สุรินทร์แล้งหนัก สระแหล่งน้ำสำหรับผลิตประปากลางหมู่บ้านแห้งขอด หอยปูปลานอนแห้งตายเกลื่อน อย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ชาวบ้านระดมเงินคนละ 200 บาท ซื้อเครื่องและอุปกรณ์ดูดน้ำบาดาล ทำน้ำประปาแทน ช่วยเหลือตัวเอง ด้านนายก อบต.เมืองที วอน รมช.มหาดไทย เร่งอนุมัติงบขุดลอกสระแก้ภัยแล้งช่วยชาวบ้านโดยด่วน หลังยื่นหนังสือแล้วยังไม่ได้รับคำตอบ
วันที่ 27 มี.ค.56 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่ จ.สุรินทร์ ได้ขยายวงกว้างรุกหนักขึ้น ส่งผลให้ จ.สุรินทร์ ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) แล้ว 16 อำเภอ จากทั้งหมด 17 อำเภอ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งช่วยเหลือประชาชนเรื่องน้ำอุปโภคบริโภคที่ขาด แคลน ขณะที่แหล่งน้ำสาธารณะของหมู่บ้านในหลายพื้นที่ๆพบว่ามีระดับน้ำลดลงอย่าง ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
โดยเฉพาะสระน้ำสาธารณะกลางหมู่บ้านทะนงรัตน์ ม.8 ต.เมืองที อ.เมือง จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำหลักสำคัญของหมู่บ้าน และเป็นแหล่งน้ำดิบในการผลิตทำน้ำประปา พบว่า ขณะนี้ได้แห้งขอดอย่างหนัก พื้นดินก้นสระแตกระแหง พบซากปูซากหอยที่นอนตายเกลื่อนตามพื้นดินก้นสระ และสามารถเดินลงไปได้
ด้าน นายคำแสน ระวังชื่อ สมาชิก อบต.บ้านทนงรัตน์ ม. 8 ต.เมืองทีฯกล่าวว่า ปีที่ผ่านๆมาไม่เคยพบว่าสระน้ำขนาด 10 ไร่แห่งนี้จะแห้งขอดมากถึงขนาดนี้มาก่อน อาจจะเป็นเพราะปีที่ผ่านมาฝนได้ทิ้งช่วงมานาน จึงทำให้ไม่สามารถผลิตน้ำประปาได้ ชาวบ้านต้องร่วมกันบริจาคเงินคนละ 200 บาท เพื่อซื้ออุปกรณ์และเครื่องดูดน้ำจากบ่อบาดาลขึ้นมาผลิตน้ำประปาแทน
ขณะที่ นายศรชัย สุภิมารส นายก อบต.เมืองทีฯกล่าวว่า ในเบื้องต้นทาง อบต.เมืองที ได้นำรถบรรทุกน้ำดื่มและน้ำใช้ออกแจกให้กับประชาชน 12 หมู่บ้านเพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือนร้อนแล้ว อย่างไรก็ตามสำหรับการวางแผนแก้ไขปัญหาแหล่งน้ำบ้านทนงรัตน์ฯแห่งนี้ ในระยะยาว ทาง อบต.เมืองทีได้ ทำหนังสือขออนุมัติงบประมาณขุดลอกสระน้ำบ้านทนงรัตน์ด้วยงบประมาณ 1 ล้านกว่าบาท กับ พลตำรวจโท ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่เดินทางมาติดตามสถานการณภัยแล้วในพ้นที่ จ.สุรินทร์ไปแล้วเมื่อช่วงกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เนื่องจากทาง อบต.มีงบประมาณน้อย ต้องดูแลถึง 12 หมู่บ้าน เนื่องจากพบว่าแหล่งน้ำแห่งนี้ตื้นเขินและน้ำก็แห้งขอดจริงๆ และคาดหวังว่าฝนจะตกในปีนี้ถูกต้องตามฤดูกาล ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้รับคำตอบจาก รมช.หมาดไทย จึงขอฝากถึงท่าน รมช.มหาดไทย ช่วยเร่งดำเนินการพิจารณาอนุมัติช่วยเหลือชาวบ้านโดยด่วนด้วย เพื่อให้ทันรองรับน้ำในฤดูฝนที่จะมาถึงนี้.
สุรินร์แล้งหนัก นายก อบต.เมืองที วอน รมช.มหาดไทย หลังยื่นหนังสือแล้วหนังสือแล้วยังไม่ได้รับคำตอบ
สุรินทร์แล้งหนัก สระแหล่งน้ำสำหรับผลิตประปากลางหมู่บ้านแห้งขอด หอยปูปลานอนแห้งตายเกลื่อน อย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ชาวบ้านระดมเงินคนละ 200 บาท ซื้อเครื่องและอุปกรณ์ดูดน้ำบาดาล ทำน้ำประปาแทน ช่วยเหลือตัวเอง ด้านนายก อบต.เมืองที วอน รมช.มหาดไทย เร่งอนุมัติงบขุดลอกสระแก้ภัยแล้งช่วยชาวบ้านโดยด่วน หลังยื่นหนังสือแล้วยังไม่ได้รับคำตอบ
วันที่ 27 มี.ค.56 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่ จ.สุรินทร์ ได้ขยายวงกว้างรุกหนักขึ้น ส่งผลให้ จ.สุรินทร์ ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) แล้ว 16 อำเภอ จากทั้งหมด 17 อำเภอ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งช่วยเหลือประชาชนเรื่องน้ำอุปโภคบริโภคที่ขาด แคลน ขณะที่แหล่งน้ำสาธารณะของหมู่บ้านในหลายพื้นที่ๆพบว่ามีระดับน้ำลดลงอย่าง ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
โดยเฉพาะสระน้ำสาธารณะกลางหมู่บ้านทะนงรัตน์ ม.8 ต.เมืองที อ.เมือง จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำหลักสำคัญของหมู่บ้าน และเป็นแหล่งน้ำดิบในการผลิตทำน้ำประปา พบว่า ขณะนี้ได้แห้งขอดอย่างหนัก พื้นดินก้นสระแตกระแหง พบซากปูซากหอยที่นอนตายเกลื่อนตามพื้นดินก้นสระ และสามารถเดินลงไปได้
ด้าน นายคำแสน ระวังชื่อ สมาชิก อบต.บ้านทนงรัตน์ ม. 8 ต.เมืองทีฯกล่าวว่า ปีที่ผ่านๆมาไม่เคยพบว่าสระน้ำขนาด 10 ไร่แห่งนี้จะแห้งขอดมากถึงขนาดนี้มาก่อน อาจจะเป็นเพราะปีที่ผ่านมาฝนได้ทิ้งช่วงมานาน จึงทำให้ไม่สามารถผลิตน้ำประปาได้ ชาวบ้านต้องร่วมกันบริจาคเงินคนละ 200 บาท เพื่อซื้ออุปกรณ์และเครื่องดูดน้ำจากบ่อบาดาลขึ้นมาผลิตน้ำประปาแทน
ขณะที่ นายศรชัย สุภิมารส นายก อบต.เมืองทีฯกล่าวว่า ในเบื้องต้นทาง อบต.เมืองที ได้นำรถบรรทุกน้ำดื่มและน้ำใช้ออกแจกให้กับประชาชน 12 หมู่บ้านเพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือนร้อนแล้ว อย่างไรก็ตามสำหรับการวางแผนแก้ไขปัญหาแหล่งน้ำบ้านทนงรัตน์ฯแห่งนี้ ในระยะยาว ทาง อบต.เมืองทีได้ ทำหนังสือขออนุมัติงบประมาณขุดลอกสระน้ำบ้านทนงรัตน์ด้วยงบประมาณ 1 ล้านกว่าบาท กับ พลตำรวจโท ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่เดินทางมาติดตามสถานการณภัยแล้วในพ้นที่ จ.สุรินทร์ไปแล้วเมื่อช่วงกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เนื่องจากทาง อบต.มีงบประมาณน้อย ต้องดูแลถึง 12 หมู่บ้าน เนื่องจากพบว่าแหล่งน้ำแห่งนี้ตื้นเขินและน้ำก็แห้งขอดจริงๆ และคาดหวังว่าฝนจะตกในปีนี้ถูกต้องตามฤดูกาล ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้รับคำตอบจาก รมช.หมาดไทย จึงขอฝากถึงท่าน รมช.มหาดไทย ช่วยเร่งดำเนินการพิจารณาอนุมัติช่วยเหลือชาวบ้านโดยด่วนด้วย เพื่อให้ทันรองรับน้ำในฤดูฝนที่จะมาถึงนี้.