คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 7
เจ้ากรรมนายเวร หากจะอุปมาให้คนสมัยนี้เข้าใจได้โดยง่ายก็ต้องเทียบเคียงกับ "โจทก์ร่วม" ในคดีอาญา
ในการกระทำผิดอาญานั้น อัยการจะเป็นทนายแผ่นดินคอยนำตัวผู้กระทำผิดมาสั่งฟ้องเพื่อลงโทษตามโทษานุโทษที่บ้านเมืองกำหนด....แต่หากผู้เสียหายติดใจที่จะดำเนินคดีด้วยก็สามารถเข้าเป็น "โจทก์ร่วม" กับอัยการได้....คอยตามลงโทษผู้กระทำผิดจนกว่าจะได้รับโทษเต็มตามโทษานุโทษที่กฎหมายกำหนด....แต่เมื่อผู้กระทำผิดได้รับโทษเต็มตามที่กฎหมายกำหนดแล้ว อัยการก็ดี โจทก์ร่วมก็ดี ก็ไม่มีสิทธิขอให้ศาลลงโทษผู้กระทำผิดได้อีกต่อไป เพราะได้รับโทษเต็มตามที่กฎหมายกำหนดแล้วจะลงโทษซ้ำไม่ได้
เจ้ากรรมนายเวรก็เช่นกันกับโจทก์ร่วม จะผูกพันจองเวรจองกรรมจนกว่ากรรมอันเป็นมูลประธานจะสิ้นผลลง....เมื่อผู้นั้นได้รับกรรมจนครบถ้วนแล้ว เจ้ากรรมนายเวรก็ไม่ติดใจใดๆ อีกเพราะสาสมใจในความผิดที่ผู้นั้นได้รับการลงโทษแล้ว
แต่กฎหมายกับกฎแห่งกรรมยังต่างกันตรงที่ว่า กฎหมายนั้นมนุษย์เป็นผู้กำหนด เป็นผู้ตัดสิน อาจจะผิดพลาดคลาดเคลื่อนขาดเกินได้ตามวิสัยของมนุษย์ แม้คดีจะถึงที่สุดแล้วแต่โจทก์ร่วมบางคนอาจจะยังติดใจอยู่เพราะเห็นว่าโทษที่ผู้พิพากษากำหนดนั้นมันยังไม่สามสมกับความผิดที่จำเลยได้กระทำ...คือยังแค้นใจอยู่นั้นเอง
แต่กฎแห่งกรรมนั้น มันเป็นกฎแห่งการกระทำ เป็นสัจธรรม และมีความเที่ยงตรงแน่นอนตามกรรมที่คนผู้นั้นได้กระทำไม่มีความผิดพลาดคลาดเคลื่อนในผลของกรรม บุคคลใดทำกรรมใดไว้ย่อมได้รับผลแห่งกรรมนั้นอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย....ดังนั้น เจ้ากรรมนายเวรจึงไม่มีความติดใจใดๆ ในกรรมที่ผู้นั้นได้รับอีก เมื่อไม่ติดใจใดๆ แล้วก็ไม่มีความผูกพันใดๆ ในการที่จะจองเวรจองกรรมต่อกันอีกต่อไป ต่างคนก็ต่างไปผุดไปเกิดตามบุพกรรมของตนต่อไป
อนึ่ง....แม้เจ้ากรรมนายเวรจะ "อโหสิกรรม" และไม่ติดอกติดใจจองเวรจองกรรมกับผู้ที่กระทำผิดต่อตน ก็หาทำให้กรรมที่ผู้นั้นได้กระทำไปเป็นโมฆะไม่....ผู้นั้นก็จักต้องได้รับกรรมตามกฎแห่งกรรมอยู่ดี....เหมือนกับคดีอาญาแผ่นดินที่ผู้เสียหายไม่ติดใจเอาความ แต่อัยการก็ต้องส่งฟ้องให้ศาลลงโทษตามความผิดอยู่ดี
ลองพิจารณาดูครับ
ในการกระทำผิดอาญานั้น อัยการจะเป็นทนายแผ่นดินคอยนำตัวผู้กระทำผิดมาสั่งฟ้องเพื่อลงโทษตามโทษานุโทษที่บ้านเมืองกำหนด....แต่หากผู้เสียหายติดใจที่จะดำเนินคดีด้วยก็สามารถเข้าเป็น "โจทก์ร่วม" กับอัยการได้....คอยตามลงโทษผู้กระทำผิดจนกว่าจะได้รับโทษเต็มตามโทษานุโทษที่กฎหมายกำหนด....แต่เมื่อผู้กระทำผิดได้รับโทษเต็มตามที่กฎหมายกำหนดแล้ว อัยการก็ดี โจทก์ร่วมก็ดี ก็ไม่มีสิทธิขอให้ศาลลงโทษผู้กระทำผิดได้อีกต่อไป เพราะได้รับโทษเต็มตามที่กฎหมายกำหนดแล้วจะลงโทษซ้ำไม่ได้
เจ้ากรรมนายเวรก็เช่นกันกับโจทก์ร่วม จะผูกพันจองเวรจองกรรมจนกว่ากรรมอันเป็นมูลประธานจะสิ้นผลลง....เมื่อผู้นั้นได้รับกรรมจนครบถ้วนแล้ว เจ้ากรรมนายเวรก็ไม่ติดใจใดๆ อีกเพราะสาสมใจในความผิดที่ผู้นั้นได้รับการลงโทษแล้ว
แต่กฎหมายกับกฎแห่งกรรมยังต่างกันตรงที่ว่า กฎหมายนั้นมนุษย์เป็นผู้กำหนด เป็นผู้ตัดสิน อาจจะผิดพลาดคลาดเคลื่อนขาดเกินได้ตามวิสัยของมนุษย์ แม้คดีจะถึงที่สุดแล้วแต่โจทก์ร่วมบางคนอาจจะยังติดใจอยู่เพราะเห็นว่าโทษที่ผู้พิพากษากำหนดนั้นมันยังไม่สามสมกับความผิดที่จำเลยได้กระทำ...คือยังแค้นใจอยู่นั้นเอง
แต่กฎแห่งกรรมนั้น มันเป็นกฎแห่งการกระทำ เป็นสัจธรรม และมีความเที่ยงตรงแน่นอนตามกรรมที่คนผู้นั้นได้กระทำไม่มีความผิดพลาดคลาดเคลื่อนในผลของกรรม บุคคลใดทำกรรมใดไว้ย่อมได้รับผลแห่งกรรมนั้นอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย....ดังนั้น เจ้ากรรมนายเวรจึงไม่มีความติดใจใดๆ ในกรรมที่ผู้นั้นได้รับอีก เมื่อไม่ติดใจใดๆ แล้วก็ไม่มีความผูกพันใดๆ ในการที่จะจองเวรจองกรรมต่อกันอีกต่อไป ต่างคนก็ต่างไปผุดไปเกิดตามบุพกรรมของตนต่อไป
อนึ่ง....แม้เจ้ากรรมนายเวรจะ "อโหสิกรรม" และไม่ติดอกติดใจจองเวรจองกรรมกับผู้ที่กระทำผิดต่อตน ก็หาทำให้กรรมที่ผู้นั้นได้กระทำไปเป็นโมฆะไม่....ผู้นั้นก็จักต้องได้รับกรรมตามกฎแห่งกรรมอยู่ดี....เหมือนกับคดีอาญาแผ่นดินที่ผู้เสียหายไม่ติดใจเอาความ แต่อัยการก็ต้องส่งฟ้องให้ศาลลงโทษตามความผิดอยู่ดี
ลองพิจารณาดูครับ
แสดงความคิดเห็น
กระทู้นี้สำหรับคนที่เชื่อเรื่องเจ้ากรรมนายเวรเท่านั้นค่ะ
เราต้องใช้หนี้เขาไปจนกว่าจะหมด ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจุดที่มันหมดอยู่ตรงไหน แต่ถ้าถึงวันนึงมันหมด แต่เขายังไม่พอใจยังจองเวรกันต่อไป เราก็ต้องโดนจิกหัวไปตลอดเหรอคะ รู้สึกว่ามันไม่แฟร์เท่าไหร่ ขอยกตัวอย่างหนัง เจ้าสีเกด เข้าใจว่าคุณชายทำเจ็บไว้เยอะ แต่มันน่าจะจบตั้งแต่ชาติแรกที่เจ้าสีเกดทำเจ้าสาวฆ่าตัวตาย กับเป็นเหตุให้คุณชายขาพิการ แต่ทำไมถึงยังต้องตามแล้วทำแบบเดิมซ้ำแล้วซ้ำอีก ถ้าคิดตามหลักการเป็นลูกหนี้ ถ้าใช้แล้วก็น่าจะจบกันไม่ควรตามกันอีก
เคยได้ยินมาว่ากรรมเป็นอจิณไตย เจ้ากรรมนายเวรเขาอยู่เหนือหัวเรา แม้แต่เทวดายังช่วยอะไรไม่ได้ เพราะถือว่ากรรมของเราต้องใช้เอง แต่เป็นแบบพระเทวทัตเราว่ามันก็ไม่ไหวนะ ขัดแย้งกันแค่หนเดียวแต่ตามกันไปจนชาติสุดท้าย เหมือนเป็นหนี้สลึงเดียว แต่เรียกร้องให้จ่ายเป็นล้าน มีวิธีที่จะหนีอะไรแบบนี้มั้ยคะ หรือว่ามีนิพพานเพียงอย่างเดียวถึงจะพ้น