เบื้องหลังหารือ รถไฟ ไทย - จีน by Korbsak Sabhavasu

กระทู้สนทนา
เบื้องหลังหารือ รถไฟ ไทย - จีน by Korbsak Sabhavasu  on Tuesday, 26 March 2013 at 10:19

จาก http://www.facebook.com/notes/korbsak-sabhavasu/%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD-%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B9%84%E0%B8%9F-%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2-%E0%B8%88%E0%B8%B5%E0%B8%99/516322418409045


ช่วงที่ผมทำหน้าที่รองนายกรัฐมนตรีสมัยรัฐบาลนายกฯอภิสิทธิ์  ท่านนายกฯได้แต่งตั้งให้ผมเป็นประธานคณะกรรมการความร่วมมือ ไทย - จีน  ต่อมาเมื่อผมได้ลาออกเพื่อมาช่วยงานในฐานะเลขาธิการนายกรัฐมนตรี  คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีในขณะนั้นได้เข้าทำหน้าที่เป็นประธานคณะกรรมการชุดนี้แทน

ก่อนที่คุณสุเทพจะเดินทางไปจีน  ผมได้เรียนคุณสุเทพให้ทราบประเด็นข่าวว่าจีนได้มีข้อตกลงกับลาวเป็นที่เรียบร้อยสำหรับโครงการรถไฟเชื่อมต่อระหว่างคุนหมิงกับลาว  คุณสุเทพเห็นว่าเราน่าจะได้ลองหารือกับจีนถึงความเป็นไปได้ที่จะได้มีการต่อเส้นทางจากประเทศลาว  ข้ามแม่น้ำโขงที่หนองคาย ผ่านมาอุดร  ขอนแก่น โคราช ถึงกรุงเทพ  และต่อยาวลงไปสุดใต้ชนเขตแดนไทย - มาเลเซีย

คุณสุเทพได้นำผลการหารือกับฝ่ายจีนรายงานในครม.  สำหรับประเด็นรถไฟเส้นจากคุนหมิง  รัฐบาลจีนสนใจที่จะร่วมทุนกับรัฐบาลไทยและพร้อมที่จะส่งตัวแทนเข้าหารือทันทีที่ฝ่ายไทยพร้อม   ครม.รับทราบและได้มอบหมายให้ผมเป็นประธานคณะทำงานเพื่อหารือกับคณะของจีนทันที

รัฐบาลจีนส่งตัวแทนระดับอธิบดีที่ดูแลเรื่องรถไฟโดยเฉพาะเป็นหัวหน้าคณะในการหารือ  ก่อนที่จะหารือกับคณะฝ่ายไทย  คณะทำงานของจีนและเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้ใช้เวลาสองวันเดินทางโดยรถไฟจากกรุงเทพไปจังหวัดหนองคาย  และได้ไปดูสถานที่ที่อาจเป็นจุดที่จะสร้างสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำโขง เชื่อมไทย -ลาวด้วย แสดงให้เห็นถึงความจริงจังที่อยากจะให้โครงการนี้ไม่เป็นเพียงแค่ความฝัน

ใช้เวลา 3 วันในการหารือ  ความเห็นที่ตรงกันและเชื่อว่าทั้งสองฝ่ายจะได้ประโยชน์  เป็น วิน วิน  อยู่ในกรอบนี้ครับ

ควรตั้งบริษัทร่วมทุนระหว่าง ไทย - จีน ขึ้นเพื่อดำเนินการโครงการนี้  เป็นการร่วมมืออย่างถาวร  ไทยต้องเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่  ตอนนั้นผมเสนอไว้ที่ 60 /40 ( ต่อมามีการเจรจากลายเป็น 51 / 49 )
บริษัทนี้จะเป็นผู้ดำเนินโครงการทั้งหมด ทุนจัดทะเบียนต้องเพียงพอที่จะสามารถขอเงินกู้ได้ การกู้เงินและใช้หนี้เป็นภาระของบริษัทร่วมทุน  รัฐบาลไทยไม่ต้องแบกภาระเงินกู้ (คุยนอกรอบว่าถ้ารัฐบาลจีนให้เงินกู้บริษัทฯนี้ในอัตราดอกเบี้ย  2% โครงการนี้วิ่งฉิวแน่นอน )
บริษัทร่วมทุนนี้ต้องมีสภาพเป็นรัฐวิสาหกิจ  ได้สัญญาสัมปทาน เช่าเส้นทาง ( คู่ขนานกับเส้นเดิมของรถไฟไทย ) และการดำเนินกิจการรถไฟกับการถไฟแห่งประเทศไทย  
ระบบของการเดินรถจะเป็นเทคนิคของจีนทั้งหมด  เพราะเป้าหมายคืออนุญาติให้รถไฟจีนขนนักท่องเที่ยวจากคุนหมิงมาไทย ผ่านไปมาเลเซีย โดยไม่ต้องเปลี่ยนขบวน ขบวนรถไฟจากจีนใช้ระบบรางของไทยได้  ส่วนรถไฟจากไทยก็สามารถวิ่งไปคุนหมิงได้เช่นเดียวกัน
ในเบื้องต้นคาดว่าจะใช้เงิน 180,000 ล้านบาทสำหรับเส้นทางหนองคาย - กทม  ทุนจดทะเบียนเบื้องต้น 9 หมื่นล้านบาทก็เพียงพอ  รัฐบาลไทยควักกระเป๋า 51 % ของ 90,000 ล้าน  ประมาณ 4.6 หมื่นล้านบาท  ใช้เงินงบประมาณปีละ 1-2 หมื่นล้านได้อย่างสบายๆ

ที่มองต่างกันคือ รัฐบาลจีนต้องการเริ่มเส้นทางเดียวก่อนคือ  หนองคาย - กทม.  ซึ่งจะใช้เวลาอย่างน้อย 5 -6 ปีกว่าจะแล้วเสร็จ  และทำจุดเชื่อมใหญ่ที่สถานีบางซื่อ ( เชื่อมต่อระหว่างระบบ meter gauge ของไทยกับระบบ standard gauge ของบริษัทฯร่วมไทย-จีน ) หลังจากนั้นจึงจะดำเนินการต่อสำหรับเส้นทาง กทม - ชายแดนใต้ ซึ่งต้องใช้เวลาอย่างน้อยอีก 6 - 7 ปี

ฝ่ายการเมืองไทยอยากให้ข้อตกลงไทย-จีนให้มีแผนครบทุกเส้นทางสำหรับไปทุกภาค  ซึ่งฝ่ายจีนตอบตกลง ( บอกผมว่าเป็นไปได้ยาก  จำนวนผู้โดยสารในประเทศรวมแม้นักท่องเที่ยวบางส่วนก็จะยังไม่เพียงพอ )

มีประเด็นเรื่องความเร็วของรถไฟด้วยว่าจะออกแบบให้เร็ว   " 150 กมต่อชม.  สำหรับรถโดยสาร "  


               และ ประมาณ  "80 - 100 กม.ต่อชม. สำหรับขนส่งสินค้า"   จึงไม่ใช่ระบบหัวจรวดความเร็วสูงของแท้อย่างที่เข้าใจ

ฝ่ายจีนบอกความเร็วสูงแบบหัวจรวดไม่คุ้มค่าเพราะค่าก่อสร้างระบบรางจะแพงกว่าระบบความเร็วปกติถึงเกือบเท่าตัว  ท่านยังแซวผมว่า  รถไฟระบบใหม่นี้อาจไม่เร็วมากแต่ก็จะเร็วกว่าระบบที่ไทยมีอยู่เกือบเท่าตัว

หลังจากนั้นรัฐบาลเสนอรัฐสภาขออนุมัติในหลักการเพื่อเริ่มเจรจาอย่างเป็นทางการกับรัฐบาลจีน รัฐสภาให้ความเห็นชอบ กระทรวงคมนาคมรับเดินหน้าต่อ  ไปไม่ได้ไกลก็มีการยุบสภา  โครงการนี้พับไปโดยปริยาย  



-----------------------------------------------------------------------------
หลังจากอ่านข้อความของคุณกอปรศักดิ์ แล้ว  ผมมีความเห็นดังนี้

จากที่ผมติดตามข่าวการพัฒนาระบบรถไฟในประเทศจีนมาบ้าง ทำให้ทราบว่า

- รถไฟความเร็วเกิน 200 กม./ชม จึงจะนับเป็นรถไฟความเร็วสูงของจีน  ถ้าน้อยกว่านั้น จีนนับเป็นรถไฟความเร็วต่ำ

- ตลอดระยะเวลาที่ติดตามข่าว เรื่องที่จีนจะสร้างทางรถไฟผ่านลาว มาไทย  ไม่เคยมีครั้งใดที่ทางการจีนบอกว่า

  จะสร้างเป็นรถไฟความเร็วสูง  บอกแต่เพียงว่า จะสร้างรางรถไฟขนาดมาตรฐาน ( 1.435) เมตร เท่านั้น

   แต่รัฐบาลที่ผ่านมา มักจะอ้างว่า จีนจะร่วมลงทุนกับไทยทำรถไฟความเร็วสูง
  
   เหมือนหนังคนละม้วน  คนละเรื่อง

   เพราะจีนต้องการสร้างแค่รางรถไฟ ขนาด 1.435 เมคร เพื่อให้ใช้ได้กับขบวนรถไฟส่วนใหญ่ของจีนได้ เท่านั้น
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่