระวัง และลดการสูญเสียให้ได้ ซึ่งคาดว่าในวันนี้ ร.ต.อ.เฉลิม จะเดินทางไปพูดคุยกับผู้นำศาสนาในพื้นที่ด้วย
ขณะเดียวกัน "บางกอก ทูเดย์" ได้นำเสนอเรื่องราวสกู๊ปของ ชีวิตเด็กนราธิวาส “เป้ – ธนชัย” กับความทรงจำในยามที่ "ไฟใต้รุนแรง" เพื่อเป็นอุทาหรณ์สำหรับสถานการณ์ความรุนแรงในช่วงนี้
ทั้งนี้ ความร้อนแรงของเหตุการณ์ 3 จังหวัดชายแดนใต้ นับตั้งแต่หลังปี 2547 เครือข่ายกลุ่มก่อการแบ่งแยกดินแดน/กลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่เพาะเชื้อความรุนแรง แพร่กระจายไปจนครอบคลุมเกือบทั่วทุกถิ่นย่านในพื้นที่ชายแดนใต้
สังคมชายแดนใต้เปลี่ยนสภาพไป จากสังคมที่เคยอยู่ร่วมกันด้วยดีต่างศาสนา/ต่างวัฒนธรรม กลายเป็นสนามรบ/สนามล่าสังหาร/เป็นสังคมมิคสัญญีที่ต่อสู้กันจนเสียชีวิตล้มตายมากมายทั้งฝ่ายรัฐและฝ่ายตรงข้าม ความสันติสุขสงบเหือดหายไปไม่กลับมาจนทุกวันนี้
ผลกระทบจากเหตุการณ์ไฟใต้นั้นสร้างความเดือดร้อนไปทั่วประเทศ โดยเฉพาะกับคนที่อยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ เหมือนกับเด็กหนุ่มจาก ต.ลาโละ อ.รือเสาะ จ. นราธิวาส เป้ – ธนชัย เมธีสุรพันธ์ ชีวิตที่เคยมีแต่ความอบอุ่น มีครอบครัวที่มีความสุขอยู่กันพร้อมหน้า บิดายึดอาชีพรับส่งเด็กนักเรียน ส่วนมารดากับคุณยายเปิดร้านขายของที่อ.รือเสาะ จ. นราธิวาส
เป้ – ธนชัย เล่าเหตุการณ์ย้อนหลังที่โหดร้ายว่า สำหรับเหตุการณ์ความรุนแรงครั้งนั้นตนจำได้อย่างไม่มีวันลืมเลือนเพราะอดีตมันช่างเจ็บปวดกับชีวิตของเด็กใต้คนหนึ่งมากๆ เมื่อก่อนนี้ตนร้องไห้ทุกวัน เพราะชีวิตช่วงนั้นสุดๆ แล้ว ตนยังเรียนอยู่แค่ชั้นมัธยมปีที่ 6 แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ซึ่งทำให้ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ
“ตอนนั้นเหตุการณ์เกิดขึ้นวันที่ 4 สิงหาคม 2548 พ่อเป้กำลังทำงานเหมือนเช่นทุกวัน แต่แล้วเหตุการณ์ความรุนแรงก็เกิดขึ้น พ่อเป้โดนโจรใต้ยิงเสียชีวิตในขณะที่ขับรถกำลังจะถึงบ้านอยู่แล้ว ซึ่งตอนนั้นเป้แย่มาก แต่ยังดีที่มีครอบครัวคนอื่นๆ”
เหตุการณ์ที่เล่ามาก็โหดร้ายพอแล้ว แต่ยังไม่จบแค่นั้น เป้ เล่าว่า “อีก 3 ปีต่อมา ในขณะที่ครอบครัวกำลังทำใจกับการสูญเสียคุณพ่อได้ แต่แล้ววันที่ 2 พฤศจิกายน 2551 เป้กำลังคุยโทรศัพท์กับคุณแม่ที่กำลังทำงาน ปักผ้าจากศูนย์ศิลปาชีพฯ แต่จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงปืน ตอนนั้นแม่โดนยิงบาดเจ็บสาหัส ส่วนยายก็โดนยิงเช่นกัน แต่โชคร้ายคุณยายเสียชีวิตทันที ส่วนคุณแม่ยังโชคดีที่แพทย์ช่วยชีวิตไว้ได้ทัน”
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดถือว่ารุนแรงเกินคำบรรยาย จนทำให้ เป้ – ธนชัย ต้องออกจากบ้านเกิดเมืองนอนย้ายมาอยู่ที่นครปฐม และมาศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ซึ่งต้องทำงานช่วยเหลือตนเอง เช่น ถักตุ๊กตา ปลูกเห็ด เลี้ยงหมู ทำเทียนหอม และก็ขายครีมเครื่องสำอาง ซึ่งชีวิตที่เคยสุขสบายกลับต้องมาลำบาก แต่เป้ก็ไม่ยอมแพ้เพราะมีมารดาที่ต้องดูแล
สุดท้าย เป้ ฝากบอกกับผู้ก่อความไม่สงบว่า “อยากให้หยุดกระทำได้แล้ว เพราะสิ่งที่ทำไป มันกระทบกับชีวิตผู้บริสุทธิ์มากมายเหลือเกิน” หากต้องการติดต่อสัมภาษณ์เพิ่มเติม เป้ – ธนชัย เมธีสุรพันธ์ สามารถแอดไลน์ไปได้ที่ ไอดีไลน์ : pepercut
หมายเหตุ : เนื่องจากมีการแก้ไขข้อมูล ท่านสามารถติดตามอ่านเต็มๆ ในหนังสือพิมพ์บางกอกทูเดย์ ฉบับวันอังคารที่ 16 เมษายน 2556 นี้
ติดตามอ่านต่อที่ ลิ้งนี้
http://www.bangkok-today.com/node/15219
"เฉลิม" นำตำรวจ-ทหาร ลงพื้นที่ยะลา พร้อมรดน้ำขอพรพระชั้นผู้ใหญ่
โดยภายหลังเสร็จสิ้นกิจกรรมรดน้ำดำหัว คณะรองนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางเข้าร่วมประชุมกับ พ.ต.อ.ทวี และผู้เกี่ยวข้อง ที่ ศอ.บ.ต. ทั้งนี้ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.ต.ท.ไพฑูรย์ เผยถึงกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม ลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ร.ต.อ.เฉลิม ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนประสานการทำงานร่วมกัน และเพิ่มความระมัดระวังในการทำหน้าที่ รวมทั้งงานด้านมวลชน ก็ขอให้พยายามเข้าถึงประชาชนในพื้นที่
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.ไพฑูรย์ ย้ำว่า ร.ต.อ.เฉลิม ไม่ได้วิตกกังวลสถานการณ์ในพื้นที่ เพราะเชื่อว่า ทหารและตำรวจที่ปฏิงานอยู่นั้น เข้าใจสถานการณ์เป็นอย่างดีว่า การที่รัฐเจรจากับกลุ่ม BRN เป็นคนละส่วนกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะต้องเพิ่มความระมัดระวัง และลดการสูญเสียให้ได้ ซึ่งคาดว่าในวันนี้ ร.ต.อ.เฉลิม จะเดินทางไปพูดคุยกับผู้นำศาสนาในพื้นที่ด้วย
ขณะเดียวกัน "บางกอก ทูเดย์" ได้นำเสนอเรื่องราวสกู๊ปของ ชีวิตเด็กนราธิวาส “เป้ – ธนชัย” กับความทรงจำในยามที่ "ไฟใต้รุนแรง" เพื่อเป็นอุทาหรณ์สำหรับสถานการณ์ความรุนแรงในช่วงนี้
ทั้งนี้ ความร้อนแรงของเหตุการณ์ 3 จังหวัดชายแดนใต้ นับตั้งแต่หลังปี 2547 เครือข่ายกลุ่มก่อการแบ่งแยกดินแดน/กลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่เพาะเชื้อความรุนแรง แพร่กระจายไปจนครอบคลุมเกือบทั่วทุกถิ่นย่านในพื้นที่ชายแดนใต้
สังคมชายแดนใต้เปลี่ยนสภาพไป จากสังคมที่เคยอยู่ร่วมกันด้วยดีต่างศาสนา/ต่างวัฒนธรรม กลายเป็นสนามรบ/สนามล่าสังหาร/เป็นสังคมมิคสัญญีที่ต่อสู้กันจนเสียชีวิตล้มตายมากมายทั้งฝ่ายรัฐและฝ่ายตรงข้าม ความสันติสุขสงบเหือดหายไปไม่กลับมาจนทุกวันนี้
ผลกระทบจากเหตุการณ์ไฟใต้นั้นสร้างความเดือดร้อนไปทั่วประเทศ โดยเฉพาะกับคนที่อยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ เหมือนกับเด็กหนุ่มจาก ต.ลาโละ อ.รือเสาะ จ. นราธิวาส เป้ – ธนชัย เมธีสุรพันธ์ ชีวิตที่เคยมีแต่ความอบอุ่น มีครอบครัวที่มีความสุขอยู่กันพร้อมหน้า บิดายึดอาชีพรับส่งเด็กนักเรียน ส่วนมารดากับคุณยายเปิดร้านขายของที่อ.รือเสาะ จ. นราธิวาส
เป้ – ธนชัย เล่าเหตุการณ์ย้อนหลังที่โหดร้ายว่า สำหรับเหตุการณ์ความรุนแรงครั้งนั้นตนจำได้อย่างไม่มีวันลืมเลือนเพราะอดีตมันช่างเจ็บปวดกับชีวิตของเด็กใต้คนหนึ่งมากๆ เมื่อก่อนนี้ตนร้องไห้ทุกวัน เพราะชีวิตช่วงนั้นสุดๆ แล้ว ตนยังเรียนอยู่แค่ชั้นมัธยมปีที่ 6 แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ซึ่งทำให้ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ
“ตอนนั้นเหตุการณ์เกิดขึ้นวันที่ 4 สิงหาคม 2548 พ่อเป้กำลังทำงานเหมือนเช่นทุกวัน แต่แล้วเหตุการณ์ความรุนแรงก็เกิดขึ้น พ่อเป้โดนโจรใต้ยิงเสียชีวิตในขณะที่ขับรถกำลังจะถึงบ้านอยู่แล้ว ซึ่งตอนนั้นเป้แย่มาก แต่ยังดีที่มีครอบครัวคนอื่นๆ”
เหตุการณ์ที่เล่ามาก็โหดร้ายพอแล้ว แต่ยังไม่จบแค่นั้น เป้ เล่าว่า “อีก 3 ปีต่อมา ในขณะที่ครอบครัวกำลังทำใจกับการสูญเสียคุณพ่อได้ แต่แล้ววันที่ 2 พฤศจิกายน 2551 เป้กำลังคุยโทรศัพท์กับคุณแม่ที่กำลังทำงาน ปักผ้าจากศูนย์ศิลปาชีพฯ แต่จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงปืน ตอนนั้นแม่โดนยิงบาดเจ็บสาหัส ส่วนยายก็โดนยิงเช่นกัน แต่โชคร้ายคุณยายเสียชีวิตทันที ส่วนคุณแม่ยังโชคดีที่แพทย์ช่วยชีวิตไว้ได้ทัน”
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดถือว่ารุนแรงเกินคำบรรยาย จนทำให้ เป้ – ธนชัย ต้องออกจากบ้านเกิดเมืองนอนย้ายมาอยู่ที่นครปฐม และมาศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ซึ่งต้องทำงานช่วยเหลือตนเอง เช่น ถักตุ๊กตา ปลูกเห็ด เลี้ยงหมู ทำเทียนหอม และก็ขายครีมเครื่องสำอาง ซึ่งชีวิตที่เคยสุขสบายกลับต้องมาลำบาก แต่เป้ก็ไม่ยอมแพ้เพราะมีมารดาที่ต้องดูแล
สุดท้าย เป้ ฝากบอกกับผู้ก่อความไม่สงบว่า “อยากให้หยุดกระทำได้แล้ว เพราะสิ่งที่ทำไป มันกระทบกับชีวิตผู้บริสุทธิ์มากมายเหลือเกิน” หากต้องการติดต่อสัมภาษณ์เพิ่มเติม เป้ – ธนชัย เมธีสุรพันธ์ สามารถแอดไลน์ไปได้ที่ ไอดีไลน์ : pepercut
หมายเหตุ : เนื่องจากมีการแก้ไขข้อมูล ท่านสามารถติดตามอ่านเต็มๆ ในหนังสือพิมพ์บางกอกทูเดย์ ฉบับวันอังคารที่ 16 เมษายน 2556 นี้
ติดตามอ่านต่อที่ ลิ้งนี้ http://www.bangkok-today.com/node/15219