เมื่อตอนครบรอบก่อตั้งพรรค มาร์คให้สัมภาษณ์ความเป็นสถาบันการเมืองนำพาประเทศไปสู่ประชาธิปไตย ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้านก็จะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริต โดยการรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติและส่วนรวม ไม่ว่าจะเป็นการเคารพสิทธิเสรีภาพของประชาชน และพร้อมจะเป็นหลักให้บ้านเมือง

แค่นี้ยังไม่หนำ มาร์คยังกล้าที่จะไปพูดอีกครั้งในเวทีปราศรัยฝ่าความจริง (ภาคพิเศษ) ในหัวข้อ “อุดมการณ์ไม่มีวันตาย ความจริงไม่มีวันตาย” ในทำนองประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพียงแต่ประชาชนอย่าพึ่งตายใจว่ามั่นคงปลอดภัย เพราะยังมีการคุกคามโดยเผด็จการในคราบนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง อีกทั้งปัจจุบันไม่มีการสนใจมารยาททางการเมือง จึงอยากเรียกร้องให้ประชาชนมาร่วมเดินหน้าให้สังคมไทยตระหนัก ทำให้ประเทศเดินไปในทิศทางที่ถูกต้อง

มาร์คครับ ผมเกือบเคลิบเคลิ้มจนเกิดศรัทธาเลื่อมใสทั้งมาร์คทั้งพรรคของมาร์คอยู่แล้วเชียว

ถ้าไม่บังเอิญผมนึกขึ้นได้

ไม่ว่าจะเป็นปลากระป๋องเน่า นมบูด ครุภัณฑ์อาชีวะ เสาธง ถนนปลอดฝุ่น หรือแม้กระทั่งเสาโรงพักที่กำลังตั้งโด่เด่ประจานกันอยู่ในเวลานี้ ก็ล้วนแต่เกิดขึ้นในยุคมาร์ค นี่คือการทำหน้าที่โดยสุจริตอย่างนั้นหรือครับ

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาษีบุหรี่ เรื่องสงครามกับเพื่อนบ้าน นำดินแดนทับซ้อนมาเป็นประเด็นทางการเมือง จนนำไปสู่การพิพาทถึงศาลโลก นี่เป็นการรักษาผลประโยชน์ของประเทศอย่างนั้นหรือครับ

ไม่ว่าจะเป็นการใช้ พรก.ฉุกเฉิน ไม่ว่าจะเป็นการใช้ ผังลัมเจ้ากำมะลอ ไม่ว่าจะเป็นการใช้กองทัพในการควบคุมฝูงชน ไม่ว่าจะเป็นการทิ้งแก๊สน้ำตาจาก ฮ. ไม่ว่าจะเป็นการใช้อาวุธสงคราม สิ่งเหล่านี้ล้วนกระทำต่อประชาชนที่ออกมาเรียกร้องให้ยุบสภาแค่นั้นเอง อย่างนี้หรือครับเป็นการเคารพสิทธิเสรีภาพของประชาชน

ไม่ว่าจะเป็นการคัดค้านเรื่องสำรวจภูมิอากาศของนาซ่า ไม่ว่าจะเป็นการคัดค้านเงินเยียวยาผู้ถูกกระทำจากเจ้าหน้าที่รัฐ คัดค้านเงินช่วยเหลือน้ำท่วม คัดค้านนิรโทษกรรม คัดค้านปรองดอง คัดค้านการเจรจากับแกนนำใต้ คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการ คัดค้านการปรับโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อพัฒนาประเทศให้เดินหน้าสู้กับนานาประเทศ สิ่งเหล่านี้เป็นการค้านอย่างสร้างสรรค์ เป็นการค้านเพื่อผลประโยชน์ของส่วนรวมหรือครับ

ส่วนเรื่องมารยาททางการเมืองที่มาร์คบอกว่า นักการเมืองเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยสนใจนั้น ผมเห็นด้วยกับมาร์คครับ

เพราะที่ผมเห็น การที่ตั้งรัฐบาลแข่งกับเสียงส่วนใหญ่ มันไร้มารยาทจริงๆครับ
เพราะที่ผมเห็น การไปดึงนักการเมืองจากฝ่ายตรงข้ามมายกมือให้ ยิ่งเป็นมารยาทที่ใช้ไม่ได้
เพราะที่ผมเห็น การฟอร์มรัฐบาลในค่ายทหาร นอกจากเสียมารยาทแล้วยังไม่สง่างามอีกด้วย
เพราะที่ผมเห็น การไม่เคารพประธานรัฐสภา ขนาดขว้างปาหรือล้อมประธาน ยิ่งเป็นมารยาทที่สุดถ่อย
เพราะที่ผมเห็น การไม่เคารพมติเสียงส่วนใหญ่ ยิ่งเป็นมารยาทที่ต่ำทราม จนไม่น่าจะเกิดในรัฐสภา
เพราะที่ผมเห็น การประชุมที่มีเกียรติ กลับมี ส.ส.แอบดูภาพโป๊ เป็นการไม่รักษามารยาทในที่ประชุมจริงๆด้วย

ดังนั้นเพื่อให้สภาไทยมีความสง่างามทั้งในและนอกประเทศ เพื่อให้สภาไทยเป็นที่ยอมรับ และเพื่อให้นักการเมืองไทยเป็นนักการเมืองที่ต้องมีมารยาทเหนือกว่าบุคคลธรรมดา จึงควรจะมีการอบรมนักการเมืองให้รู้จักมารยาทที่ดีกว่านี้ ไม่รู้มาร์คจะเห็นด้วยกับผมในเรื่องนี้หรือเปล่าครับมาร์ค

สำหรับประชาธิปไตยที่มาร์คบอกให้ประชาชนอย่าได้ตายใจ เพราะยังมีเผด็จการในคราบนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง อีกทั้งไม่สนใจมารยาททางการเมือง เรื่องเหล่านี้ผมเห็นด้วยกับมาร์คอย่างเต็มที่เลยครับ

ประชาชนพลาดไปอย่างมาก ที่ยังไปหลงเชื่อกับประชาธิปไตยแบบจอมปลอม นักการเมืองในคราบยึดมั่นในระบบรัฐสภา ข้อสำคัญคือประชาชนมัวแต่ไปหลงกับภาพที่พวกเขาเหล่านั้นได้สร้างเอาไว้เป็นเวลานาน

ประชาชนจึงต้องช้ำที่นักการเมืองไปเรียกร้อง นายกฯมาตรา 7 ที่ไม่เป็นประชาธิปไตย
ประชาชนจึงต้องช้ำที่นักการเมือง ไปร่วมมือกับเหล่าเผด็จการมายึดอำนาจประชาชน
ประชาชนจึงต้องช้ำที่นักการเมือง ให้การสนับสนุนรัฐธรรมนูญที่ร่างขึ้นเพื่อทำให้พรรคการเมืองอ่อนแอ
ประชาชนจึงต้องช้ำที่นักการเมือง ปกป้องสมุนที่อาศัยอำนาจรัฐประหารเข้ามาอยู่ในสภา
ประชาชนจึงต้องช้ำที่นักการเมือง กล้านั่งบนซากศพประชาชนเพื่อรักษาฐานอำนาจต่อไป
ประชาชนจึงต้องช้ำที่นักการเมือง ไม่เคยมองเห็นคุณค่าของมติมหาชน
ประชาชนจึงต้องช้ำที่นักการเมือง ยังเดินหน้าสร้างความแตกแยกต่อไป เพียงเพื่อหาที่ยืนให้กับตัวเองเท่านั้น

สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นการกระทำของเผด็จการที่อยู่ในคราบนักการเมืองอย่างแท้จริง เพียงแต่ตอนนี้ไม่ได้คุกคามด้วยกำลัง แต่เป็นการคุกคามโดยอาศัยกฎหมายที่รัฐธรรมนูญโจรกำหนดมา อาศัยเครื่องมือต่างๆที่เหล่าเผด็จการสร้างไว้ เพื่อทำลายพรรคการเมืองของประชาชนอย่างแท้จริง จนประเทศต้องจมปลักอยู่กับวังวนความขัดแย้ง ยากที่จะเดินหน้าไปในทิศทางที่ถูกต้อง

ดังนั้นสิ่งที่มาร์คพูดในเรื่องนี้ ผมจึงค่อนข้างเห็นด้วย สังคมถึงเวลาที่จะต้องตระหนักถึงเล่ห์เพทุบายของเหล่านักการเมือง ต้องหันกลับมาร่วมแรงร่วมใจอย่าให้เหล่าเผด็จการในคราบนักการเมืองมีโอกาสเชิดหน้าชูตาในรัฐสภาอีกต่อไป

เพียงแต่มาร์คครับ คนส่วนใหญ่เขาเห็นหมดแล้ว เขาช้ำพอแล้ว เขาจึงพร้อมใจกันออกไปใช้สิทธิ เพื่อสกัดไม่ให้พวกเผด็จการในคราบนักการเมืองมีโอกาสเข้ามาชูคอในสภาอีก แม้จะสกัดไม่ได้หมดก็ตาม แต่ก็สามารถสกัดไม่ให้มีโอกาสสร้างกลุ่มงูเห่าอีกคำรบหนึ่ง เพื่อด้านหน้ามาบริหารประเทศได้อีก ดังนั้นสำหรับประชาชนส่วนนี้ มาร์คไม่ต้องเป็นห่วง

สิ่งที่มาร์คควรห่วงก็คือ จนถึงป่านนี้ พวกเสียงข้างน้อยยังคงหูหนวกตาบอด จนยากจะเยียวยาได้ คงได้แต่ภาวนาวาทกรรมของมาร์คในครั้งนี้ประสบผล เป็นมีดหมอที่พร้อมจะเปิดตาให้คนเหล่านี้ได้พบกับแสงสว่าง เป็นมือหมอที่พร้อมจะรักษาหูให้กลับมาได้ยิน ถึงเวลานั้นแหละครับ ประเทศไทยจะได้เดินหน้าเสียที ประชาธิปไตยไทยจะได้ปลอดจากนักการเมืองที่มีแต่วาทกรรมและอำนาจนอกระบบเสียที เมื่อนั้นคงเป็นคุณูปการเพียงสิ่งเดียวที่มาร์คสามารถทำให้กับประเทศนี้ ขอบคุณล่วงหน้านะครับถ้ามาร์คทำสำเร็จ