พูดโกหกพกลมผสมเสร็จ กล่าวความเท็จเจ็ดย่านน้ำคำเสแสร้ง
คำปลิ้นปล้อนอ้อนมารยามาแสดง ตลบตะแลงแกล้งพูดจาให้น่าฟัง
พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน
TORแหล ความหมาย
[-แหฺล] เป็นคําด่าคนที่พูดเท็จ (มักใช้แก่ผู้หญิง); ช่างพูดและแสดงกิริยาน่ารัก (ใช้เฉพาะเด็กที่สอนพูด).
[-แหฺล] ว. เรียกต้นไม้ที่ให้ผลเร็วผิดปรกติ เช่น มะเขือTORแหล.
ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตสถาน กล่าวว่า TORแหล เพี้ยนมาจากคำว่า "ต่อแหล่" ซึ่งเป็นการร้องเพลงแหล่ เพลงเข้าทำนอง ภาษาถิ่นใต้ เข้าใจกันว่า คล้ายกับคำว่าโกหก หลอกลวง แต่ความหมายทางรากลึกประวัติศาสตร์ TORแหลมิใช่คำหยาบและไม่ได้แปลว่า โกหก แต่เป็นกระบวนการสร้างเรื่อง พูดความจริง ผสมความเท็จ ทำให้ผู้อื่นจับผิดได้ยาก แต่ก็คล้ายกับโกหก
ทัศนคติของคนไทยส่วนมากจะไม่รู้จักกับความเป็นมาของถ้อยคำ ภาษา รู้สึก และเชื่อตามๆกันมาว่าคำๆนี้เป็นการหยาบคาย ไม่สุภาพที่จะใช้เลือกสื่อสารออกมาอย่างเป็นทางการ...แต่ในด้านลึกของความ หมายที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ไทยโบราณ TORแหลนั้นกำเนิดมาจากกลศึกในทำนองยุแยกให้แตกสามัคคีธรรม ถูกใช้เพื่อการทำลายล้มทางอำนาจ ที่เห็นเด่นชัดคงเป็นเหตุการณ์คาบเกี่ยวก่อนหน้าและหลัง พ.ศ. 1200 ระหว่างปลายสมัยสหราชอาณาจักรคีรีรัฐ เข้าสู่ต้นสมัยสหราชอาณาจักรศรีโพธิ์ (ศรีวิชัย)...ครั้งนั้นมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์นอกพงศาวดารไทย 700 กว่าปี บอกให้รู้ถึงสงครามแย่งชิงทางอำนาจของคนเผ่าไทยกันเอง กระทั่งต้องรบราฆ่าฟัน แผ่นดินแตกแยก ถูกข้าศึกถือโอกาสเข้ายึดครอง...ตำนานภาคกลางเรื่องพญากง-พญาพานก็ยังเป็น เกล็ดประวัติศาสตร์ส่วนหนึ่งของห้วงศึกที่เกี่ยวข้องกับกลศึกTORแหล ซึ่งถูกให้กำเนิดโดยพระนางอุษา หรือตามตำนานพื้นบ้านได้เรียกให้เป็น “พระแม่ธรณีกรรแสง”
เมื่อพิจารณาจากกล ศึกแบบไทยๆ เรายังต้องเข้าใจอีกว่ากลศึกของการทำTORแหลนั้น ยังมีลำดับขั้นอีกหลายอย่าง ตั้งแต่การบิดเบือนความจริง พูดจริงผสมเท็จ ปรับแต่งเป็นประเด็นใหม่ใช้ใส่ร้ายทำลายผู้อื่น กระบวนการของกลศึกTORแหล ที่ไม่ใช่ความหมายตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ยังครอบคลุมเทคนิคแห่งมายาสาไถ อ้อน-สำออย เพื่อให้หลงผิดเป็นลับ ลวง พราง และหลอนหลอก...
พัฒนาการขอบเขตไป เรื่อยๆ หากใช้TORแหลไม่ได้ผลยังใช้กลยุทธ์ไปโดยต่อเนื่อง จนท้ายๆกระบวนยุทธ์
กลศึกTORแหลอาจต้องลงเอยด้วยวิธีการหน้าด้าน ไม่มียางอาย การไม่คำนึงถึงหลักการ กลายเป็นข้อส่งเสริมให้เกิดปรากฏการณ์ด้านดื้อ กระทั่งดื้อตาใส ถึงขีดขั้นดื้อตาใสแล้วพวกเหล่านี้ย่อมสามารถกระทำอะไรๆได้ทุกสิ่ง
ด้วยความเคารพ
(++)+(++):) :) :) :)(++)+(++)
คำปลิ้นปล้อนอ้อนมารยามาแสดง ตลบตะแลงแกล้งพูดจาให้น่าฟัง
พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน
TORแหล ความหมาย
[-แหฺล] เป็นคําด่าคนที่พูดเท็จ (มักใช้แก่ผู้หญิง); ช่างพูดและแสดงกิริยาน่ารัก (ใช้เฉพาะเด็กที่สอนพูด).
[-แหฺล] ว. เรียกต้นไม้ที่ให้ผลเร็วผิดปรกติ เช่น มะเขือTORแหล.
ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตสถาน กล่าวว่า TORแหล เพี้ยนมาจากคำว่า "ต่อแหล่" ซึ่งเป็นการร้องเพลงแหล่ เพลงเข้าทำนอง ภาษาถิ่นใต้ เข้าใจกันว่า คล้ายกับคำว่าโกหก หลอกลวง แต่ความหมายทางรากลึกประวัติศาสตร์ TORแหลมิใช่คำหยาบและไม่ได้แปลว่า โกหก แต่เป็นกระบวนการสร้างเรื่อง พูดความจริง ผสมความเท็จ ทำให้ผู้อื่นจับผิดได้ยาก แต่ก็คล้ายกับโกหก
ทัศนคติของคนไทยส่วนมากจะไม่รู้จักกับความเป็นมาของถ้อยคำ ภาษา รู้สึก และเชื่อตามๆกันมาว่าคำๆนี้เป็นการหยาบคาย ไม่สุภาพที่จะใช้เลือกสื่อสารออกมาอย่างเป็นทางการ...แต่ในด้านลึกของความ หมายที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ไทยโบราณ TORแหลนั้นกำเนิดมาจากกลศึกในทำนองยุแยกให้แตกสามัคคีธรรม ถูกใช้เพื่อการทำลายล้มทางอำนาจ ที่เห็นเด่นชัดคงเป็นเหตุการณ์คาบเกี่ยวก่อนหน้าและหลัง พ.ศ. 1200 ระหว่างปลายสมัยสหราชอาณาจักรคีรีรัฐ เข้าสู่ต้นสมัยสหราชอาณาจักรศรีโพธิ์ (ศรีวิชัย)...ครั้งนั้นมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์นอกพงศาวดารไทย 700 กว่าปี บอกให้รู้ถึงสงครามแย่งชิงทางอำนาจของคนเผ่าไทยกันเอง กระทั่งต้องรบราฆ่าฟัน แผ่นดินแตกแยก ถูกข้าศึกถือโอกาสเข้ายึดครอง...ตำนานภาคกลางเรื่องพญากง-พญาพานก็ยังเป็น เกล็ดประวัติศาสตร์ส่วนหนึ่งของห้วงศึกที่เกี่ยวข้องกับกลศึกTORแหล ซึ่งถูกให้กำเนิดโดยพระนางอุษา หรือตามตำนานพื้นบ้านได้เรียกให้เป็น “พระแม่ธรณีกรรแสง”
เมื่อพิจารณาจากกล ศึกแบบไทยๆ เรายังต้องเข้าใจอีกว่ากลศึกของการทำTORแหลนั้น ยังมีลำดับขั้นอีกหลายอย่าง ตั้งแต่การบิดเบือนความจริง พูดจริงผสมเท็จ ปรับแต่งเป็นประเด็นใหม่ใช้ใส่ร้ายทำลายผู้อื่น กระบวนการของกลศึกTORแหล ที่ไม่ใช่ความหมายตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ยังครอบคลุมเทคนิคแห่งมายาสาไถ อ้อน-สำออย เพื่อให้หลงผิดเป็นลับ ลวง พราง และหลอนหลอก...
พัฒนาการขอบเขตไป เรื่อยๆ หากใช้TORแหลไม่ได้ผลยังใช้กลยุทธ์ไปโดยต่อเนื่อง จนท้ายๆกระบวนยุทธ์ กลศึกTORแหลอาจต้องลงเอยด้วยวิธีการหน้าด้าน ไม่มียางอาย การไม่คำนึงถึงหลักการ กลายเป็นข้อส่งเสริมให้เกิดปรากฏการณ์ด้านดื้อ กระทั่งดื้อตาใส ถึงขีดขั้นดื้อตาใสแล้วพวกเหล่านี้ย่อมสามารถกระทำอะไรๆได้ทุกสิ่ง
ด้วยความเคารพ