ขอใช้พื่นที่ระบายนิดนึงครับ
ผมมี plan ที่จะแต่งงานในเดือน ก.ค. นี้ครับ ผมกันแฟนคบกันมา 5 ปี
ตอนนี้อะไรๆก็พร้อมแล้ว เลยตัดสินใจแต่งงาน
ตอนแรกผมก็กะว่า จัดแค่พิธีที่จำเป็น นั่นคือ พิธีหมั้น ส่งตัวแบบจีน (บ้านผมคนจีน) เข้าโบสถ์แบบคริสต์
ส่วนงานเลี้ยงเย็น ตอนแรกคิดว่าจะไม่จัด ด้วยเหตุผลที่ว่า เปลืองเงิน ครับ
อย่างมากอาจจะแค่ เปิดร้านอาหาร กินข้าวกันนิดหน่อย ไม่ต้องเชิญแขกมากมาย ไม่ต้องมีเวที ตัดเค้ก อะไรหรอก
ผมกันแฟนคิดว่า มันไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่จะเอาเงินหลายแสนบาทมาผลาญเล่น
จบงาน ก็จบกัน ไม่มีใครจำ โฮเค อาจจะได้ซองมาช่วยก็จริง แต่มันเหนื่อย และเสียเวลามากเลยครับ ไม่ว่าจะหาชุด หาช่างภาพ ช่างแต่งหน้า ฯลฯ
จะว่ากันคนครหาเหรอ ว่าทำไมไม่จัด ท้องก่อนแต่งรึเปล่า ก็ไม่ใช่
เวลาคนอื่นถามว่า แต่งกันรึยัง ก็ตอบว่าแต่งแล้ว จำเป็นมั้ยต้องเอารูปโชว์ด้วยว่าฉันแต่งแล้วนะ ที่นี่ ที่นั่น
พอเอาแนวความคิดนี้ไปคุยกับผู้ใหญ่ พ่อแม่ผม ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไร ไม่จัดก็ไม่จัด
แต่ญาติฝั่งพ่อผม (อา) เค้าบอกไม่จัดได้ยังไง พ่อผมก็มีหน้าที่ใหญ่โต ผมเองก็เรียนมาสูง
อีกอย่าง จัดให้เกียรติฝ่ายหญิง แต่ที่บ้านฝ่ายหญิงบอกว่า งานเลี้ยง ยังไงก็ได้
ผมก็เลยปล่อยไป จัดก็จัด พ่อแม่ผมบอกว่าจะออกค่าใช้จ่ายให้
ผมกับก็เลยเริ่มหาข้อมูล เอาไปเสนอ ว่าถ้าจัด อยากให้งานเป็นแบบนี้ แบบนั้น
ลองเสนอสถานที่ไปสองสามที่ ซึ่ง หลักการเลือกของผมก็ดูที่ความคุ้มค่าเป็นหลัก
ผมลองเสนอที่ที่ผมคิดว่าดีไป นั่นคือ J...... resort&spa ย่านท่าพระ
สถานที่สวย ได้ห้อง grand ball room จากคอมเมนต์ของคนเคยจัดที่นี่บอกว่าสวย อาหารอร่อย
แต่พ่อผมบอกว่า การเดินทางไม่สะดวก รถติด อาหารธรรมดาไป คนไม่รู้จัก ไปยาก
ท่านอยากได้ รร. P.... ย่านอนุสาวรีย์
ผมบอกว่า แล้วรถมันไม่ติดเหมือนกันเหรอ พ่อผมว่า มันติดน้อยกว่า
อีกที่ประหยัดไปห้าหมื่นถึงหนึ่งแสนบาททีเดียวนะ สถานที่ อาหารไม่ได้ต่างกันมากเท่าไร
แค่เรายอมเองสถานที่ที่ไม่ดังหน่อย ประหยัดไปได้เยอะ เอาเงินไปเที่ยว ไปตั้งตัวดีกว่า
ไม่ใช่เฉพาะเรื่องนี้เรื่องเดียว เรื่องอื่นๆก็ดูขัดกันไปหมด
ไม่ว่าจะเป็นธีมของงาน ผมกันแฟนอยากได้สีเขียว
อาผมบอกว่า ให้เลือกสีอื่น ไม่สวย
เรื่องของชำร่วย ผมอยากได้ ของชำร่วยที่ใช้ประโยชน์ได้ มองไว้ที่แก้วเซรามิก
พ่อผมบอกว่าอยากได้ตลับหลุยส์ บอกว่าสวยกว่า ลายแก้วไม่สวย สีหม่นๆ
ผมเคยบอกว่า ถ้าจะเชิญแขก เอาแต่ญาติผู้ใหญ่สำคัญๆ ที่เรารู้จัก เราสนิท ไม่ใช่เอาใครมาไม่รู้
ลูกค้าบ้างอะไรบ้าง ชีวิตนี้เจอกันแค่ในงานแค่นั้นแหละ แล้วก็ไม่เจอกันอีกแล้ว
คือ...ตั้งแต่เริ่มต้นจะจัดงาน ผมกับแฟนเหนื่อยใจมาก ว่าจะต้องคอยเอาใจคนนั้นคนนี้ตลอด
สรุปว่า งานแต่งงานนี่เป็นงานของใคร งานของเราสองคนรึเปล่าครับ หรืองานคนอื่น
ปากก็บอกว่าเป็นงานของสองคน แต่ที่ทำมานี่มันของกี่คนแล้วเนี่ย
งานแต่งงาน งานของใคร
ผมมี plan ที่จะแต่งงานในเดือน ก.ค. นี้ครับ ผมกันแฟนคบกันมา 5 ปี
ตอนนี้อะไรๆก็พร้อมแล้ว เลยตัดสินใจแต่งงาน
ตอนแรกผมก็กะว่า จัดแค่พิธีที่จำเป็น นั่นคือ พิธีหมั้น ส่งตัวแบบจีน (บ้านผมคนจีน) เข้าโบสถ์แบบคริสต์
ส่วนงานเลี้ยงเย็น ตอนแรกคิดว่าจะไม่จัด ด้วยเหตุผลที่ว่า เปลืองเงิน ครับ
อย่างมากอาจจะแค่ เปิดร้านอาหาร กินข้าวกันนิดหน่อย ไม่ต้องเชิญแขกมากมาย ไม่ต้องมีเวที ตัดเค้ก อะไรหรอก
ผมกันแฟนคิดว่า มันไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่จะเอาเงินหลายแสนบาทมาผลาญเล่น
จบงาน ก็จบกัน ไม่มีใครจำ โฮเค อาจจะได้ซองมาช่วยก็จริง แต่มันเหนื่อย และเสียเวลามากเลยครับ ไม่ว่าจะหาชุด หาช่างภาพ ช่างแต่งหน้า ฯลฯ
จะว่ากันคนครหาเหรอ ว่าทำไมไม่จัด ท้องก่อนแต่งรึเปล่า ก็ไม่ใช่
เวลาคนอื่นถามว่า แต่งกันรึยัง ก็ตอบว่าแต่งแล้ว จำเป็นมั้ยต้องเอารูปโชว์ด้วยว่าฉันแต่งแล้วนะ ที่นี่ ที่นั่น
พอเอาแนวความคิดนี้ไปคุยกับผู้ใหญ่ พ่อแม่ผม ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไร ไม่จัดก็ไม่จัด
แต่ญาติฝั่งพ่อผม (อา) เค้าบอกไม่จัดได้ยังไง พ่อผมก็มีหน้าที่ใหญ่โต ผมเองก็เรียนมาสูง
อีกอย่าง จัดให้เกียรติฝ่ายหญิง แต่ที่บ้านฝ่ายหญิงบอกว่า งานเลี้ยง ยังไงก็ได้
ผมก็เลยปล่อยไป จัดก็จัด พ่อแม่ผมบอกว่าจะออกค่าใช้จ่ายให้
ผมกับก็เลยเริ่มหาข้อมูล เอาไปเสนอ ว่าถ้าจัด อยากให้งานเป็นแบบนี้ แบบนั้น
ลองเสนอสถานที่ไปสองสามที่ ซึ่ง หลักการเลือกของผมก็ดูที่ความคุ้มค่าเป็นหลัก
ผมลองเสนอที่ที่ผมคิดว่าดีไป นั่นคือ J...... resort&spa ย่านท่าพระ
สถานที่สวย ได้ห้อง grand ball room จากคอมเมนต์ของคนเคยจัดที่นี่บอกว่าสวย อาหารอร่อย
แต่พ่อผมบอกว่า การเดินทางไม่สะดวก รถติด อาหารธรรมดาไป คนไม่รู้จัก ไปยาก
ท่านอยากได้ รร. P.... ย่านอนุสาวรีย์
ผมบอกว่า แล้วรถมันไม่ติดเหมือนกันเหรอ พ่อผมว่า มันติดน้อยกว่า
อีกที่ประหยัดไปห้าหมื่นถึงหนึ่งแสนบาททีเดียวนะ สถานที่ อาหารไม่ได้ต่างกันมากเท่าไร
แค่เรายอมเองสถานที่ที่ไม่ดังหน่อย ประหยัดไปได้เยอะ เอาเงินไปเที่ยว ไปตั้งตัวดีกว่า
ไม่ใช่เฉพาะเรื่องนี้เรื่องเดียว เรื่องอื่นๆก็ดูขัดกันไปหมด
ไม่ว่าจะเป็นธีมของงาน ผมกันแฟนอยากได้สีเขียว
อาผมบอกว่า ให้เลือกสีอื่น ไม่สวย
เรื่องของชำร่วย ผมอยากได้ ของชำร่วยที่ใช้ประโยชน์ได้ มองไว้ที่แก้วเซรามิก
พ่อผมบอกว่าอยากได้ตลับหลุยส์ บอกว่าสวยกว่า ลายแก้วไม่สวย สีหม่นๆ
ผมเคยบอกว่า ถ้าจะเชิญแขก เอาแต่ญาติผู้ใหญ่สำคัญๆ ที่เรารู้จัก เราสนิท ไม่ใช่เอาใครมาไม่รู้
ลูกค้าบ้างอะไรบ้าง ชีวิตนี้เจอกันแค่ในงานแค่นั้นแหละ แล้วก็ไม่เจอกันอีกแล้ว
คือ...ตั้งแต่เริ่มต้นจะจัดงาน ผมกับแฟนเหนื่อยใจมาก ว่าจะต้องคอยเอาใจคนนั้นคนนี้ตลอด
สรุปว่า งานแต่งงานนี่เป็นงานของใคร งานของเราสองคนรึเปล่าครับ หรืองานคนอื่น
ปากก็บอกว่าเป็นงานของสองคน แต่ที่ทำมานี่มันของกี่คนแล้วเนี่ย