พอดีกระทู้ดั้งเดิมที่ตั้ง tag Reuse / อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม / Reduce ที่ห้องกรีนโซนไว้ เผอิญมีเพื่อนๆ หลังไมค์ให้ tag CRM กับ การบริหารจัดการ เพิ่มที่ห้องสีลม ....แต่เข้าไปแก้ tag ในกระทู้เดิมไม่ได้ สงสัยเรายังใช้พันทิปไม่คล่อง
ขออนุญาตตั้งอีกครั้งในห้องนี้ เผื่อเป็นประโยชน์กับผู้เกี่ยวข้อง ไม่ได้มีเจตนาฟลัดกระทู้แต่อย่างใด... ด้วยความเคารพ
-----------------------------------------
ปกติห้างนี้จะเป็นที่มากินข้าว เข้าแบงค์ จ่ายค่าโน่นค่านี่ และกินขนมกาแฟเรื่อยเปื่อยแทบทุกอาทิตย์
ก่อนกลับบ้านก็จะต้องแวะเข้าซุปเปอร์มาร์เก็ตเป็นประจำเพื่อซื้อของเข้าบ้านทั้งของกินของใช้ด้วยทุกครั้ง โดยเฉพาะแม่ที่ชอบที่นี่เหลือเกินเพราะกว้างใหญ่มีเกือบทุกอย่างที่ชอบ แม่จึงมาไม่เคยเบื่อ เวลาพาไปที่อื่นเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศก็มักจะเปรยว่าสู้พารากอนไม่ได้ เราเลยต้องตามใจคนแก่
และทุกครั้ง ลูกค้ารายเล็กๆคนนี้กับแม่ก็จะเอาถุงผ้า ถุงก๊อบแก๊บของห้างติดมือมาจากบ้านเสมอ เพราะถุงที่บ้านเยอะเราจะพับเก็บแยกขนาดไว้เพื่อที่จะเอามาใส่ของซุปเปอร์ครั้งต่อๆไป เพราะตั้งใจจะลดขยะถุงพลาสติกให้มากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ แม้แต่ถุงร้าน Saint ETOILE แม่ก็จะติดมาด้วยเพื่อซื้อขนมปังร้านนี้ใส่จนเต็มถุง
แต่เกือบทุกครั้ง แม่และเราจะพบกับหน้าที่บอกบุญไม่รับเวลาเราบอกไม่เอาถุงพร้อมยื่นถุงผ้ากับถุงก๊อบแก๊บพารากอน(สะอาด)ที่เราเตรียมมาให้ที่แคชเชียร์ และสายตาเบื่อหน่าย(บางครั้งออกจะดูถูก)ของเจ้าหน้าที่ใส่ของที่มักจะเป็นเด็กปฏิบัติงาน ซึ่งทำให้เรากับแม่รู้สึกไม่ดีอย่างมาก

ที่พนักงานเป็นแบบนี้น่าจะเป็นเพราะทางห้างไม่มีการเทรน และไม่มีการให้ความรู้เรื่องโลกร้อนวิธีรักษาสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมกับพนักงาน เราเชื่อว่าถ้าเจ้าหน้าที่เหล่านี้ได้รับความเข้าใจที่เพียงพอมีทัศนคติที่ดี เค้าก็จะไม่ทำหน้าไม่รับแขกเช่นนี้กับลูกค้าเป็นแน่
อ้อ มีเพียงครั้งเดียวที่เรารู้สึกดี มีอยู่คืนหนึ่งหลังเลิกงานเราแวะซื้ออาหารและเอากระเป๋าความเย็นใบเก่าพร้อมถุงยื่นให้เจ้าหน้าที่เป็นปกติ น้องที่ทำหน้าที่ใส่ของพูดด้วยความชอบใจว่า "น่ารักจังกระเป๋าแบบนี้เก็บความเย็นด้วยยังงี้ดีกับอาหาร" แล้วก็ส่งยิ้มให้เรา แคชเชียร์ก็พลอยยิ้มไปด้วย ลูกค้าที่ต่อท้ายตามมาก็เอ่ยปากว่า "ไว้จะเอามาบ้างที่บ้านมีอยู่ใบหนึ่งไม่รู้จะเอาไปใช้ที่ไหน ต่อไปมาซุปเปอร์จะเอามาใช้" แล้วก็ยิ้ม บรรยากาศรอบๆดีขึ้นทันทีต่างกับที่เคยเจอมา
อีกเรื่องที่จะเห็นประจำ เจ้าหน้าที่เหล่านี้ชอบจะหยิบถุงใหม่มาใส่ของแค่ไม่กี่ชิ้นแล้วหยิบถุงใหม่มาใส่ซึ่งถือเป็นการสิ้นเปลืองมาก หากเจ้าหน้าที่หยิบของใส่ถุงโดยใส่ใจสังเกตุว่าสินค้าพวกไหนควรอยู่ด้วยกัน และวางให้เรียบร้อยไม่ใช่จับโยนหัวทิ่มให้หกเลอะเทอะ ก็จะได้รับความพอใจจากลูกค้าแน่นอน นอกจากนี้ยังเร็วด้วยเพราะเห็นบ่อยๆที่ลูกค้าหลายเจ้ามักจะตาเขียวต้องเข้ามาขอจัดเรียงเองใหม่เพื่อไม่ให้ของที่ซื้อเสียหาย เพราะเจ้าหน้าที่บางคนไม่ใส่ใจหยิบของใส่ถุงหกคะเมนตีลังกา
ทั้งหมดนี้ ไม่ได้ต้องการคำชมว่ารักษ์โลกหรือคำเยินยอใดๆจากเจ้าหน้าที่ประจำแคชเชียร์พารากอน แค่อยากจะบอกว่าการฝึกพนักงานให้มีความรู้ความเข้าใจที่เหมาะสมจะดีกับทุกฝ่าย ที่สำคัญห้างมีแต่ได้กับได้ คือลูกค้าพึงพอใจที่จะมาใช้บริการต่อ ไม่เปลืองถุงของห้างเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายได้ดีมากทีเดียว ข้อสุดท้ายพวกเราทุกฝ่ายได้มีส่วนช่วยกันลดขยะพลาสติกจริงๆ ทำให้ลูกค้าคนอื่นๆไม่อายที่จะพกและกล้าที่ใช้ถุงก๊อบแก๊บซ้ำอย่างภูมิใจ (ไม่ใช่มีโฆษณาป้ายใหญ่ทำไว้สวยตั้งหน้าทางเข้าซุปเปอร์ว่าห้างรณรงค์รักษ์โลกงดใช้ถุงพลาสติกทุกวันพุธ ลูกค้าพกถุงผ้ามาได้ลดหนึ่งบาท ตามที่ห้างต้องการสร้างภาพลักษณ์)
ขอฝากจากใจลูกค้าไทยรายเล็กๆรายนี้ถึงห้างพารากอน ห้างนี้อาจจะมียอดขายมหาศาลจากชาวต่างชาติ แต่ที่เรายังอุดหนุนซุปเปอร์นี้เพราะยังไงก็เป็นของคนไทย(มั๊ง) ซุปเปอร์อื่นเหมือนจะเป็นของต่างชาติไปหมดแล้ว(หรือเปล่า) เคยแวะซุปเปอร์อื่น เพียงรอยยิ้มพร้อมคำพูดสั้นๆของแคชเชียร์คนเดียวทั้งคิดตังค์และใส่ของว่า "ขอบคุณนะคะที่ช่วยกันลดใช้ถุงพลาสติก" ทำให้เรารู้สึกดีขึ้นมาทันที (และที่ดีไปกว่านั้นสำหรับซุปเปอร์เจ้านี้คือเค้ากำลังจะได้ลูกค้าขาประจำใหม่) เราอยากมาอุดหนุนซื้อของที่นี่เพราะรู้สึกเค้ารณรงค์จริงจัง เสียดายที่ร้านไม่อยู่ในเส้นเดินทางปกติ
การบริหารจัดการประสบการณ์ลูกค้าให้มีความรู้สึกมีสัมพันธ์ที่ดีกับองค์กรเป็นสิ่งสำคัญในยุคที่การแข่งขันสูง และหาความภักดีในแบรนด์ได้ยาก .......ฝากไว้
ขอฝากจากใจลูกค้ารายเล็กๆ ถึงผู้บริหารพารากอน
ขออนุญาตตั้งอีกครั้งในห้องนี้ เผื่อเป็นประโยชน์กับผู้เกี่ยวข้อง ไม่ได้มีเจตนาฟลัดกระทู้แต่อย่างใด... ด้วยความเคารพ
-----------------------------------------
ปกติห้างนี้จะเป็นที่มากินข้าว เข้าแบงค์ จ่ายค่าโน่นค่านี่ และกินขนมกาแฟเรื่อยเปื่อยแทบทุกอาทิตย์
ก่อนกลับบ้านก็จะต้องแวะเข้าซุปเปอร์มาร์เก็ตเป็นประจำเพื่อซื้อของเข้าบ้านทั้งของกินของใช้ด้วยทุกครั้ง โดยเฉพาะแม่ที่ชอบที่นี่เหลือเกินเพราะกว้างใหญ่มีเกือบทุกอย่างที่ชอบ แม่จึงมาไม่เคยเบื่อ เวลาพาไปที่อื่นเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศก็มักจะเปรยว่าสู้พารากอนไม่ได้ เราเลยต้องตามใจคนแก่
และทุกครั้ง ลูกค้ารายเล็กๆคนนี้กับแม่ก็จะเอาถุงผ้า ถุงก๊อบแก๊บของห้างติดมือมาจากบ้านเสมอ เพราะถุงที่บ้านเยอะเราจะพับเก็บแยกขนาดไว้เพื่อที่จะเอามาใส่ของซุปเปอร์ครั้งต่อๆไป เพราะตั้งใจจะลดขยะถุงพลาสติกให้มากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ แม้แต่ถุงร้าน Saint ETOILE แม่ก็จะติดมาด้วยเพื่อซื้อขนมปังร้านนี้ใส่จนเต็มถุง
แต่เกือบทุกครั้ง แม่และเราจะพบกับหน้าที่บอกบุญไม่รับเวลาเราบอกไม่เอาถุงพร้อมยื่นถุงผ้ากับถุงก๊อบแก๊บพารากอน(สะอาด)ที่เราเตรียมมาให้ที่แคชเชียร์ และสายตาเบื่อหน่าย(บางครั้งออกจะดูถูก)ของเจ้าหน้าที่ใส่ของที่มักจะเป็นเด็กปฏิบัติงาน ซึ่งทำให้เรากับแม่รู้สึกไม่ดีอย่างมาก
อ้อ มีเพียงครั้งเดียวที่เรารู้สึกดี มีอยู่คืนหนึ่งหลังเลิกงานเราแวะซื้ออาหารและเอากระเป๋าความเย็นใบเก่าพร้อมถุงยื่นให้เจ้าหน้าที่เป็นปกติ น้องที่ทำหน้าที่ใส่ของพูดด้วยความชอบใจว่า "น่ารักจังกระเป๋าแบบนี้เก็บความเย็นด้วยยังงี้ดีกับอาหาร" แล้วก็ส่งยิ้มให้เรา แคชเชียร์ก็พลอยยิ้มไปด้วย ลูกค้าที่ต่อท้ายตามมาก็เอ่ยปากว่า "ไว้จะเอามาบ้างที่บ้านมีอยู่ใบหนึ่งไม่รู้จะเอาไปใช้ที่ไหน ต่อไปมาซุปเปอร์จะเอามาใช้" แล้วก็ยิ้ม บรรยากาศรอบๆดีขึ้นทันทีต่างกับที่เคยเจอมา
อีกเรื่องที่จะเห็นประจำ เจ้าหน้าที่เหล่านี้ชอบจะหยิบถุงใหม่มาใส่ของแค่ไม่กี่ชิ้นแล้วหยิบถุงใหม่มาใส่ซึ่งถือเป็นการสิ้นเปลืองมาก หากเจ้าหน้าที่หยิบของใส่ถุงโดยใส่ใจสังเกตุว่าสินค้าพวกไหนควรอยู่ด้วยกัน และวางให้เรียบร้อยไม่ใช่จับโยนหัวทิ่มให้หกเลอะเทอะ ก็จะได้รับความพอใจจากลูกค้าแน่นอน นอกจากนี้ยังเร็วด้วยเพราะเห็นบ่อยๆที่ลูกค้าหลายเจ้ามักจะตาเขียวต้องเข้ามาขอจัดเรียงเองใหม่เพื่อไม่ให้ของที่ซื้อเสียหาย เพราะเจ้าหน้าที่บางคนไม่ใส่ใจหยิบของใส่ถุงหกคะเมนตีลังกา
ทั้งหมดนี้ ไม่ได้ต้องการคำชมว่ารักษ์โลกหรือคำเยินยอใดๆจากเจ้าหน้าที่ประจำแคชเชียร์พารากอน แค่อยากจะบอกว่าการฝึกพนักงานให้มีความรู้ความเข้าใจที่เหมาะสมจะดีกับทุกฝ่าย ที่สำคัญห้างมีแต่ได้กับได้ คือลูกค้าพึงพอใจที่จะมาใช้บริการต่อ ไม่เปลืองถุงของห้างเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายได้ดีมากทีเดียว ข้อสุดท้ายพวกเราทุกฝ่ายได้มีส่วนช่วยกันลดขยะพลาสติกจริงๆ ทำให้ลูกค้าคนอื่นๆไม่อายที่จะพกและกล้าที่ใช้ถุงก๊อบแก๊บซ้ำอย่างภูมิใจ (ไม่ใช่มีโฆษณาป้ายใหญ่ทำไว้สวยตั้งหน้าทางเข้าซุปเปอร์ว่าห้างรณรงค์รักษ์โลกงดใช้ถุงพลาสติกทุกวันพุธ ลูกค้าพกถุงผ้ามาได้ลดหนึ่งบาท ตามที่ห้างต้องการสร้างภาพลักษณ์)
ขอฝากจากใจลูกค้าไทยรายเล็กๆรายนี้ถึงห้างพารากอน ห้างนี้อาจจะมียอดขายมหาศาลจากชาวต่างชาติ แต่ที่เรายังอุดหนุนซุปเปอร์นี้เพราะยังไงก็เป็นของคนไทย(มั๊ง) ซุปเปอร์อื่นเหมือนจะเป็นของต่างชาติไปหมดแล้ว(หรือเปล่า) เคยแวะซุปเปอร์อื่น เพียงรอยยิ้มพร้อมคำพูดสั้นๆของแคชเชียร์คนเดียวทั้งคิดตังค์และใส่ของว่า "ขอบคุณนะคะที่ช่วยกันลดใช้ถุงพลาสติก" ทำให้เรารู้สึกดีขึ้นมาทันที (และที่ดีไปกว่านั้นสำหรับซุปเปอร์เจ้านี้คือเค้ากำลังจะได้ลูกค้าขาประจำใหม่) เราอยากมาอุดหนุนซื้อของที่นี่เพราะรู้สึกเค้ารณรงค์จริงจัง เสียดายที่ร้านไม่อยู่ในเส้นเดินทางปกติ
การบริหารจัดการประสบการณ์ลูกค้าให้มีความรู้สึกมีสัมพันธ์ที่ดีกับองค์กรเป็นสิ่งสำคัญในยุคที่การแข่งขันสูง และหาความภักดีในแบรนด์ได้ยาก .......ฝากไว้