กระทู้นี้เป็นกระทู้เสี่ยงตาย ขอให้
อ่านให้จบอย่างช้าๆนะครับ แล้วท่านจะเข้าใจในเจตนาของผม
บัณฑิตจบใหม่ บางคนยังไม่มีงานทำ / บางคนเพิ่งเริ่มงาน / บางคนกู้ กยศ. มาเรียน / บางคนบ้านเป็นหนี้เป็นสิน
แต่ถ้าเลือกที่จะมารับปริญญา เขาจะต้องมาเสียเงินหลายพันหลายหมื่นบาท ในพิธีรับปริญญา
ทุกวันนี้ บัณฑิต 1 คน ถ้าจะเข้ารับปริญญา จะต้องเสียค่าใช้จ่ายตั้งแต่หลายพันบาทไปจนถึงหลักหมื่น
ค่าใช่จ่ายส่วนนั้น จะไปตกอยู่กับ
1. ชุดครุย (ปัจจุบันถ้าเช่าก็ประมาณ 800 บาท ถ้าตัดก็ยิ่งแพง)
2. ชุดสูทสากลสำหรับบัณฑิตชาย (อันนี้ราคาแพงกว่าชุดครุยอีกครับ หลายพันบาทครับอันนี้)
3. ค่าที่พัก (ทั้งของบัณฑิตเองและญาติๆ)
4. ค่าเดินทาง (ทั้งของบัณฑิตเองและญาติๆ)
5. ค่าแต่งหน้า ทำผม (สำหรับผู้หญิง)
6. ค่าช่างภาพ (สำหรับท่านที่จ้างช่างภาพ)
7. ค่าดอกไม้ ตุ๊กตา ป้ายแสดงความยินดี
8. ค่าฉลองต่างๆ
ทั้งหมดนี้ อย่างต่ำผมว่าก็หลายพันบาท บางคนอาจจะถึงหลักหมื่น
เข้าประเด็น
รูปแบบการรับปริญญาแบบใหม่ ที่ผมอยากให้เป็นคือ
" ให้บัณฑิตใส่ชุดนักศึกษาเข้ารับปริญญา โดยให้รับปริญญาในช่วงปีการศึกษาสุดท้ายที่
คาดว่าจะจบ (ไม่ต้องรอให้จบจริง) "
ซึ่งจะช่วยทำให้บัณฑิตประหยัดขึ้นมาได้หลายบาท ดังนี้ครับ
- ไม่ต้องเสียเงินค่าเช่าหรือตัดชุดครุย
- ไม่ต้องเสียเงินค่าเช่าหรือตัดชุดสูทสากลสำหรับบัณฑิตชาย
- ประหยัดค่าที่พักและค่าเดินทางในส่วนของตัวบัณฑิตเอง เพราะรับปริญญาในปีการศึกษาสุดท้ายที่
คาดว่าจะจบ
แต่ก็อาจจะมีปัญหาเกิดขึ้น ดังนี้ครับ
- เนื่องจากให้รับปริญญาในช่วงปีการศึกษาสุดท้ายที่
คาดว่าจะจบ แต่อาจจะมีบางคนที่ยังไม่จบ เพราะเกิดอุบัติเหตุทางการศึกษา
ซึ่งผมก็คิดว่า ปัญหานี้ แก้ได้โดย ให้ทางมหาวิทยาลัยดูแลใบปริญญาให้ก่อน เมื่อจบจริง จึงให้ไปรับกับทางมหาวิทยาลัยอีกครั้ง
นอกเหนือจากเรื่องชุดในพิธีการแล้ว ก็มีอีกหลายอย่างที่ควรลดอีก เช่น
ค่าแต่งหน้า ทำผม (สำหรับผู้หญิง)
ค่าช่างภาพ (สำหรับท่านที่จ้างช่างภาพ)
ค่าดอกไม้ ตุ๊กตา ป้ายแสดงความยินดี
ค่าฉลองต่างๆ
สรุปทิ้งท้าย
การรับปริญญา ถือเป็นความภาคภูมิใจของบัณฑิตและพ่อแม่ญาติพี่น้อง
แต่เราก็ควรจะกลับมาตรองกันดูว่า ค่าใช้จ่ายต่างๆที่เกิดขึ้นมานั้น เหมาะสมแล้วหรือไม่
บางคนอาจบอกว่า
การรับปริญญานั้น มีแค่ครั้งเดียวในชีวิตนะ (ใครต่อโทต่อเอก จึงจะได้รับครั้งที่สองหรือสาม)
แน่นอนครับ ในเมื่อมีแค่ครั้งเดียวในชีวิต จะไม่ดีกว่าเหรอ ถ้าเราจะทำให้การรับปริญญาเหมาะสมมากขึ้น ประหยัดมากขึ้น
เพราะอย่าลืมว่า
บัณฑิตจบใหม่ บางคนยังไม่มีงานทำ / บางคนเพิ่งเริ่มงาน / บางคนกู้ กยศ. มาเรียน / บางคนบ้านเป็นหนี้เป็นสิน
แต่ถ้าเลือกที่จะมารับปริญญา เขาจะต้องมาเสียเงินหลายพันหลายหมื่นบาท ในพิธีรับปริญญา
บางคนอาจจะแย้งว่าบ้านฉันรวย เงินไม่กี่หมื่นไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย อันนี้ผมก็ไม่แย้งครับ
ถ้าเงินนั้น บัณฑิตหามาเอง ไม่ใช่เงินของพ่อแม่
เพราะเมื่อคุณจบ ป.ตรีแล้ว ความรับผิดชอบทั้งหมด มันควรที่จะอยู่ที่ตัวบัณฑิตเองครับ
เมื่อจบ ป.ตรีแล้วนั้น ชีวิตจริงกำลังจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้นครับ
เงินที่เสียไปอย่างมากมายในงานรับปริญญานั้น ตรองดูครับ ว่าเหมาะสมหรือไม่
*
*
*
*
ย้ำ กระทู้นี้ บอกให้
ปรับเปลี่ยนรูปแบบการรับปริญญาให้ประหยัดขึ้นนะครับ
ไม่ใช่ให้ยกเลิกการรับปริญญาแต่อย่างใด
ควรเปลี่ยนรูปแบบ "การรับปริญญา" เสียใหม่ เพื่อให้ประหยัดกว่านี้ครับ
บัณฑิตจบใหม่ บางคนยังไม่มีงานทำ / บางคนเพิ่งเริ่มงาน / บางคนกู้ กยศ. มาเรียน / บางคนบ้านเป็นหนี้เป็นสิน
แต่ถ้าเลือกที่จะมารับปริญญา เขาจะต้องมาเสียเงินหลายพันหลายหมื่นบาท ในพิธีรับปริญญา
ทุกวันนี้ บัณฑิต 1 คน ถ้าจะเข้ารับปริญญา จะต้องเสียค่าใช้จ่ายตั้งแต่หลายพันบาทไปจนถึงหลักหมื่น
ค่าใช่จ่ายส่วนนั้น จะไปตกอยู่กับ
1. ชุดครุย (ปัจจุบันถ้าเช่าก็ประมาณ 800 บาท ถ้าตัดก็ยิ่งแพง)
2. ชุดสูทสากลสำหรับบัณฑิตชาย (อันนี้ราคาแพงกว่าชุดครุยอีกครับ หลายพันบาทครับอันนี้)
3. ค่าที่พัก (ทั้งของบัณฑิตเองและญาติๆ)
4. ค่าเดินทาง (ทั้งของบัณฑิตเองและญาติๆ)
5. ค่าแต่งหน้า ทำผม (สำหรับผู้หญิง)
6. ค่าช่างภาพ (สำหรับท่านที่จ้างช่างภาพ)
7. ค่าดอกไม้ ตุ๊กตา ป้ายแสดงความยินดี
8. ค่าฉลองต่างๆ
ทั้งหมดนี้ อย่างต่ำผมว่าก็หลายพันบาท บางคนอาจจะถึงหลักหมื่น
เข้าประเด็น
รูปแบบการรับปริญญาแบบใหม่ ที่ผมอยากให้เป็นคือ
" ให้บัณฑิตใส่ชุดนักศึกษาเข้ารับปริญญา โดยให้รับปริญญาในช่วงปีการศึกษาสุดท้ายที่คาดว่าจะจบ (ไม่ต้องรอให้จบจริง) "
ซึ่งจะช่วยทำให้บัณฑิตประหยัดขึ้นมาได้หลายบาท ดังนี้ครับ
- ไม่ต้องเสียเงินค่าเช่าหรือตัดชุดครุย
- ไม่ต้องเสียเงินค่าเช่าหรือตัดชุดสูทสากลสำหรับบัณฑิตชาย
- ประหยัดค่าที่พักและค่าเดินทางในส่วนของตัวบัณฑิตเอง เพราะรับปริญญาในปีการศึกษาสุดท้ายที่คาดว่าจะจบ
แต่ก็อาจจะมีปัญหาเกิดขึ้น ดังนี้ครับ
- เนื่องจากให้รับปริญญาในช่วงปีการศึกษาสุดท้ายที่คาดว่าจะจบ แต่อาจจะมีบางคนที่ยังไม่จบ เพราะเกิดอุบัติเหตุทางการศึกษา
ซึ่งผมก็คิดว่า ปัญหานี้ แก้ได้โดย ให้ทางมหาวิทยาลัยดูแลใบปริญญาให้ก่อน เมื่อจบจริง จึงให้ไปรับกับทางมหาวิทยาลัยอีกครั้ง
นอกเหนือจากเรื่องชุดในพิธีการแล้ว ก็มีอีกหลายอย่างที่ควรลดอีก เช่น
ค่าแต่งหน้า ทำผม (สำหรับผู้หญิง)
ค่าช่างภาพ (สำหรับท่านที่จ้างช่างภาพ)
ค่าดอกไม้ ตุ๊กตา ป้ายแสดงความยินดี
ค่าฉลองต่างๆ
สรุปทิ้งท้าย
การรับปริญญา ถือเป็นความภาคภูมิใจของบัณฑิตและพ่อแม่ญาติพี่น้อง
แต่เราก็ควรจะกลับมาตรองกันดูว่า ค่าใช้จ่ายต่างๆที่เกิดขึ้นมานั้น เหมาะสมแล้วหรือไม่
บางคนอาจบอกว่า การรับปริญญานั้น มีแค่ครั้งเดียวในชีวิตนะ (ใครต่อโทต่อเอก จึงจะได้รับครั้งที่สองหรือสาม)
แน่นอนครับ ในเมื่อมีแค่ครั้งเดียวในชีวิต จะไม่ดีกว่าเหรอ ถ้าเราจะทำให้การรับปริญญาเหมาะสมมากขึ้น ประหยัดมากขึ้น
เพราะอย่าลืมว่า
บัณฑิตจบใหม่ บางคนยังไม่มีงานทำ / บางคนเพิ่งเริ่มงาน / บางคนกู้ กยศ. มาเรียน / บางคนบ้านเป็นหนี้เป็นสิน
แต่ถ้าเลือกที่จะมารับปริญญา เขาจะต้องมาเสียเงินหลายพันหลายหมื่นบาท ในพิธีรับปริญญา
บางคนอาจจะแย้งว่าบ้านฉันรวย เงินไม่กี่หมื่นไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย อันนี้ผมก็ไม่แย้งครับ ถ้าเงินนั้น บัณฑิตหามาเอง ไม่ใช่เงินของพ่อแม่
เพราะเมื่อคุณจบ ป.ตรีแล้ว ความรับผิดชอบทั้งหมด มันควรที่จะอยู่ที่ตัวบัณฑิตเองครับ
เมื่อจบ ป.ตรีแล้วนั้น ชีวิตจริงกำลังจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้นครับ
เงินที่เสียไปอย่างมากมายในงานรับปริญญานั้น ตรองดูครับ ว่าเหมาะสมหรือไม่
*
*
*
*
ย้ำ กระทู้นี้ บอกให้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการรับปริญญาให้ประหยัดขึ้นนะครับ ไม่ใช่ให้ยกเลิกการรับปริญญาแต่อย่างใด