รมช.เผาเมือง รองนายกฯเผาคลัง

กระทู้สนทนา
ขอแค่รัฐบาลมีความจริงใจ อยากปลดแอกตัวเองจากภาพลักษณ์โจร และขี้ข้าโจร แล้วรับ 7 คำท้านี้ เอาคำแปรญัตติของฝ่ายค้านใส่เข้าไปในร่างพรบ.กู้เงินฉบับ คนเขาจะได้ไม่ตราหน้าต่อไปว่า รัฐบาลนี้ มี รมช.เผาเมือง รองนายกฯเผาคลัง !!

กู้ 2 ล้านล้าน แค่ผ่านสภาวาระแรก อย่าเพิ่งตื่นตระหนกตกใจกันไปใหญ่ครับว่า "ผ่านแล้ว" ตอนนี้มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาพรบ.ฉบับนี้ขึ้นมา โดยตัวแทนจากทุกฝ่าย และชื่อของตัวแทนแต่ละฝ่ายก็เป็นการสะท้อนบริบทความคิดต่อการกู้เงินก่อภาระหนี้ 5 ล้านล้าน ก้อนนี้ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

               คณะกรรมาธิการพรบ.กู้ 2 ล้านล้าน มีทั้งหมด 36 คน คณะรัฐมนตรี 9 คน พรรครัฐบาล 16 คน พรรคฝ่ายค้าน 11 คน ในจำนวนนี้เป็นของประชาธิปัตย์ 9 คน นำทีมโดย สส.กรณ์ จาติกวณิช อดีตรมว.คลัง และสส.พรรคอีก 7 คน นอกจากนี้ ยังส่ง ดร.สมชัย จิตสุชน นักวิชาการ TDRI มาเป็นกรรมาธิการอิสระในโควตาของพรรค เพื่อให้การทำงานเป็นไปด้วยความเห็นที่เป็นกลาง ส่วนของพรรครัฐบาลต้องยอมรับว่า เห็นแล้วก็อดคิดไม่ได้ว่า ทำไมถึงต้องเอาคนเหล่านี้ เข้ามาร่วมพิจารณาเรื่องที่สำคัญที่สุดเรื่องหนึ่งในประเทศไทย ที่จะส่งผลกระทบต่อประเทศชาติข้ามศตวรรษกันเลยทีเดียว

                การประชุมนัดแรกเกิดขึ้น กิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และรมว.คลัง ได้เป็น ประธานกรรมาธิการ และมีการตั้งรองประธานอีก 6 ตำแหน่งเรียงลำดับตามลำดับ 1.วราเทพ รัตนากร 2.จาตุรนต์ ฉายแสง 3.วรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล 4.กรณ์ จาติกวณิช 5.ไพจิต ศรีวรขาน และ 6.วิทยา แก้วภราดัย จะเห็นว่าในส่วนของ รองประธาน 4 คนเป็นของรัฐบาล รองประธานวราเทพ ไม่น่าแปลกใจอะไร เพราะส่งมาเป็นมือไม้ทำงาน ส่วนรองคนที่ 2 จาตุรนต์ ฉายแสง อดีตบ้าน 111 ที่เคยเป็นถึงทั้งรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย และอดีตรองนายกฯ รัฐบาลไทยรักไทย ครั้งนี้ได้เข้ามาบริหารจัดการเรื่องใหญ่ ทั้งๆที่ไม่ได้มีตำแหน่งในรัฐบาลปัจจุบัน รองคนที่ 3 รมต.วรวัจน์ คนนี้ชัดเจนว่า เป็นสายเจ๊แดง ที่มักจะเข้ามาเพื่อแค่รอคอยอะไรต่อมิอะไร จากการก่อสร้างโครงการต่างๆอยู่ตลอด สิ่งรั่วไหลคงต้องเพ่งที่คนนี้เป็นสำคัญ และสองคนหลังคือคนที่คนไทยต้องจับตา

               นอกจากนี้ ตำแหน่งอื่นๆ พรรคเพื่อไทยส่ง สส.บัญชีรายชื่อ พิชิต ชื่นบาน อดีตทนายถุงขนมสองล้าน ที่เอาไปจะติดสินบนศาล แต่โดนจับได้ในช่วงทำคดีให้ทักษิณ มาเป็นเลขากรรมาธิการ อย่างไม่อายฟ้าอายดินต่อความชอบธรรม ความโปร่งใสของตัวบุคคลต่อเรื่องที่ทำ ส่วนกรรมาธิการอื่นๆ มี สส.เพื่อไทย กทม. เขต ดุสิต ราชเทวี ลีลาวดี วัชโรบล ที่ตอนอภิปรายพูดในเชิงว่า "ประเทศไทยมีหนี้สาธารณะแค่ 45% ในขณะที่ญี่ปุ่นมี 200% ดังนั้น การเพิ่มหนี้ไปเป็น 200% ก็ไม่เป็นปัญหา เพราะประเทศเจริญแล้วทำกัน" เป็นการสะท้อนชัดเจนว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้ใส่ใจเอาคนที่มีความรู้ความสามารถที่แท้จริงในทางการเงิน การคลัง มาทำงาน และเหตุผลที่ ไทยไม่สามารถมีหนี้สาธารณะต่อ GDP สูงเป็น 2 เท่าเพราะขนาดเศรษฐกิจของไทยกับญี่ปุ่นต่างกัน สภาพการเงินการลงทุนต่างกัน นี่ยังไม่นับ คุณภาพนักการเมืองของไทยกับญี่ปุ่น โดยเฉพาะหากวัดจากนักการเมืองที่อภิปรายในสภาฯ แบบนี้นะครับ

                หลังจากนี้ การประชุมกรรมาธิการจะมีต่อเนื่องไปทุกสัปดาห์ เพื่อปรับปรุงเพิ่มเติมแก้ไข ในร่างพรบ.กู้ 2 ล้านล้าน ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ จะเพิ่มและแก้ไขในรายมาตรา จากเนื้อหาของ "7 คำท้าของคุณกรณ์" ที่ได้เขียนไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยสรุปคือ

                1.รัฐบาลต้องเอาบัญชีแนบท้าย 271 หน้าบรรจุร่วมกับร่างพรบ.ให้มีผลตามกฎหมายเช่นเดียวกัน 2.โครงการไหนล่าช้า รัฐบาลห้ามใช้เงินของโครงการนั้นทันที ให้กลับไปใช้งบปกติ 3.โครงการไหนศึกษาแล้วไม่ผ่าน ห้ามโยกงบไปใช้ส่วนอื่น 4.รัฐบาลห้ามยกเว้นระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างปกติของราชการ 5.รมว.ชัชชาติฯร่วมลงสัตยาบันกับภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่นไว้แล้ว หากภาคีฯ พบทุจริตโครงการใด ให้ยกเลิกโครงการนั้นจากเงินกู้ก้อนนี้ทันที 6.รัฐบาลเอาข้ออ้าง การทำงบประมาณสมดุลในปี 2560 มาอ้างในการขอออกกฎหมายกู้เงินพิเศษ 2 ล้านล้าน ดังนั้น จากนี้ต่อไปรัฐบาลต้องทำแผนงบประมาณตามที่นำมาเป็นข้ออ้างในการออกกฎหมายนี้เท่านั้น ห้ามกู้ขาดดุลเพิ่มอีก 7.รัฐบาลบอกว่า ถึงกู้ 2 ล้านล้านหนี้สาธารณะต่อ GDP จะไม่เกิน 50% ถ้าอนาคตเกินขึ้นมา ขอให้การกู้เงินพิเศษนอกงบประมาณนี้ทั้งฉบับ เป็นโมฆะทันที

                ทั้ง 7 ข้อนี้ พรรคประชาธิปัตย์จะแปรญัตติปรับปรุงให้ร่างพรบ.ที่รัฐบาลร่างขึ้นมาอย่างหลวมๆ เกิดทุจริตง่ายและเต็มไปด้วยกลไกเพื่อช่องทางหากินนั้น ให้รัดกุมมากขึ้น และหากรัฐบาลยอมรับก็จะเป็นการแสดงความจริงใจอย่างยิ่งในการพร้อมที่จะเบิกจ่ายใช้เงินงบประมาณ เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานให้กับประเทศไทยอย่างสุจริต แต่แนวโน้มก็เกิดขึ้นได้ยากมากครับ เพราะหลังจากคุณกรณ์ อภิปราย 7 คำท้าเสร็จ รัฐบาลมีท่าทีเมินเฉย นอกจากไม่กล้ารับคำท้าแล้ว ยังให้ รองนายกฯ ที่ไม่มีความเกี่ยวข้องอันใดกับการบริหารเศรษฐกิจของประเทศมาชี้แจงแก้ต่างแทน โดยเป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่า รองนายกฯ ท่านนี้ดีแต่พูด แล้วยังพูดไม่เป็นโล้เป็นพาย

                ฝ่ายค้านที่ถูกครหาอย่างผิดๆมาตลอดว่า ค้านอย่างเดียวนั้น ตอนนี้ได้เสนอหนทางแห่งสุจริตชนให้รัฐบาลที่ถูกตราหน้าว่า โจร  ได้มีโอกาสแก้ไขปรับปรุงในสิ่งร้ายที่ตัวเองจะทำให้ดีขึ้น เพียงขอแค่รัฐบาลมีความจริงใจ อยากปลดแอกตัวเองจากภาพลักษณ์โจร และขี้ข้าโจร แล้วรับ 7 คำท้านี้ เอาคำแปรญัตติของฝ่ายค้านใส่เข้าไปในร่างพรบ.กู้เงินฉบับ คนเขาจะได้ไม่ตราหน้าต่อไปว่า รัฐบาลนี้ มี รมช.เผาเมือง รองนายกฯเผาคลัง !!

ที่มา:http://www.naewna.com/politic/columnist/6108

ปล. กรุณาอ่านก่อน จะด่าผมและแหล่งข่าวด้วยนะครับ...เอิ๊ก ๆ ๆ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่