อ่านแล้วชอบเอามาแบ่งปัน
เสกสรรค์ตระหนักถึงความดีที่มีซับซ้อนในตัว เขาไม่ปฏิเสธความดี ในความหมายของความรัก ความเมตตา ที่มนุษย์มอบให้กัน แต่ที่ต้องระมัดระวัง การอ้างความดีปกปิดการครอบงำ หรือเอารัดเอาเปรียบ บางกรณีกระทำไปโดยไม่รู้ตัว
“โลกเดือดร้อนมามาก เพราะการอ้างถึงความดี โอเค คนชั่วไม่จริงใจกับความดี อ้างความดีมากลบเกลื่อนการกระทำของตน อันนี้เราเข้าใจได้ไม่ยาก แต่มีบ่อยครั้งที่เราไม่เข้าใจ ก็คือ
ทำไมคนดีถึงทำสิ่งที่ไม่ดีหรือถึงขั้นทำร้ายผู้อื่นได้อย่างหน้าตาเฉย
คำตอบมีอยู่ว่า เพราะเขาไปผูกตัวตนไว้กับความคิดเรื่องดีชั่วอย่างกลไกตายตัว เมื่อโลกไม่เป็นตามความคิด ก็รู้สึกมีความชอบธรรมที่จะไปขัดแย้งไปต่อต้าน กระทั่งไปเปลี่ยนแปลงเอาตามใจชอบ”
เสกสรรค์ย้ำว่า “คนที่หลงเชื่อว่าตนเองทำความดีนั้น น่ากลัวมาก เพราะว่าเขาจะไม่ยอมเปลี่ยน ทั้งๆที่อาจไปทำร้ายคน อาจไปรังแกคนอื่นอย่างไม่ยุติธรรม
อันที่จริงเรื่องความดีความชั่ว ส่วนใหญ่เป็นเรื่องสัมพัทธ์ ไม่ใช่เรื่องตายตัว มันแปรเปลี่ยนไปตามยุคสมัย ตามกาลเทศะ ถ้าไปยึดติดมาก ก็จะทะเลาะกันโดยไม่จำเป็น
ถ้าเราเข้าใจลึกๆ ไม่ใช่เรื่องผิดถูก เราเพียงแต่ทนไม่ได้ที่คนอื่นไม่ทำตามความคิดเรา พอมีสติมองเห็นอัตตาตัวเองแล้ว โลกจะลดความขัดแย้งลงไปได้อีกเยอะ”
ผมขอคัดย่อ...ประเด็นที่กระทบใจ จากหนังสือความคิดทางสังคมการเมือง ของเสกสรรค์ ประเสริฐกุล มายั่วให้ไปหาหนังสือเล่มนี้อ่านกันต่อ
หนังสือประเภทอ่านแล้วเติมปัญญา พิมพ์ไม่ค่อยมากนะครับ...รีบไปหาซื้อกันไว้
ชักธงรบ. ไทยรัฐ
อ่านแล้วชอบเอามาแบ่งปัน
เสกสรรค์ตระหนักถึงความดีที่มีซับซ้อนในตัว เขาไม่ปฏิเสธความดี ในความหมายของความรัก ความเมตตา ที่มนุษย์มอบให้กัน แต่ที่ต้องระมัดระวัง การอ้างความดีปกปิดการครอบงำ หรือเอารัดเอาเปรียบ บางกรณีกระทำไปโดยไม่รู้ตัว
“โลกเดือดร้อนมามาก เพราะการอ้างถึงความดี โอเค คนชั่วไม่จริงใจกับความดี อ้างความดีมากลบเกลื่อนการกระทำของตน อันนี้เราเข้าใจได้ไม่ยาก แต่มีบ่อยครั้งที่เราไม่เข้าใจ ก็คือ
ทำไมคนดีถึงทำสิ่งที่ไม่ดีหรือถึงขั้นทำร้ายผู้อื่นได้อย่างหน้าตาเฉย
คำตอบมีอยู่ว่า เพราะเขาไปผูกตัวตนไว้กับความคิดเรื่องดีชั่วอย่างกลไกตายตัว เมื่อโลกไม่เป็นตามความคิด ก็รู้สึกมีความชอบธรรมที่จะไปขัดแย้งไปต่อต้าน กระทั่งไปเปลี่ยนแปลงเอาตามใจชอบ”
เสกสรรค์ย้ำว่า “คนที่หลงเชื่อว่าตนเองทำความดีนั้น น่ากลัวมาก เพราะว่าเขาจะไม่ยอมเปลี่ยน ทั้งๆที่อาจไปทำร้ายคน อาจไปรังแกคนอื่นอย่างไม่ยุติธรรม
อันที่จริงเรื่องความดีความชั่ว ส่วนใหญ่เป็นเรื่องสัมพัทธ์ ไม่ใช่เรื่องตายตัว มันแปรเปลี่ยนไปตามยุคสมัย ตามกาลเทศะ ถ้าไปยึดติดมาก ก็จะทะเลาะกันโดยไม่จำเป็น
ถ้าเราเข้าใจลึกๆ ไม่ใช่เรื่องผิดถูก เราเพียงแต่ทนไม่ได้ที่คนอื่นไม่ทำตามความคิดเรา พอมีสติมองเห็นอัตตาตัวเองแล้ว โลกจะลดความขัดแย้งลงไปได้อีกเยอะ”
ผมขอคัดย่อ...ประเด็นที่กระทบใจ จากหนังสือความคิดทางสังคมการเมือง ของเสกสรรค์ ประเสริฐกุล มายั่วให้ไปหาหนังสือเล่มนี้อ่านกันต่อ
หนังสือประเภทอ่านแล้วเติมปัญญา พิมพ์ไม่ค่อยมากนะครับ...รีบไปหาซื้อกันไว้
ชักธงรบ. ไทยรัฐ