"ปึ้ง สุรพงษ์" กับข้อหา สเน็กๆ ฟิชๆ กับมิสชั่น พา "ยิ่งลักษณ์" โก อินเตอร์ และ ศึกเขาพระวิหาร ...มติชนออนไลน์

กระทู้สนทนา
สัมภาษณ์

แค่เริ่มแรกที่เป็น รมว.ต่างประเทศ "ปึ้ง" สุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล ก็โดนรับน้องอย่างแรงว่า
เป็น รมว.ต่างประเทศที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ตามประกาศิตของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
อดีตนายกรัฐมนตรี

แต่นายสุรพงษ์ ก็ไม่ตอบโต้ใดๆ กับเสียงเม้าธ์แตกในเรื่องนี้ "ตอนนั้น ผมฟังนักข่าวจีนพูดภาษาอังกฤษ
ตอนแถลงข่าว ไม่ถนัด เพราะฟังสำเนียงไม่ออก ก็เลยให้ลูกน้องแปลให้ฟัง"

ต่อมาก็เม้าธ์กันว่า รมว.ต่างประเทศ พูดและฟังภาษาอังกฤษไม่ได้ "ใครจะพูดยังไง ก็พูดไป
เออ ฟังไม่รู้เรื่องก็ไม่รู้เรื่อง"

โดยออกตัวว่า เป็นคนที่ฟังสำเนียงภาษาอังกฤษไม่ถนัด ถ้าเป็นพวกที่ฟังยากๆ เช่น คนฝรั่งเศสพูดอังกฤษ
คนเขมรพูดอังกฤษ คนจีนพูดอังกฤษ หรือพวกรัวลิ้นมาก ก็ฟังไม่ถนัดจริงๆ

"ถ้าฟังไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจ ก็ถามคนที่เข้าใจ ไม่เห็นน่าอายตรงไหน ดีกว่าไม่รู้ ไม่เข้าใจแล้วไม่ถาม"
โกปึ้ง กล่าว

ยิ่งในเวทีการเจรจาทางการทูตด้วยแล้ว ก็จำเป็นต้องใช้ล่าม ปกติ "ผมเรียนวิศวกรรมเครื่องกล
ผมเรียนอยู่โอไฮโอ อเมริกา 7 ปี ใครจะว่าผมยังไงก็ว่าไปเถอะ" นายสุรพงษ์ เปรย

เพราะการจะเข้าใจหรือพูดภาษาอังกฤษเก่งหรือไม่เก่ง ไม่น่าใช่เรื่องสำคัญ เพราะมันสำคัญที่ความคิด
ในการบริหารกระทรวงการต่างประเทศมากกว่า

"ผมดีใจที่ได้มาทำงานตำแหน่งนี้ เพราะไม่มีผลประโยชน์ แต่เป็นการทำเพื่อชาติบ้านเมือง
เพื่อหน้าตาของประเทศจริงๆ" นายสุรพงษ์ กล่าว

แต่ดูเหมือนเขาจะถูกมองด้วยว่า มาเป็น รมว.ต่างประเทศ เพื่อจัดการเรื่องพาสปอร์ต เล่มปกติของ
พ.ต.ท.ทักษิณ ในฐานะที่เป็นชาวเชียงใหม่ แถมเป็นศิษย์มงฟอร์ต และเป็นเครือญาติชินวัตร
ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เรียกชื่อเล่นว่า "ปึ้ง" ภาษาเหนือที่แปลว่า อ้วน อย่างติดปาก

อันถือเป็นเรื่องยาก ที่มีการเมืองเข้ามาแทรก และถูกจ้องอยู่ตลอดที่ขยับ จนทำให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน
ก็ทักท้วงมาทางนายกรัฐมนตรี แต่ทาง กต. เราก็ยืนยันไปว่า เราทำถูกต้องแล้ว เพราะพาสปอร์ต
ก็เปรียบเสมือนบัตรประชาชน คนที่ติดคุก เรายังไม่ยึดบัตรประชาชนของเขาเลย

ในเวลานี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ใช้พาสปอร์ตของ มอนเตเนโกร เป็นหลัก แต่ก็คงมีของหลายประเทศด้วย



งานของกระทรวงการต่างประเทศในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ นี้ นายสุรพงษ์ เน้นว่า ทูตต่างๆ ก็จะต้องช่วยกัน
หาช่องทางในการทำธุรกิจไปด้วยในตัว เพราะรัฐบาลก็จะขยายโอกาสการลงทุนไปในประเทศต่างๆ ทั่วโลก

จึงมีการวางแผนให้นายกรัฐมนตรี โกอินเตอร์ ไปเยือนอีกราว 10 ประเทศ หลังจากที่เยือนมาแล้ว
กว่า 30 ประเทศ ในห้วงเวลากว่า 1 ปีที่เป็นนายกฯ เช่น มองโกเลีย มาดากัสการ์ แทนซาเนีย ศรีลังกา
มัลดีฟส์ สหรัฐอเมริกา แคนาดา แอฟริกาใต้ หรือแม้แต่รัสเซีย

โดยกระทรวงการต่างประเทศ มีแผนที่จะเปิดสถานทูตและสถานกงสุลใหม่ ในอีก 28 ประเทศทั่วโลก
ภายใน 5 ปี โดยใช้บุคลากรราว 500 คน รวมทั้งการตั้งสถานกงสุลที่จีนเพิ่มอีก 2 แห่ง และที่ปาปัวนิวกินี
หลังจากที่ทางปาปัวนิวกินี จะมาตั้งสถานทูตในไทย

"ตอนนี้นายกฯ ยิ่งลักษณ์ จะไปเยือนที่ไหนก็ต้อนรับ เพราะเป็นนายกฯ ที่มาจากการเลือกตั้ง และเป็นผู้หญิง
อีกด้วย เดินไปที่ไหนก็ยืดอกได้ว่ามาจากการเลือกตั้ง" นายสุรพงษ์ กล่าว

รวมทั้งเมื่อเวลาเชิญผู้นำประเทศ ให้มาเยือนไทย ก็จะมีคนเต็มใจมา โดยในแผนจะมีการเชิญ
นายกรัฐมนตรีของอังกฤษ อินเดีย เยอรมนี



นายสุรพงษ์ ยอมรับว่า บางครั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ก็มีส่วนในการไปเยือนแต่ละประเทศของตนเองหรือ
นายกรัฐมนตรี เพราะท่านมีประสบการณ์ ก็จะแนะนำช่องทาง ลู่ทางต่างๆ

"ผมเองเดินทางไปต่างประเทศทุกสัปดาห์ ชีวิตอยู่แต่บนเครื่องบิน แต่โชคดีตรงที่เป็นคนนอนหลับง่าย
ก็พักผ่อนบนเครื่อง พอลงเครื่องไปก็ทำงานได้เลย" นายสุรพงษ์ กล่าว

ปีนี้อายุจะครบ 60 ปีแล้ว แต่ก็ยังอยากทำงานต่อ เพราะเชื่อว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์อยู่ครบเทอม 4 ปีแน่นอน
แต่เมื่อหมดเทอมนี้แล้ว ก็ไม่แน่ว่าจะเล่นการเมืองต่อหรือไม่ ก็เตรียมมองๆ หาคนที่จะมาทำงานแทนไว้บ้าง

แม้ว่าสุขภาพจะไม่ได้เป็นอะไร นอกจากเบาหวาน แต่ก็มองว่า กระทรวงการต่างประเทศควรจะให้เป็นเรื่อง
ของคนรุ่นใหม่ อายุน้อยๆ ส่วนคนอายุมากๆ มีประสบการณ์ก็จะคอยเป็นที่ปรึกษาอยู่เบื้องหลัง แล้วกลับ
ไปอยู่เชียงใหม่บ้านเกิด

"ผมยังเชื่อว่า เรายังต้องใช้ความจริงใจ ในการคบหากัน หรือในทางการทูต ไม่ใช่การหลอก หรือการพูดจา
ให้สวยหรู แต่เป็นการแสดงความจริงใจ ไม่เสแสร้ง ทั้งการแก้ปัญหากับซาอุดีอาระเบีย ปัญหาเขาพระวิหาร"
นายสุรพงษ์ กล่าว

โดยเฉพาะเรื่องคดีเขาพระวิหาร ที่ใครๆ ก็ห่วงว่าหลังจากที่ทั้งไทยและกัมพูชามีถ้อยแถลงต่อ
ศาลโลก 15-19 เมษายนนี้แล้ว การตัดสินในปลายปี จะเป็นอย่างไร เพราะจะทำให้การเมืองร้อน



"เราก็ยังหวังในแง่ดีว่า ศาลจะตัดสินให้พื้นที่โดยรอบปราสาทพระวิหาร หรือ Vicinity นั้นเป็นตามเดิม
เมื่อปี 2505 เพราะเรามีแผนที่จะพัฒนาพื้นที่ร่วมกับกัมพูชา และการอยู่ร่วมกันในพื้นที่ปัญหา" นายสุรพงษ์ กล่าว

"ถ้าตัดสินให้เสมอ ก็แปลว่า ไทยเราชนะ" นายสุรพงษ์ เปรย นั่นจึงทำให้เขาตั้งคณะทำงานร่วมในการพัฒนา
พื้นที่เศรษฐกิจไทย-กัมพูชา ขึ้นมาอีกคณะ โดยมีเขา และ นายฮอร์ นัมฮง รมว.ต่างประเทศกัมพูชา เป็น
ประธานร่วม เพื่อเตรียมพัฒนาการท่องเที่ยวร่วมกัน

โดยคาดว่า หลังการไปชี้แจงที่กรุงเฮกแล้ว จะมองออกว่าทิศทางการตัดสินของศาลโลกในเดือนตุลาคม
จะเป็นอย่างไร

"สมมุติว่า ถ้าศาลโลกให้เขยิบพื้นที่โดยรอบปราสาทเขาพระวิหาร ออกมาอีก มากกว่าปี 2505 ตอนนั้น
จะเป็นยังไง ทั้งม็อบ ทั้งการเมือง ทั้งฝ่ายทหาร" นายสุรพงษ์ กล่าว

แต่ก็ยังเชื่อมั่นว่า ไม่มีใครอยากทำให้เกิดการสู้รบระหว่างทหารไทยและทหารเขมรอีกครั้ง เพราะเราจะเข้า
สู่ประชาคมอาเซียนด้วยกันแล้ว

อีกทั้งฝ่ายทหาร ไม่ว่าจะเป็น บิ๊กเจี๊ยบ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สส. และ บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์
จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ก็มีท่าทีซอฟต์ลง และมี บิ๊กโอ๋ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม คอยช่วยดูแล
จนถึงขั้นจะเดินทางไปที่กรุงเฮก กลางเมษายนนี้ด้วย พร้อมทีมทหาร

"ฝ่ายทหารให้ความสำคัญมาก ก็เพราะหน้าที่ของเขาคือการปกป้องรักษาดินแดน และอธิปไตย ซึ่งเราก็เข้าใจ
ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศ ก็ไม่ได้ต้องการทำให้เสียดินแดน ผมเองก็กลายเป็นเป้าโดนหนักเลย" นายสุรพงษ์ กล่าว

แต่ก็ไม่อยากให้ฝ่ายการเมือง โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ นำไปเป็นประเด็นทางการเมือง ด้วยการทำให้
ประชาชนคนไทยเข้าใจผิด ด้วยการใช้คำ หรือบิดเบือน ในฐานะที่เคยเป็นคนประชาธิปัตย์มาก่อน จึงรู้ดีว่า
จะเล่นแบบไหน

"ผมถามว่า ถ้าพื้นที่รอบปราสาทพระวิหาร เป็นของไทย ตั้งแต่ศาลโลกตัดสินเมื่อปี 2505 แล้วปราสาทเป็นของ
เขมร ทำไมไม่ให้เขมรรื้อก้อนหินที่สร้างปราสาท ไปสร้างในเขตพื้นที่เขมรล่ะ เพราะฉะนั้น ไทยเราจึงเฉือนแบ่ง
พื้นที่โดยรอบปราสาทไปให้เขมรส่วนหนึ่งแล้ว ซึ่งถ้าศาลโลกตัดสินให้เขมรได้แค่นี้ ก็ถือว่าจบลงด้วยดี"
นายสุรพงษ์ กล่าว

ในเวลานี้สิ่งที่คนไทยทำได้คือการช่วยสวดมนต์ภาวนาให้ศาลโลกตัดสินออกมาอย่างยุติธรรม ไม่ให้ไทยต้อง
เสียดินแดนเพิ่มอีก เพราะในฐานะ รมว.ต่างประเทศ ก็ห่วงกังวลไม่น้อย ว่า หน้าประวัติศาสตร์หน้านี้ จะจารึก
ไว้ว่าอย่างไร แล้วชื่อของตนเองจะอยู่ตรงไหน

ประมาณว่า ถ้าผ่านปลายปี 2556 นี้ ผ่านคดีเขาพระวิหารไปได้ ก็โล่งอกแล้ว ทีนี้รัฐบาลก็อยู่ยาวครบเทอมแน่
จะได้ช่วยกันพัฒนาเศรษฐกิจ หาเงินเข้าประเทศ เตรียมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน และเตรียมพร้อมเรื่องพลังงาน
ไว้สำหรับลูกหลานในอนาคต ไม่ต้องพึ่งจมูกประเทศอื่นหายใจ

แต่ก็นั่นแหละ ไม่มีใครรู้ว่า ถึงเวลานั้นจริงๆ จะมีอะไรเข้าแทรกหรือไม่ เพราะเชื่อกันว่า "อำมาตย์ ยังไม่ตาย" จริงๆ...


http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1365237057&grpid=01&catid=&subcatid=

ชอบไหม ...ภูมิใจไหม ...ที่นายกฯ โกอินเตอร์  ใครอับอายขายหน้า  เลือกตั้งคราวหน้า  ก็ไปเลือก
คุณอภิสิทธิ์ได้  พูดภาษาอังกฤษ  ....  ดีมาก  ...ก็ไปอยู่อังกฤษตั้งแต่เด็ก  ...พูดไม่ดี  ต้องไปเกิดใหม่เลย
ชอบอ่านเรื่องของนายก ฯ หญิง  ที่เราเลือกมากับมือ ...  เลยเก็บตกมาให้เพื่อนๆ ได้อ่านด้วย
2  ปี  ของ  พี่มาร์ค  ถึงจะพูดอังกฤษดีมาก   ...แต่ทำไม  ไม่โกอินเตอร์  รมต.ตปท.  เจ้าของวลี..อาหารดี  คนตรีเพราะ
ไม่ได้ทำหน้าที่   แบบที่ ดร.ปึ้ง...จัดให้ นายกฯยิ่งลักษณ์  หรือ ?    ยิ้ม

สาวแว่น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่