อันนี้หรือ ลักษณะวิธีพิจารณาความ ของ ตลก.

ความน่าเห็นใจกับ คุณเรืองไกร คือ “การพยายามใช้มือด้วยความซื่อ จับปลาใหลในน้ำเลน” กับความหวั่นเกรงต่อ ตลก. จาก “การเอาความรู้ความสามารถในวิชาการมาใช้ประโยชน์” เสมือนมหาอำนาจอันยิ่งยง เกินที่สามัญชนจะเทียบเคียงได้ ทำให้ผมใคร่ขอแสดง ข้อสังเกตุส่วนตัวใน รดน. ครับ

คำร้องขอให้พิจารณาวินิจฉัยตาม รธน.๕๐ ม.๖๘ กรณี “การกระทำการร่วมกันใช้สิทธิและเสรีภาพตามรัฐ ธรรมนูญในญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่มีการตัดสิทธิของบุคคลใน การพิทักษ์รัฐธรรมนูญ “ โดย ตลก. พิจารณาแล้วเห็นว่า “ไม่ปรากฎว่ามีการกระทำฝ่าฝืน” หรือต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 วรรคหนึ่ง จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ “สั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย”  

จากคำร้องในกรณี ผู้ร้อง คุณเรืองไกร ก็ได้ให้ข้อมูลเหตุผล ถึงลักษณะ “ร่วมการกระทำ” อันหมายถึงว่า บุคคลที่มีส่วนร่วม ทังทางตรงหรือทางอ้อมเพื่อให้ “การกระทำ” นั้นๆ บังเกิดขึ้นหรือสามารถบังเกิดขึ้นได้ และไม่มีความผูกพันว่าจะต้องสำเหร็จผล หรือกระทำลุล่วง แต่จะขึ้นอยู่กับเจตนารมณ์ อย่างเช่น สมรู้ร่วมคิด เป็นต้นก็ได้ จากการให้เหตุผลในคำร้อง ที่ระบุ “การร่วมการกระทำ” โดยมีส่วนให้การกระทำ ก้าวสู่ความสำเร็จลุล่วง” น่าจะเป็นเหตุผลสมควรตามคำร้อง ที่ยึดหลัก ตามแนวพิจารณาตีความ ของ “วิอาญา” อย่างชัดเจนในตัวอยู่แล้ว ส่วนข้อพิจารณา “ไม่ปรากฎมีการกระทำฝ่าฝีน” เป็นการตีความตามดุลย์พินิจ เพื่อชี้ถึง “จุดร่วมการกระทำ” ที่ยังบังเกิดขึ้น หรือไม่สามารถใช้เป็นเหตุผลถึงการเป็น “ผู้ร่วมกระทำ” ได้นั่งเอง ในเมื่อ วิธีการพิจารณาของ ตลก. ที่ไม่มีข้อจำกัดให้ยึดโยงกับ “วิอาญา” และก็มิใช้การพิจารณาคดีอาญาโดยตรง รวมทั้ง ตลก. เองก็ไม่มี พรบ.วิธีพิจารณาความ เป็นหลัก จึงทำให้ ตลก. ไม่มีขอบกำหนด ถึงการใช้ดุลย์พินิจในการพิจารณา “ตีความ” นั่นเองครับ

เช่นเดียวกัน จากคำร้องในกรณี “การร่วมการกระทำ เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นการตัดสิทธิของบุคคลในการ พิทักษ์รัฐธรรมนูญ รธน. ๕๐ ม. ๖๘” อันเป็นหน้าที่โดยตรง ของ ตลก. ที่จะพิจารณา “ตีความ” ว่า “เป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพ ตาม รธน.๕๐ หมวด ๓” หรือไม่ ในเมื่อ “การแก้ใข รธน. และการยื่นแก้ใข” เป็นการกระทำภายใต้ รธน.๕๐ โดยเฉพาะ ใน ม.๒๙ อันเป็น “เจตนารมณ์ ของ รธน.๕๐” อันไม่น่าจะอยู่ในสิทธิอำนาจผูกพันที่ ตลก. ต้องรับคำร้องไปพิจารณาตีความ การรับคำร้องก็น่าจะ มาจากการใช้ดุลย์พินิจไร้ขอบเขตุ ของ ตลก. เองเพราะไม่มี กรอบผูกพันของ พรบ.วิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ทำให้สามารถ ตีความได้ว่า “คำร้องสามารถรับไว้พิจารณาได้” นั่นเองครับ

จากข้อสังเกตุ แสดงถึง ปัญหาของ การยอมรับสิทธิอำนาจผูกพันกับทุกองค์กร ของ ตลก. โดยยกเว้น ตลก.เอง เนื่องจาก ไม่มีกรอบรองรับ คือ “พรบ.วิธีพิจารณาความของศาลรัฐธรรมนูญ” เสมือนมีกรรมการมวย ที่ไม่มีกฎิกาเป็นข้อกำหนดการพิจารณาช้ขาด แต่โดยให้ใช้ดุลย์พินิจของกรรมการเอง ในขณะนี้ หมายถึงว่าไม่ว่า ตลก. จะพิจารณาตีความอย่างไร ในกรณีใดๆ ก็ตามมีผลผูกพันกับทุกองค์กร ฯลฯ แต่ถ้าจะตรวจสอบ ให้ลึกซึ้งจะเห็นว่า สิทธิอำนาจของ ตลก.มิได้อยู่ในความชอบธรรมโดย มี รธน.๕๐ รองรับ และไม่สามารถเรียกร้องเอาความรับผิดชอบได้ด้วยประการทั้งปวง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไม่มีกฎระเบียบการใช้สิทธิอำนาจ โดย “พรบ.วิธีพิจารณาความของศาลรัฐธรรมนูญ” เสมือนเช่น มีการพิพากษาคดีอาญาที่ไม่มี วิอาญา เป็นกรอบการพิจารณา แต่เป็นที่สมยอมยอมรับ ของ ปชช. ทั้งๆ ที่ไม่เป็นไปตาม บทบัญญัติของ รธน.๕๐ เป็นต้น ฉนั้นตราบใดที่ ปชช. ยังไม่มีโอกาศเข้าไม่ถึงความลึกซึ้งของ ปัญหา ก็คงต้องส่งใจช่วย  คุณเรืองไกร และผู้มีจุดยืนในความยุติธรรม และสลดใจกับความเป็นไปกันต่อไปล๊ะ ครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่