
วันที่ 6 เมษายน เวลา 18.45 น. ณ สวนหลวง ใต้สะพานพระราม 8 พรรคประชาธิปัตย์ ได้จัดเวทีปราศรัยผ่าความจริง (ภาคพิเศษ) ในหัวข้อ
“อุดมการณ์ไม่มีวันตาย ความจริงไม่มีวันตาย” นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า ต้องยอมรับว่า มาถึงวันนี้ความต่อเนื่องของระบอบประชาธิปไตย เมื่อเทียบกับหลายสิบปีที่แล้วถือว่าดีขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่า ประชาธิปไตยไทย คือระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข จะเป็นสิ่งที่ประชาชนตายใจว่า มั่นคง ปลอดภัยแล้ว เพราะในแต่ละสมัยจะมีการคุกคามไม่เหมือนกัน
อดีตเราต่อสู้กับเผด็จการทหาร แต่ปัจจุบันน่ากลัวที่สุดคือ เผด็จการของนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง ล่าสุดการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
เขากล้าปิดอภิปรายหักหลังล้มเลิกข้อตกลง ดื้อๆ นี่คือรัฐบาลในยุคนี้ ไม่ใช่แค่กฎกติกาที่ถูกละเมิด เดี๋ยวนี้มารยาททางการเมืองก็ไม่สนใจกันแล้ว คนทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุมร่ววมรัฐสภา กลับเป็นผู้เสนอญัตติเอง และพยายามสร้างกระแสว่า ฝ่ายค้านคือปัญหา และตัวถ่วงความเจริญของประเทศ
“การทำหน้าที่ตรงนี้ไม่ง่าย เขาพยายามแทรกแซง สร้างกระแสต่างๆ แต่เรายืนยันว่า เราหนักแน่น ทำทุกสิ่งเพื่อประชาชน เหมือนประวัติศาสตร์ของพรรค
เราต้องไปทำหน้าที่กอบกู้วิกฤติของชาติ เราต้องทำงานด้วยความยากลำบากทุกครั้ง แต่ทุกครั้งที่พรรคประชาธิปัตย์ ลงมาจากอำนาจประเทศไทยเข้มแข็งขึ้น และในทางการเมือง มีการสร้างกระแสขึ้นมาว่า วิธีการที่จะทำให้ประเทศเดินหน้ากันใหม่ คือ การล้างผิดทุกคน เท่านั้นไม่พอเห็นประชาธิปัตย์
ไม่ต้องการล้างผิด เขาเลยให้เราผิดไปด้วย พยายามสร้างข้อกล่าวหาให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งผมก็บอกแล้วว่า
ไม่ต้องห่วงพวกผม เราจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลถึงที่สุด แม้เราจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เราก็จะเคารพกระบวนการยุติธรรมเพราะระบบกติกาของบ้านเมือง ต้องมาก่อนบุคคล จึงอยากเรียกร้องให้ประชาชนมาร่วมเดินหน้าให้สังคมไทยได้ตระหนัก ทำให้ประเทศเดินไปในทิศทางที่ถูกต้อง มั่นคง”นายอภิสิทธิ์ กล่าว
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1365254994&grpid=03&catid=01&subcatid=0100
ทำไมถึงกล้าหาญอย่างนี้ ไม่เคยพบไม่เคยเห็น เก่งจุงเบยที่สุดในสามโลก พี่มาร์คพระขโนง
“มาร์ค” ลั่นเผด็จการจากการเลือกตั้งน่ากลัวที่สุด ไม่ยอมให้ใครล้างผิด
วันที่ 6 เมษายน เวลา 18.45 น. ณ สวนหลวง ใต้สะพานพระราม 8 พรรคประชาธิปัตย์ ได้จัดเวทีปราศรัยผ่าความจริง (ภาคพิเศษ) ในหัวข้อ “อุดมการณ์ไม่มีวันตาย ความจริงไม่มีวันตาย” นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า ต้องยอมรับว่า มาถึงวันนี้ความต่อเนื่องของระบอบประชาธิปไตย เมื่อเทียบกับหลายสิบปีที่แล้วถือว่าดีขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่า ประชาธิปไตยไทย คือระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข จะเป็นสิ่งที่ประชาชนตายใจว่า มั่นคง ปลอดภัยแล้ว เพราะในแต่ละสมัยจะมีการคุกคามไม่เหมือนกัน อดีตเราต่อสู้กับเผด็จการทหาร แต่ปัจจุบันน่ากลัวที่สุดคือ เผด็จการของนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง ล่าสุดการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เขากล้าปิดอภิปรายหักหลังล้มเลิกข้อตกลง ดื้อๆ นี่คือรัฐบาลในยุคนี้ ไม่ใช่แค่กฎกติกาที่ถูกละเมิด เดี๋ยวนี้มารยาททางการเมืองก็ไม่สนใจกันแล้ว คนทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุมร่ววมรัฐสภา กลับเป็นผู้เสนอญัตติเอง และพยายามสร้างกระแสว่า ฝ่ายค้านคือปัญหา และตัวถ่วงความเจริญของประเทศ
“การทำหน้าที่ตรงนี้ไม่ง่าย เขาพยายามแทรกแซง สร้างกระแสต่างๆ แต่เรายืนยันว่า เราหนักแน่น ทำทุกสิ่งเพื่อประชาชน เหมือนประวัติศาสตร์ของพรรค เราต้องไปทำหน้าที่กอบกู้วิกฤติของชาติ เราต้องทำงานด้วยความยากลำบากทุกครั้ง แต่ทุกครั้งที่พรรคประชาธิปัตย์ ลงมาจากอำนาจประเทศไทยเข้มแข็งขึ้น และในทางการเมือง มีการสร้างกระแสขึ้นมาว่า วิธีการที่จะทำให้ประเทศเดินหน้ากันใหม่ คือ การล้างผิดทุกคน เท่านั้นไม่พอเห็นประชาธิปัตย์ ไม่ต้องการล้างผิด เขาเลยให้เราผิดไปด้วย พยายามสร้างข้อกล่าวหาให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งผมก็บอกแล้วว่า ไม่ต้องห่วงพวกผม เราจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลถึงที่สุด แม้เราจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เราก็จะเคารพกระบวนการยุติธรรมเพราะระบบกติกาของบ้านเมือง ต้องมาก่อนบุคคล จึงอยากเรียกร้องให้ประชาชนมาร่วมเดินหน้าให้สังคมไทยได้ตระหนัก ทำให้ประเทศเดินไปในทิศทางที่ถูกต้อง มั่นคง”นายอภิสิทธิ์ กล่าว
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1365254994&grpid=03&catid=01&subcatid=0100
ทำไมถึงกล้าหาญอย่างนี้ ไม่เคยพบไม่เคยเห็น เก่งจุงเบยที่สุดในสามโลก พี่มาร์คพระขโนง