ทำไมคนบางคนถึงยึดติดกับยี่ห้อ ในขณะที่อีกคนไม่ยึดติด ?

อย่างในกรณีที่คุณว่า .. มันหมายถึง "เราไม่อยากเห็นใคร" ดีกว่า , เด่นกว่า .. เลยต้องพยามซื้อสินค้า/บริการ ให้ทัดเทียม หรือ ดีกว่า คนรอบข้างเราเสมอ

แต่ถามจริง ๆ เหอะ .. คุณจะไล่ตามคนอื่น ๆ ได้ซักกี่น้ำ .. เพื่อนคุณซื้อ Benz ขับ .. แต่คุณอยากจะซื้อ BMW มาให้ทัดเทียม หรือ เหนือกว่า .. แต่ในความจริง คุณทำไม่ได้แบบเพื่อน .. เพราะฐานเงินเดือน หรือ รายได้ ต่างกันมาก .. คุณซื้อไม่ไหว

ผมว่า ถ้ามัวแต่คิด "อิจฉา" คนอื่น ๆ .. จนทำให้เราทนไม่ได้ จนต้องพยามทำตัวให้ทัดเทียม หรือ เหนือกว่า .. บางที มันก็เหนื่อยมากนะครับ

ยกเว้นในกรณีเดียว คือ "พัฒนาตนเอง"  แบบนี้ เค้าเรียกว่า "อิจฉา จนได้ดี"  .. เช่น .. คุณกับเพื่อนของคุณ ทำงานพร้อมกัน (จะบริษัทเดียวกัน หรือ ต่างบริษัท ก็แล้วแต่)

ฐานเงินเดือนเริ่มต้น อาจจะใกล้เคียงกัน .. ผ่านไปซัก 5 ปี .. เพื่อนคุณพัฒนาไปไกลมาก ทั้งตำแหน่งหน้าที่ และ ฐานเงินเดือน

คุณเริ่มทนไม่ได้ .. เลยพัฒนาตัวเอง ให้ทำงานได้ดีขึ้น เก่งขึ้น .. หรือ โยกย้าย เปลี่ยนงาน พัฒนาขีดความสามารถ .. จนสามารถมีตำแหน่ง หรือ ฐานเงินเดือนที่ทัดเทียม หรือ เหนือกว่าเพื่อนของคุณได้ (แบบนี้ ถือเป็นเรื่องดีครับ)

แต่ในความเป็นจริง .. ถ้าเราเห็นใคร ดีกว่า , เด่นกว่า .. ถ้าเราพยามจะทำตัวให้ทัดเทียมกับเค้า หรือ เหนือกว่าเค้า แล้วเราทำไม่ได้ (ไม่ว่าจะด้วยเรื่องเงิน หรือ สภาพแวดล้อมอะไรก็แล้วแต่) .. เรามักจะพยาม "สาบแช่ง" หรือ ทำอะไรบางอย่าง เพื่อให้คน ๆ นั้น "ประสบความล้มเหลว" แล้วเราก็เหยียบซ้ำ .. ยิ่งคน ๆ นั้น "ตกต่ำ"  ต่ำกว่าเรามาก ๆ เท่าไหร่ .. เราจะยิ่งมีความสุข (นี่คือความจริงของโลกมนุษย์ ที่หลาย ๆ คนเป็นกันอยู่ แต่ไม่ยอมรับตัวเอง)

ส่วนเรื่องยึดติดกับยี่ห้อ .. ผมว่า เป็นเรื่องของ Brand Royalty  มากกว่า .. อย่างเพื่อนผมชอบ Toyota มาก ๆ .. ไม่เคยขับรถยี่ห้ออื่นเลย .. บ้านมันมีตังค์ เลยเปลี่ยนรถบ่อย .. ตั้งแต่เรียน จนทำงาน .. ใช้กี่รุ่น ๆ ก็ Toyota มาตลอด

บางคน ก็ไม่ยึดติดกับยี่ห้อ .. มีอะไรดี ๆ ถ้ามีตังค์ซื้อ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าของยี่ห้ออะไร ก็ใช้หมด ขอให้มันตอบสนองความต้องการเราได้ก็พอ