ผมมีเพื่อนอยู่คนหนึ่งเป็นผู้ชาย อายุประมาณ 28 ปกติมักจะชอบอัพเดทชีวิตตัวเองกับครอบครัวเสมอ
เมื่อก่อน ถ้าในอารมณ์ที่เป็นคนดี ก็แสนดีมาก แต่ในบทใจร้อน ก็พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง เอาแต่ใจ
และเลือกมากเรื่องผู้หญิง ชอบคิดมาก พยายามหาคนที่ดีที่สุด แต่ก็หาคำตอบไม่ได้ว่าต้องดีแค่ไหน
หาคนคุยได้เรื่อยๆแต่คบใครทีนึงไม่ก็เคยถึงปี เวลาเฮิทก็เฮิทจริง
แต่เฮิท ไม่เกินเดือน ก็หาคนมาคุยใหม่ได้เรื่อยๆ
จนกระทั่งเมื่อ 6 เดือนก่อน ได้ยินว่าโดนผู้หญิงที่คบไม่ถึงปีบอกเลิกอีก และก็เฮิทอีก
และก็หายเงียบไป
ต่อมาก็รู้ว่า ใจเย็นลงมาก คิดถึงใจเขาใจเรามาขึ้น ซอฟขึ้น พูดรู้เรื่องมากขึ้น
แต่ในประเด็นเรื่องผู้หญิงเปลี่ยนไปมาก
เวลาที่ในหมู่ญาติอายุใกล้ๆกันจะไปดูหนังกัน เพื่อนผม ก็จะชวนผู้หญิงมาคนนึงมา ซึ่งคนนี้ก็จะมาจองตั๋วให้
และพอเวลาที่ในหมู่ญาติจะไปเที่ยวกลางคืนกัน เพื่อนผมก็จะชวนผู้หญิงอีกคนนึงมา ซึ่งคนนี้ก็จะมาจองโต๊ะให้ และรู้ว่าจะไปต่อที่ไหนดี
และพอผู้ใหญ่จะคุยเรื่องหุ้นก็จะไปชวนผู้หญิงที่รู้เรื่องหุ้นมาคุยด้วย
หรือผู้ใหญ่จะคุยเรื่องทำร้านอาหารก็จะไปชวนผู้หญิงที่ทำกิจการร้านอาหารมาคุยด้วย
ครอบครัวจะไปทะเล ก็มีคนมาจองโต๊ะสั่งอาหารมารอไว้ให้ด้วย
แม้แต่ไม่สบาย ก็มีคุณหมอมาดูถึงบ้านให้ด้วย
ซึ่งทุกคนที่มาเป็นที่รับรู้ในครอบครัวที่นับๆได้ก็ประมาณ 8 คน
เราเคยถามผู้หญิงหลายๆคนต่อหน้าเพื่อนว่า "เป็นอะไรกันหรอ"
เพื่อนผมก็ตอบต่อหน้าทุกคนและผู้หญิงว่า
"กุอยู่กับความจริงมากขึ้น ตลอดมากุเพ้อเจ้อ หาจุดยืนของตัวเองไม่เจอ
ตลอดมากุรีบ กุใจร้อน แต่ก็ไม่เห็นประโยชน์เลยว่าอะไรมันดีขึ้น มีแต่เสียไปกับเสียไป
กุเลยคิดใหม่ว่า จะค่อยๆเป็นค่อยๆไป คิดถึงใจเขาใจเราให้มากขึ้น
ที่เราคบกัน เราคบกันแบบเพื่อนที่ดูๆกันไปก่อน ค่อยๆศึกษากันไป
กุบอกทุกคนแหละ กุไม่รีบ และไม่ได้คุยอยู่แค่คนเดียวด้วย และบอกไม่ได้ด้วยว่าจะตัดสินใจเมื่อไร
อยากใช้เวลาให้แน่ใจจริงๆ ถ้าเราต่างคนต่างใช่ ก็ยังมีเวลาอยู่ด้วยกันบนโลกนี้อีกนาน
ถ้าเค้าไม่อยากรอแล้ว อยากไปเมื่อไร ขอแค่บอกกันก็พอ กุก็เข้าใจเค้านะ
กุก็แค่ดีใจที่กุมีเพื่อนที่คุยกะกุได้ทุกเรื่องอีกคนนึง
กุก็ไม่เคยไปที่ลับตาคนสองต่อสอง เรื่องบางเรื่อง เวลาเกิดมันแปปเดียวแต่ถ้ายืดเยื้อมันก้ยืดเยื้อ ยึดติดไม่รู้จบ
กุเสียดายเวลาหวะ เลือกทางที่สบายใจดีกว่า
และทุกคนที่คุย กุจะบอกเค้าเสมอว่า พยายามบอกที่บ้านนะ อย่างน้อยก็บอกแม่ ว่า คุยอะไรยังไงกับกุอยู่
อย่าคาดหวังอะไรจากกุมาก กุก็แค่คนคนนึง ที่อาจจะแค่ผ่านมาและผ่านไป
กุไม่อยากให้บ้านเค้าแตกกันเพราะใครก็ไม่รู้ที่ผ่านเข้ามาแค่นั้นเอง
และทุกคนที่กุเคยพามาที่บ้านกุ กุเคยไปกินข้าวกับแม่เค้าและที่บ้านเค้ามาแล้ว
กุก็บอกผู้หญิงทุกคนว่า ว่างๆขอชวนคุณแม่ไปทานข้าวบ้างได้มั้ย
ก็แค่คิดซะว่าเพื่อนของลูกสาวคนนึง ชวนไปกินข้าวก็แค่นั้น
แม่เค้ารู้ว่าเราเป็นยังไง จะได้บอกลูกเค้าถูก
เราก็บอกแม่เค้านะ จุดยืนของเราคืออะไรแบบไหนยังไง
ไม่ว่าอนาคตจะเป็นยังไง เราขอแค่เป็นลูกที่ดีอีกคนนึงของคุณแม่ก็พอ
และกุก็พาเค้ามาที่บ้าน ก็ในฐานะเพื่อนคนนึง เค้าก็จะได้รู้ว่าบ้านกุเป็นยังไง
ส่วนที่เหลือก็ขอให้มันเป็นเรื่องของอนาคตแล้วกัน เราทำหน้าที่ของเราไป
ให้เวลาทำหน้าที่ของมันไปแค่นั้นก็พอ"
ข้อดีของเพื่อนผมที่ผมสังเกตได้ก็คือ
เป็นคนที่ทำอาหารเป็น เล่นกีต้าร์เป็น ทำขนมเค้ก สมูตตี้ คอกเทลเป็น
อย่างตอนเพื่อนผมไม่สบาย มีสาวที่เป็นหมอมาดูอาการให้
เพื่อนผมก็ ทำกับข้าวให้ทาน ชวนทำขนมด้วยกันบ้าง แล้วก็เล่นกีต้าร์ร้องเพลงกัน
พออารมณ์บ้าๆบอๆ ก็จะถามผู้หญิงว่า สระผมยังอะ สระให้มั้ย ชอบผมมันหยึยๆมือดี
เพื่อนผมก็จะไปสระผมให้ ไดร์ให้ และที่ขาดไม่ได้เลยคือถ้าสระให้ผู้หญิงจะต้องถูกบังคับโดนถักเปียโดยเพื่อนผม
จะก้างปลาหรือตะขาบหรือปลาหมึกเพื่อนผมจะเป็นคนเลือกเอง
บางทีจะไปหาสาวคนนั้นหรือคนนี้ ก็จะทำกับข้าวติดไม้ติดมือไปตลอด
พอถามว่าไปหาใครหรอ คำตอบได้ทุกครั้งก็คือ ไปหาเพื่อนคนนึง
เลยอยากขอความเห็นครับว่า ถ้าสมาชิกในครอบครัวคุณ อาจจะเป็น ลูกชาย หลานชาย ลูกพี่ลูกน้องผู้ชาย
คบหาผู้หญิงประมานนี้ คุณจะรู้สึกยังไงครับ
ถ้าสมาชิกในครอบครัวคุณคบหาดูใจลักษณะนี้ คุณรู้จะสึกยังไงครับ
เมื่อก่อน ถ้าในอารมณ์ที่เป็นคนดี ก็แสนดีมาก แต่ในบทใจร้อน ก็พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง เอาแต่ใจ
และเลือกมากเรื่องผู้หญิง ชอบคิดมาก พยายามหาคนที่ดีที่สุด แต่ก็หาคำตอบไม่ได้ว่าต้องดีแค่ไหน
หาคนคุยได้เรื่อยๆแต่คบใครทีนึงไม่ก็เคยถึงปี เวลาเฮิทก็เฮิทจริง
แต่เฮิท ไม่เกินเดือน ก็หาคนมาคุยใหม่ได้เรื่อยๆ
จนกระทั่งเมื่อ 6 เดือนก่อน ได้ยินว่าโดนผู้หญิงที่คบไม่ถึงปีบอกเลิกอีก และก็เฮิทอีก
และก็หายเงียบไป
ต่อมาก็รู้ว่า ใจเย็นลงมาก คิดถึงใจเขาใจเรามาขึ้น ซอฟขึ้น พูดรู้เรื่องมากขึ้น
แต่ในประเด็นเรื่องผู้หญิงเปลี่ยนไปมาก
เวลาที่ในหมู่ญาติอายุใกล้ๆกันจะไปดูหนังกัน เพื่อนผม ก็จะชวนผู้หญิงมาคนนึงมา ซึ่งคนนี้ก็จะมาจองตั๋วให้
และพอเวลาที่ในหมู่ญาติจะไปเที่ยวกลางคืนกัน เพื่อนผมก็จะชวนผู้หญิงอีกคนนึงมา ซึ่งคนนี้ก็จะมาจองโต๊ะให้ และรู้ว่าจะไปต่อที่ไหนดี
และพอผู้ใหญ่จะคุยเรื่องหุ้นก็จะไปชวนผู้หญิงที่รู้เรื่องหุ้นมาคุยด้วย
หรือผู้ใหญ่จะคุยเรื่องทำร้านอาหารก็จะไปชวนผู้หญิงที่ทำกิจการร้านอาหารมาคุยด้วย
ครอบครัวจะไปทะเล ก็มีคนมาจองโต๊ะสั่งอาหารมารอไว้ให้ด้วย
แม้แต่ไม่สบาย ก็มีคุณหมอมาดูถึงบ้านให้ด้วย
ซึ่งทุกคนที่มาเป็นที่รับรู้ในครอบครัวที่นับๆได้ก็ประมาณ 8 คน
เราเคยถามผู้หญิงหลายๆคนต่อหน้าเพื่อนว่า "เป็นอะไรกันหรอ"
เพื่อนผมก็ตอบต่อหน้าทุกคนและผู้หญิงว่า
"กุอยู่กับความจริงมากขึ้น ตลอดมากุเพ้อเจ้อ หาจุดยืนของตัวเองไม่เจอ
ตลอดมากุรีบ กุใจร้อน แต่ก็ไม่เห็นประโยชน์เลยว่าอะไรมันดีขึ้น มีแต่เสียไปกับเสียไป
กุเลยคิดใหม่ว่า จะค่อยๆเป็นค่อยๆไป คิดถึงใจเขาใจเราให้มากขึ้น
ที่เราคบกัน เราคบกันแบบเพื่อนที่ดูๆกันไปก่อน ค่อยๆศึกษากันไป
กุบอกทุกคนแหละ กุไม่รีบ และไม่ได้คุยอยู่แค่คนเดียวด้วย และบอกไม่ได้ด้วยว่าจะตัดสินใจเมื่อไร
อยากใช้เวลาให้แน่ใจจริงๆ ถ้าเราต่างคนต่างใช่ ก็ยังมีเวลาอยู่ด้วยกันบนโลกนี้อีกนาน
ถ้าเค้าไม่อยากรอแล้ว อยากไปเมื่อไร ขอแค่บอกกันก็พอ กุก็เข้าใจเค้านะ
กุก็แค่ดีใจที่กุมีเพื่อนที่คุยกะกุได้ทุกเรื่องอีกคนนึง
กุก็ไม่เคยไปที่ลับตาคนสองต่อสอง เรื่องบางเรื่อง เวลาเกิดมันแปปเดียวแต่ถ้ายืดเยื้อมันก้ยืดเยื้อ ยึดติดไม่รู้จบ
กุเสียดายเวลาหวะ เลือกทางที่สบายใจดีกว่า
และทุกคนที่คุย กุจะบอกเค้าเสมอว่า พยายามบอกที่บ้านนะ อย่างน้อยก็บอกแม่ ว่า คุยอะไรยังไงกับกุอยู่
อย่าคาดหวังอะไรจากกุมาก กุก็แค่คนคนนึง ที่อาจจะแค่ผ่านมาและผ่านไป
กุไม่อยากให้บ้านเค้าแตกกันเพราะใครก็ไม่รู้ที่ผ่านเข้ามาแค่นั้นเอง
และทุกคนที่กุเคยพามาที่บ้านกุ กุเคยไปกินข้าวกับแม่เค้าและที่บ้านเค้ามาแล้ว
กุก็บอกผู้หญิงทุกคนว่า ว่างๆขอชวนคุณแม่ไปทานข้าวบ้างได้มั้ย
ก็แค่คิดซะว่าเพื่อนของลูกสาวคนนึง ชวนไปกินข้าวก็แค่นั้น
แม่เค้ารู้ว่าเราเป็นยังไง จะได้บอกลูกเค้าถูก
เราก็บอกแม่เค้านะ จุดยืนของเราคืออะไรแบบไหนยังไง
ไม่ว่าอนาคตจะเป็นยังไง เราขอแค่เป็นลูกที่ดีอีกคนนึงของคุณแม่ก็พอ
และกุก็พาเค้ามาที่บ้าน ก็ในฐานะเพื่อนคนนึง เค้าก็จะได้รู้ว่าบ้านกุเป็นยังไง
ส่วนที่เหลือก็ขอให้มันเป็นเรื่องของอนาคตแล้วกัน เราทำหน้าที่ของเราไป
ให้เวลาทำหน้าที่ของมันไปแค่นั้นก็พอ"
ข้อดีของเพื่อนผมที่ผมสังเกตได้ก็คือ
เป็นคนที่ทำอาหารเป็น เล่นกีต้าร์เป็น ทำขนมเค้ก สมูตตี้ คอกเทลเป็น
อย่างตอนเพื่อนผมไม่สบาย มีสาวที่เป็นหมอมาดูอาการให้
เพื่อนผมก็ ทำกับข้าวให้ทาน ชวนทำขนมด้วยกันบ้าง แล้วก็เล่นกีต้าร์ร้องเพลงกัน
พออารมณ์บ้าๆบอๆ ก็จะถามผู้หญิงว่า สระผมยังอะ สระให้มั้ย ชอบผมมันหยึยๆมือดี
เพื่อนผมก็จะไปสระผมให้ ไดร์ให้ และที่ขาดไม่ได้เลยคือถ้าสระให้ผู้หญิงจะต้องถูกบังคับโดนถักเปียโดยเพื่อนผม
จะก้างปลาหรือตะขาบหรือปลาหมึกเพื่อนผมจะเป็นคนเลือกเอง
บางทีจะไปหาสาวคนนั้นหรือคนนี้ ก็จะทำกับข้าวติดไม้ติดมือไปตลอด
พอถามว่าไปหาใครหรอ คำตอบได้ทุกครั้งก็คือ ไปหาเพื่อนคนนึง
เลยอยากขอความเห็นครับว่า ถ้าสมาชิกในครอบครัวคุณ อาจจะเป็น ลูกชาย หลานชาย ลูกพี่ลูกน้องผู้ชาย
คบหาผู้หญิงประมานนี้ คุณจะรู้สึกยังไงครับ