จังหวัดลานช้าง (บางทีก็เรียกว่า จังหวัดล้านช้าง) เป็น ๑ ใน ๔ จังหวัดที่ประเทศไทยได้ดินแดนคืนจากฝรั่งเศสในช่วง พ.ศ.๒๔๘๔ โดยยกท้องที่ดินแดนลาวฝั่งขวาแม่น้ำโขงตรงข้ามกับเมืองหลวงพระบาง ขึ้นเป็นจังหวัด
เดิมพื้นที่นี้ขึ้นอยู่กับมณฑลพายัพในสมัยรัชกาลที่ ๕ และตกอยู่ภายใต้ความปกครองของฝรั่งเศสเมื่อปี พ.ศ.๒๔๔๗ พร้อมกันกับเมืองจำปาสัก
ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ ไทยต้องส่งดินแดนนี้คืนให้แก่ฝรั่งเศส ซึ่งผู้ปกครองประเทศลาวในขณะนั้น ปัจจุบันพื้นที่ดังกล่าวนี้คือ แขวงไซยะบูลี และเมืองจอมเพ็ด แขวงหลวงพระบาง สปป.ลาว
กรมศิลปากรได้กำหนดให้จังหวัดลานช้างใช้ตราประจำจังหวัดเป็นรูปช้างหลายตัวยืนอยู่กลางลานกว้าง โดยคิดรูปตราจากความหมายของชื่อจังหวัดที่แปลว่า “ดินแดนที่มีช้างจำนวนมาก”
จังหวัดลานช้าง ได้แบ่งการปกครองออกเป็น ๖ อำเภอ ตามประกาศเรื่องตั้งอำเภอ ลงวันที่ ๒๓ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๘๔ ดังนี้
๑. อำเภอสมาบุรี ตามเขตอำเภอสมาบุรีเดิม
๒. อำเภออดุลเดชจรัส ตามเขตอำเภอปากลายเดิม ตั้งตามนามของ พลตำรวจเอกหลวงอดุลเดชจรัส (บัตร พึ่งพระคุณ หรือ อดุล อดุลเดชจรัส) อธิบดีกรมตำรวจ และผู้บังคับการตำรวจสนามในกรณีพิพาทอินโดจีน
๓. อำเภอแก่นท้าว ตามเขตอำเภอแก่นท้าวเดิม (ปัจจุบันคือเมืองแก่นท้าวใน สปป.ลาว)
๔. อำเภอเชียงฮ่อน ตามเขตอำเภอเชียงฮ่อนเดิม
๕. อำเภอหาญสงคราม ตามเขตอำเภอหงษาเดิม ตั้งตามนามของ พันเอก หลวงหาญสงคราม (พิชัย หาญสงคราม) ผู้บัญชาการกองพลพายัพ ในกรณีพิพาทอินโดจีน
เขตการปกครองที่ได้จัดไว้นี้ได้ใช้เรื่อยมาจนถึง พ.ศ.๒๔๘๙ โดยไม่มีการปรับปรุงเพิ่มเติมแต่อย่างใด ในระหว่างที่จังหวัดนี้อยู่ในการปกครองของประเทศไทย ได้มีการจัดการเลือกตั้งขึ้น เมื่อ ๖ มกราคม พ.ศ.๒๔๘๙ และ นายสังคม ริมทอง ได้เป็น ส.ส. ของจังหวัดลานช้าง ก่อนจะคืนดินแดนดังกล่าวให้ฝรั่งเศส
..........................
ขอขอบคุณข้อมูลจากเว็บไซต์ Wikipedia Thai มา ณ ที่นี้
ภาพเก่าเล่าเรื่อง (๖๖)
จังหวัดลานช้าง (บางทีก็เรียกว่า จังหวัดล้านช้าง) เป็น ๑ ใน ๔ จังหวัดที่ประเทศไทยได้ดินแดนคืนจากฝรั่งเศสในช่วง พ.ศ.๒๔๘๔ โดยยกท้องที่ดินแดนลาวฝั่งขวาแม่น้ำโขงตรงข้ามกับเมืองหลวงพระบาง ขึ้นเป็นจังหวัด
เดิมพื้นที่นี้ขึ้นอยู่กับมณฑลพายัพในสมัยรัชกาลที่ ๕ และตกอยู่ภายใต้ความปกครองของฝรั่งเศสเมื่อปี พ.ศ.๒๔๔๗ พร้อมกันกับเมืองจำปาสัก
ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ ไทยต้องส่งดินแดนนี้คืนให้แก่ฝรั่งเศส ซึ่งผู้ปกครองประเทศลาวในขณะนั้น ปัจจุบันพื้นที่ดังกล่าวนี้คือ แขวงไซยะบูลี และเมืองจอมเพ็ด แขวงหลวงพระบาง สปป.ลาว
กรมศิลปากรได้กำหนดให้จังหวัดลานช้างใช้ตราประจำจังหวัดเป็นรูปช้างหลายตัวยืนอยู่กลางลานกว้าง โดยคิดรูปตราจากความหมายของชื่อจังหวัดที่แปลว่า “ดินแดนที่มีช้างจำนวนมาก”
จังหวัดลานช้าง ได้แบ่งการปกครองออกเป็น ๖ อำเภอ ตามประกาศเรื่องตั้งอำเภอ ลงวันที่ ๒๓ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๘๔ ดังนี้
๑. อำเภอสมาบุรี ตามเขตอำเภอสมาบุรีเดิม
๒. อำเภออดุลเดชจรัส ตามเขตอำเภอปากลายเดิม ตั้งตามนามของ พลตำรวจเอกหลวงอดุลเดชจรัส (บัตร พึ่งพระคุณ หรือ อดุล อดุลเดชจรัส) อธิบดีกรมตำรวจ และผู้บังคับการตำรวจสนามในกรณีพิพาทอินโดจีน
๓. อำเภอแก่นท้าว ตามเขตอำเภอแก่นท้าวเดิม (ปัจจุบันคือเมืองแก่นท้าวใน สปป.ลาว)
๔. อำเภอเชียงฮ่อน ตามเขตอำเภอเชียงฮ่อนเดิม
๕. อำเภอหาญสงคราม ตามเขตอำเภอหงษาเดิม ตั้งตามนามของ พันเอก หลวงหาญสงคราม (พิชัย หาญสงคราม) ผู้บัญชาการกองพลพายัพ ในกรณีพิพาทอินโดจีน
เขตการปกครองที่ได้จัดไว้นี้ได้ใช้เรื่อยมาจนถึง พ.ศ.๒๔๘๙ โดยไม่มีการปรับปรุงเพิ่มเติมแต่อย่างใด ในระหว่างที่จังหวัดนี้อยู่ในการปกครองของประเทศไทย ได้มีการจัดการเลือกตั้งขึ้น เมื่อ ๖ มกราคม พ.ศ.๒๔๘๙ และ นายสังคม ริมทอง ได้เป็น ส.ส. ของจังหวัดลานช้าง ก่อนจะคืนดินแดนดังกล่าวให้ฝรั่งเศส
..........................
ขอขอบคุณข้อมูลจากเว็บไซต์ Wikipedia Thai มา ณ ที่นี้