ภาพสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงลุกจากพระเก้าอี้พร้อมกับโน้มพระวรกายพระราชทานปริญญาบัตรแก่ น้องน้อย น.ส.อภิรดี โปร่งใจ บัณฑิตผู้พิการ ซึ่งเผยแพร่ทางโลกออนไลน์โดยผู้ใช้นามว่า เชิดพงษ์ แก้วรักษ์ ยังคงเป็นภาพแห่งความปลื้มปีติของพสกนิกรชาวไทยทั้งประเทศ
ล่าสุด นิตยสาร Let"s TALK about ฉบับเดือนเมษายน 2556 นำเสนอเรื่องราวชีวิตของน้องน้อยและวันสำคัญแห่งชีวิตในชื่อเรื่องว่า พระเมตตาพระราชทาน "น้องน้อย"อภิรดี "อยากเป็นนายกฯ"
บทความดังกล่าวบอกเล่าว่า น้องน้อย อภิรดี โปร่งใจ วัย 28 ปี พิการมาตั้งแต่เป็นทารกด้วยอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง เนื่องจากคลอดก่อนกำหนดและต้องอยู่ในตู้อบนานถึง 3 เดือน แต่มีเหตุไฟดับทำให้หัวใจหยุดเต้น สมองขาดออกซิเจนไปชั่วขณะ จนคุณแม่จิราพร โปร่งใจ คิดว่าไม่รอดแล้ว
แต่ในที่สุดหนูน้อยก็รอดพ้นเงื้อมมือมัจจุราชมาจนได้ แต่ผ่านไปได้เพียง 6 เดือน ผู้เป็นแม่ก็รู้ว่าลูกสาวตัวน้อยไม่ได้มีพัฒนาการตามวัย แม่จิราพรจึงต้องอุ้มไปหาหมอทุกที่ที่ร่ำลือว่าดี ทำทุกอย่างที่ต้องทำ
"เราเป็นคนสู้ทุกอย่างในการเลี้ยงดูลูก เมื่อลูกเรามีปัญหาก็ต้อง พาลูกออกสู่สังคม พาไปหลายๆ ที่ ให้เข้ากับสังคมได้ กระเตงเอว ไปห้าง นั่งรถเข็นไป พาเขาไปทุกที่ ไม่เคยให้เขาอยู่คนเดียว ต้องการให้น้อยช่วยเหลือตนเองได้เยอะๆ เพราะต่อไปแม่ก็ต้องอายุมากขึ้น ต้องให้ลูกเรียนรู้ทุกอย่าง ให้อยู่ด้วยตนเองได้ อย่าเป็นภาระคนอื่น และต้องช่วยเหลือสังคม ต้องเป็นผู้ให้ สอนลูกอยู่เสมอว่าต้องเป็น ผู้ให้ จะด้านไหนก็ได้"
ในที่สุดลูกสาวที่อึดต่อโชคชะตาก็พาตัวเองไปถึงจุดฝัน เมื่อเธอสำเร็จปริญญาตรีคณะศึกษาศาสตร์ สาขาจิตวิทยาพัฒนาการจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง อยู่ในรายชื่อผู้เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2556 ที่ผ่านมา
ในพิธีดังกล่าวจะเห็นภาพเธอซึ่งพิการด้วยกล้ามเนื้ออ่อนแรงนั่งอยู่บนรถเข็นพยายามประคองมือเพื่อยื่นออกไปรับพระราชทานปริญญาบัตรให้ได้อยู่ครู่ใหญ่ จนท้ายที่สุดสมเด็จ พระเทพฯ ทรงโน้มพระวรกายลงมาเพื่อพระราชทานปริญญาบัตรใส่มือเธอจนได้ ภาพดังกล่าวทำเอาเจ้าตัวและผู้ใกล้ชิดน้ำตาคลอ
"รู้สึกตื่นเต้น ดีใจ ปลื้มปีติ ทึ่งว่าเป็นไปได้หรือที่ท่านจะทรงทำแบบนี้ สมเด็จพระเทพฯ ตรัสว่า "จับสองมือได้ไหม" น้อยก็ปลื้มแล้วจับสองมือเลย ทีแรกจะจับมือเดียวแต่จับไม่ได้เพราะมือเราเคลื่อนไหวลำบาก พระองค์ท่าน มีรับสั่งให้จับสองมือ น้อยก็จับสองมือเลย พี่สมจิตร (พี่เลี้ยง) เห็นจากวงจรปิดข้างนอกเขาก็ปลื้ม น้ำตาไหลไปด้วย"
น้องน้อยจบชั้นประถมศึกษาจากโรงเรียนศรีสังวาลย์ ปากเกร็ด นนทบุรี และเรียนต่อการศึกษานอกระบบ (กศน.) จนจบระดับมัธยม ก่อนจะศึกษาต่อระดับปริญญาตรีที่มหา วิทยาลัยรามคำแหง ใช้เวลาเรียน 5 ปี สำเร็จการศึกษาด้วยเกรดเฉลี่ย 2.63
เธอมีพี่ชายสองคนซึ่งแต่งงานมีครอบครัวแล้วทั้งคู่ พ่อและแม่แยกทางกัน เธออยู่กับแม่จิราพร เจ้าของกิจการอภิรดี แมนชั่น อพาร์ต เมนต์ให้เช่ากว่า 100 ห้อง ในซอยประชา สงเคราะห์ 2 ย่านห้วยขวาง มี "สมจิตร เสนาพงษ์" วัย 48 ปี เป็นพี่เลี้ยงคอยดูแล 24 ชั่วโมง เรียกได้ว่าเป็นทั้งแขนและขาแทนเธอมานานกว่า 9 ปีแล้ว
น้องน้อยบอกว่าพี่สมจิตรเป็นแขนขา ส่วนเธอเป็นสมอง สองคนจึงมีกิจกรรมร่วมกันแทบทุกอย่าง ตอนเรียนพี่สมจิตรจะพานั่งรถไป ช่วยยกช่วยเข็นขึ้นตึก ถ้าไม่มีทางลาดหรือไม่มีลิฟต์ก็ต้องวานเพื่อนๆ ช่วยพี่สมจิตรอีกแรง
การเรียนจบปริญญาตรีสำหรับเธอจึงเป็นเรื่องน่ายินดียิ่งนัก
"ดีใจมากเพราะว่าเราไม่เหมือนเพื่อน ต้องมีพี่สมจิตรช่วยเล็กเชอร์ให้เรา เหมือนพี่เขาเรียนไปด้วยตลอด (หัวเราะ) เวลาสอบก็จะขออนุญาตอาจารย์ให้พี่สมจิตรเข้าด้วย เพราะไม่สามารถเขียนด้วยตัวเองได้
ในทางกลับกันน้องน้อยสอนภาษาอังกฤษให้พี่สมจิตรซึ่งจบเพียงชั้นป.4 จนวันนี้พี่สมจิตรตอบเอียงอายว่า "พอได้บ้าง"
กิจกรรมร่วมกันอีกอย่างสำหรับทั้งคู่คือการไปชมคอนเสิร์ต ซึ่งน้องน้อยชอบแดน-บีม ดีทูบีมาก เป็นแฟนคลับวงดีทูบี
วันนี้น้องน้อยเป็นที่รู้จักของคนมากมาย ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร
"ดีใจและภูมิใจด้วย เราดังขนาดนี้เลยหรือ (หัวเราะ) ไม่เคยออกสื่อก็เกร็งพอสมควร เริ่มมีคนเข้ามาทัก เราก็รู้สึกดีใจที่ทำสำเร็จไปขั้นหนึ่งแล้ว ต้องขอบคุณมหาวิทยาลัยราม คำแหงที่ทำให้มีวันนี้"
น้องน้อยบอกเล่าถึงแผนที่วางไว้ในอนาคตว่า "อีกสักพักหนึ่งก็อยากจะเรียนต่อปริญญาโทด้านรัฐศาสตร์ หรือไม่แน่ก็อาจจะทำปริญญาตรีอีกสักใบ ที่คิดไว้ก็เป็นรามคำแหงที่เดิม ที่จริงก็อยากเป็นนายกรัฐมนตรีนะ แต่คงเป็นไปได้ยาก (หัวเราะ)" เธอว่าเป็นเพราะเห็นนายกรัฐมนตรีเป็นผู้หญิงแล้ว จึงลองคิดดูบ้าง
ส่วน "แขน-ขา" ของน้องน้อยบัณฑิตสาว กล่าวสั้นๆ ว่า
"จะอยู่ตรงนี้กับน้อง จนอุ้มเขาไม่ไหว"
http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROc1lXUXdNVEExTURRMU5nPT0=§ionid=TURNeE5BPT0=&day=TWpBeE15MHdOQzB3TlE9PQ==
1.น้องน้อยกับคุณแม่ จากวันวานสู่วันนี้
2.พี่สมจิตร พี่เลี้ยงน้องน้อยร่วมชื่นชมความสำเร็จ
3.บัณฑิต "น้อย"อภิรดี โปร่งใจ
4.ความภูมิใจของครอบครัว
5.เปิดใจ "ข่าวสด"
เพจ ข่าวดี
https://www.facebook.com/pages/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%B5/125262077559921
สัมภาษณ์น้องน้อย บัณฑิตพิการ คุณแม่และพี่เลี้ยง
ล่าสุด นิตยสาร Let"s TALK about ฉบับเดือนเมษายน 2556 นำเสนอเรื่องราวชีวิตของน้องน้อยและวันสำคัญแห่งชีวิตในชื่อเรื่องว่า พระเมตตาพระราชทาน "น้องน้อย"อภิรดี "อยากเป็นนายกฯ"
บทความดังกล่าวบอกเล่าว่า น้องน้อย อภิรดี โปร่งใจ วัย 28 ปี พิการมาตั้งแต่เป็นทารกด้วยอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง เนื่องจากคลอดก่อนกำหนดและต้องอยู่ในตู้อบนานถึง 3 เดือน แต่มีเหตุไฟดับทำให้หัวใจหยุดเต้น สมองขาดออกซิเจนไปชั่วขณะ จนคุณแม่จิราพร โปร่งใจ คิดว่าไม่รอดแล้ว
แต่ในที่สุดหนูน้อยก็รอดพ้นเงื้อมมือมัจจุราชมาจนได้ แต่ผ่านไปได้เพียง 6 เดือน ผู้เป็นแม่ก็รู้ว่าลูกสาวตัวน้อยไม่ได้มีพัฒนาการตามวัย แม่จิราพรจึงต้องอุ้มไปหาหมอทุกที่ที่ร่ำลือว่าดี ทำทุกอย่างที่ต้องทำ
"เราเป็นคนสู้ทุกอย่างในการเลี้ยงดูลูก เมื่อลูกเรามีปัญหาก็ต้อง พาลูกออกสู่สังคม พาไปหลายๆ ที่ ให้เข้ากับสังคมได้ กระเตงเอว ไปห้าง นั่งรถเข็นไป พาเขาไปทุกที่ ไม่เคยให้เขาอยู่คนเดียว ต้องการให้น้อยช่วยเหลือตนเองได้เยอะๆ เพราะต่อไปแม่ก็ต้องอายุมากขึ้น ต้องให้ลูกเรียนรู้ทุกอย่าง ให้อยู่ด้วยตนเองได้ อย่าเป็นภาระคนอื่น และต้องช่วยเหลือสังคม ต้องเป็นผู้ให้ สอนลูกอยู่เสมอว่าต้องเป็น ผู้ให้ จะด้านไหนก็ได้"
ในที่สุดลูกสาวที่อึดต่อโชคชะตาก็พาตัวเองไปถึงจุดฝัน เมื่อเธอสำเร็จปริญญาตรีคณะศึกษาศาสตร์ สาขาจิตวิทยาพัฒนาการจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง อยู่ในรายชื่อผู้เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2556 ที่ผ่านมา
ในพิธีดังกล่าวจะเห็นภาพเธอซึ่งพิการด้วยกล้ามเนื้ออ่อนแรงนั่งอยู่บนรถเข็นพยายามประคองมือเพื่อยื่นออกไปรับพระราชทานปริญญาบัตรให้ได้อยู่ครู่ใหญ่ จนท้ายที่สุดสมเด็จ พระเทพฯ ทรงโน้มพระวรกายลงมาเพื่อพระราชทานปริญญาบัตรใส่มือเธอจนได้ ภาพดังกล่าวทำเอาเจ้าตัวและผู้ใกล้ชิดน้ำตาคลอ
"รู้สึกตื่นเต้น ดีใจ ปลื้มปีติ ทึ่งว่าเป็นไปได้หรือที่ท่านจะทรงทำแบบนี้ สมเด็จพระเทพฯ ตรัสว่า "จับสองมือได้ไหม" น้อยก็ปลื้มแล้วจับสองมือเลย ทีแรกจะจับมือเดียวแต่จับไม่ได้เพราะมือเราเคลื่อนไหวลำบาก พระองค์ท่าน มีรับสั่งให้จับสองมือ น้อยก็จับสองมือเลย พี่สมจิตร (พี่เลี้ยง) เห็นจากวงจรปิดข้างนอกเขาก็ปลื้ม น้ำตาไหลไปด้วย"
น้องน้อยจบชั้นประถมศึกษาจากโรงเรียนศรีสังวาลย์ ปากเกร็ด นนทบุรี และเรียนต่อการศึกษานอกระบบ (กศน.) จนจบระดับมัธยม ก่อนจะศึกษาต่อระดับปริญญาตรีที่มหา วิทยาลัยรามคำแหง ใช้เวลาเรียน 5 ปี สำเร็จการศึกษาด้วยเกรดเฉลี่ย 2.63
เธอมีพี่ชายสองคนซึ่งแต่งงานมีครอบครัวแล้วทั้งคู่ พ่อและแม่แยกทางกัน เธออยู่กับแม่จิราพร เจ้าของกิจการอภิรดี แมนชั่น อพาร์ต เมนต์ให้เช่ากว่า 100 ห้อง ในซอยประชา สงเคราะห์ 2 ย่านห้วยขวาง มี "สมจิตร เสนาพงษ์" วัย 48 ปี เป็นพี่เลี้ยงคอยดูแล 24 ชั่วโมง เรียกได้ว่าเป็นทั้งแขนและขาแทนเธอมานานกว่า 9 ปีแล้ว
น้องน้อยบอกว่าพี่สมจิตรเป็นแขนขา ส่วนเธอเป็นสมอง สองคนจึงมีกิจกรรมร่วมกันแทบทุกอย่าง ตอนเรียนพี่สมจิตรจะพานั่งรถไป ช่วยยกช่วยเข็นขึ้นตึก ถ้าไม่มีทางลาดหรือไม่มีลิฟต์ก็ต้องวานเพื่อนๆ ช่วยพี่สมจิตรอีกแรง
การเรียนจบปริญญาตรีสำหรับเธอจึงเป็นเรื่องน่ายินดียิ่งนัก
"ดีใจมากเพราะว่าเราไม่เหมือนเพื่อน ต้องมีพี่สมจิตรช่วยเล็กเชอร์ให้เรา เหมือนพี่เขาเรียนไปด้วยตลอด (หัวเราะ) เวลาสอบก็จะขออนุญาตอาจารย์ให้พี่สมจิตรเข้าด้วย เพราะไม่สามารถเขียนด้วยตัวเองได้
ในทางกลับกันน้องน้อยสอนภาษาอังกฤษให้พี่สมจิตรซึ่งจบเพียงชั้นป.4 จนวันนี้พี่สมจิตรตอบเอียงอายว่า "พอได้บ้าง"
กิจกรรมร่วมกันอีกอย่างสำหรับทั้งคู่คือการไปชมคอนเสิร์ต ซึ่งน้องน้อยชอบแดน-บีม ดีทูบีมาก เป็นแฟนคลับวงดีทูบี
วันนี้น้องน้อยเป็นที่รู้จักของคนมากมาย ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร
"ดีใจและภูมิใจด้วย เราดังขนาดนี้เลยหรือ (หัวเราะ) ไม่เคยออกสื่อก็เกร็งพอสมควร เริ่มมีคนเข้ามาทัก เราก็รู้สึกดีใจที่ทำสำเร็จไปขั้นหนึ่งแล้ว ต้องขอบคุณมหาวิทยาลัยราม คำแหงที่ทำให้มีวันนี้"
น้องน้อยบอกเล่าถึงแผนที่วางไว้ในอนาคตว่า "อีกสักพักหนึ่งก็อยากจะเรียนต่อปริญญาโทด้านรัฐศาสตร์ หรือไม่แน่ก็อาจจะทำปริญญาตรีอีกสักใบ ที่คิดไว้ก็เป็นรามคำแหงที่เดิม ที่จริงก็อยากเป็นนายกรัฐมนตรีนะ แต่คงเป็นไปได้ยาก (หัวเราะ)" เธอว่าเป็นเพราะเห็นนายกรัฐมนตรีเป็นผู้หญิงแล้ว จึงลองคิดดูบ้าง
ส่วน "แขน-ขา" ของน้องน้อยบัณฑิตสาว กล่าวสั้นๆ ว่า
"จะอยู่ตรงนี้กับน้อง จนอุ้มเขาไม่ไหว"
http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROc1lXUXdNVEExTURRMU5nPT0=§ionid=TURNeE5BPT0=&day=TWpBeE15MHdOQzB3TlE9PQ==
1.น้องน้อยกับคุณแม่ จากวันวานสู่วันนี้
2.พี่สมจิตร พี่เลี้ยงน้องน้อยร่วมชื่นชมความสำเร็จ
3.บัณฑิต "น้อย"อภิรดี โปร่งใจ
4.ความภูมิใจของครอบครัว
5.เปิดใจ "ข่าวสด"
เพจ ข่าวดี
https://www.facebook.com/pages/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%B5/125262077559921