อยากให้ชีวิตมีปุ่ม reset จัง หรือชีวิตจะถึงทางตันแล้วจริงๆ
ขอปรับทุกข์หน่อยนะคะ ร่ายยาวเลยทีเดียว ไม่รู้ว่าจะไประบายที่ไหนดี ชีวิตที่ผ่านมา ชีวิตวัยเด็ก ครอบครัวค่อนข้างไปทางยากจนค่ะ
แต่ยังโชคดีอยู่บ้างที่มีบ้านที่เจ้าของเค้าให้อยู่ โดยไม่ต้องเสียค่าเช่า และครอบครัวอบอุ่นดี พ่อแม่มีอาชีพรับจ้าง ทำมาหาเลี้ยงลูก 2 คน
ด้วยเงินเดือน เดือนล่ะไม่กี่พันบาท กระเบียดกระเสียน มาจนส่งเราและน้องเรียนจนจบมหาวิทยาลัย ตอนเรียนมหาวิทยาลัย เราต้องใช้เงินกยศ
ไม่งั้นคงเรียนไม่จบ ทำให้เราเป็นคนที่คิดตลอดเวลา สักวันเราจะต้องซื้อบ้านให้พ่อ แม่ และน้องได้อยู่ พ่อแม่เหนื่อยกับเรามาทั้งชีวิตแล้ว
อยากให้ท่านได้พักผ่อนบ้าง
เราเป็นคนที่เรียนค่อนข้างดี จบมาก็ได้งานทำทันที แต่เงินเดือนก็ไม่ได้เยอะอะไร เดือนล่ะ 9000 ทำอยู่ 5-6 ปี ได้ 15000 เดือนๆนึง
ก็ใช้แบบเดือนชนเดือน เราเลยตัดสินใจหาที่ทำงานใหม่ แต่เข้ามาในเมือง เราได้เงินเดือนเพิ่มขึ้นอีกเป็นหมื่น พอเริ่มมีเงินเก็บบ้าง
ก็เลยเริ่มทำธุรกิจ ขายของออนไลน์ ในตอนแรกที่เราเริ่มขาย เราใช้เงินทุนแค่หมื่นกว่าบาท ยอดขายเพิ่มเป็น 3-4 แสนต่อเดือน
กำไร 4-5 หมื่น ตอนนั้นเหนื่อยมากเลยลาออกจากงานประจำ ขายไปปีกว่า เราเห็นว่ารายได้คงที่ และมีขยับขึ้นบ้าง เราเลยตัดสินใจซื้อบ้าน
เพื่อเป็นรางวัลชีวิตให้กับตัวเองและพ่อแม่ ประกอบกับว่า บ้านหลังที่เคยอยู่เจ้าของเค้าจะรื้อสร้างเป็นคอนโดขาย ถ้าเราไม่ซื้อบ้าน
ก็ไม่มีที่อยู่ ถ้าไปเช่าก็คงจะเกือบหมื่นต่อเดือน
การซื้อบ้านนี่เอง ทำให้เรามีค่าใช้จ่ายในการผ่อนบ้านเพิ่มขึ้น เงินที่พอมีเก็บก็เอาไปดาวน์บ้าน จนเหลือไม่เท่าไหร่ ระยะแรกๆ
ก็สบายๆ ผ่านไปเกือบปี โดนพิษม๊อบ ทำให้การค้าขายนิ่งไประยะนึง แต่ก็ผ่านมาได้ สุดท้ายมาเจอพิษหนักก็ตอนน้ำท่วม
ทำให้เราไม่สามารถส่งของได้เลย ยอดขายตกฮวบ จนต้องเอาเงินเก็บออกมาจ่ายค่าผ่อนบ้านและค่าใช้จ่ายอื่นๆ โดยที่เราไม่ได้บอกที่บ้านเลย ว่ามีปัญหาอะไร เรากลัวพ่อแม่จะเป็นกังวล และรู้ว่า ถึงบอกไปเค้าก็ช่วยอะไรเราไม่ได้มาก เพราะเงินเดือนจากการทำงานของพ่อกับแม่ก็น้อยนิด แค่จ่ายค่าน้ำไฟ ค่านั่นนี่ ก็แทบจะไม่เหลือแล้ว ช่วงน้ำท่วม 2-3 เดือน แทบไม่มีรายได้เข้ามา มีแต่รายจ่าย
ระหว่างนั้นเราหมุนเงินจนเหนื่อย ทางเลือกที่เราคิดผิดที่สุดคือ เราไปกู้นอกระบบมาสามแสน เพื่อเอามาหมุนซื้อของมาขาย และผ่อนบ้าน
เรื่องนี้ที่บ้านไม่มีใครรู้ เราไม่อยากให้เค้ากังวล แต่ดันขายไม่ดีเท่าเดิม เพราะแม่ค้าออนไลน์ผุดขึ้นมากมาย มีแต่คนขายเต็มไปหมด
จนเรากลับไปทำงานประจำอีกครั้งควบคู่กับขายของออนไลน์ เงินเดือนเราก็พอผ่อนบ้าน จ่ายดอกเบี้ย นอกระบบ ซึ่งไม่ได้จ่ายเงินต้นเลย
พ่อกับแม่เริ่มเห็นว่า เรามีปัญหาทางการเงิน ขายของได้ไม่ดี ท่านเลยช่วยเราผ่อนบ้านครึ่งนึง แค่นั้นเงินเดือนที่ท่านได้ก็แทบจะไม่เหลือแล้ว
ส่วนค่าใช้จ่ายส่วนตัวของเรา เช่นค่ากิน ค่าเดินทางไปทำงาน เดือนๆนึงเราใช้ ไม่เกิน 4000 บาท เสื้อผ้า นี่ไม่ได้ซื้อเลย ใส่ตัวเดิมมาปีกว่าแล้ว ไปเที่ยวหรือนัดกินข้าวกับเพื่อนนี่ อย่าหวัง เพราะลำพัง ค่าเดินทาง ค่าข้าวกลางวัน ก็แทบจะไม่พอแล้วในแต่ละเดือน ขายของออนไลน์
ก็รายได้ไม่แน่นอน เราไม่ได้สั่งของมาเพิ่ม เพราะไม่มีทุนจะสั่ง ได้แต่ขายของในสต๊อคกินไปเดือนๆ
แล้วคราวเคราะห์ก็มาเยือนเรา เมื่อเจ้าหนี้นอกระบบลุกขึ้นมา อยากจะได้เงินก้อนนั้นคืนทั้งหมด เราพยายามบอกว่า เราไม่มีเงินต้น
เพราะถ้ามีเราคงจ่ายไปแล้วแหละ ไม่มานั่งจ่ายดอกทุกเดือนๆ หรอก นับๆ ดูแล้วเราจ่ายดอกไป จะเท่าเงินต้นที่กู้มาแล้ว แต่เจ้าหนี้ยืนยันว่า
จะให้จ่ายให้ได้ ชีวิตเรามืดมนเลยทีเดียว หาทางออกไม่เจอ ปรึกษาพ่อกับแม่ เค้าก็ไม่สามารถหามาให้ได้ พ่อกับแม่ทุกข์หนัก เครียดกินไม่ได้
นอนไม่หลับ เรากลัวว่าเค้าจะล้มป่วย ไปก็จะแย่กันอีก น้องก็ช่วยอะไรไม่ได้ เพิ่งจะเรียนจบทำงานได้ไม่กี่เดือน เงินเดือนหมื่นต้นๆ
เจ้าหนี้ทวงทุกวัน ตอนนี้ไม่มีกะจิตกะใจจะทำงาน บางครั้งก็คิดอยากขายไต เอาเงินมาใช้หนี้ให้จบๆ กันไป อยากตายให้พ้นๆ ไปก็มี
แต่เราก็ยังหวังว่า ความดีจะช่วยให้เราค้นพบทางออกสักที หรือมีคนใจดีให้เราหยิบยืมเงินมาใช้หนี้ไปก่อน แต่ก็คงเป็นได้แค่ฝันลมๆ แล้งๆ
พอคิดว่าอยากจะขอสินเชื่อธนาคารมาใช้หนี้ ก็ทำไม่ได้ เพราะเราดันไปยื่นขอประนอมหนี้กับบัตรเครดิตไว้ ทำให้เราติดเครดิตบูโร ด้วยยอดหนี้ สามหมื่นกว่าบาท ทำธุรกรรมอะไรไม่ได้เลย ทรัพย์สินอะไร ก็ไม่มี ทางตันของเราแล้วจริงๆ พอเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นทำให้เรารู้ว่า ตัวเองไม่มีเพื่อนแท้เลยสักคนตอนที่เราเป็นอยู่สุข สบาย มีเพื่อนมากมาย แต่พอเราทุกข์ ต้องการความช่วยเหลือ เรากลับไม่เหลือใครเลย
สุดท้าย เราควรทำยังไงกับชีวิตดี จะหาเงินมาใช้หนี้เจ้าหนี้ยังไง เครียดๆๆๆๆๆ ทั้งๆที่เรามีโปรเจคจะหารายได้พิเศษมากมาย แต่โปรเจคเหล่านั้น ก็ต้องใช้เงินทุน เราไม่มีเงินไปลงทุน เจ้าหนี้ก็ไม่เหลือเวลาให้เราได้หาเงินอีก เราไม่อยากจะหนีหนี้ เพราะเราก็เห็นใจเจ้าหนี้ ตอนขอกู้เค้า เราเดือดร้อน เค้าก็ให้ความช่วยเหลือมา เราคงหนีหนี้ เค้าไม่ลง แต่โดนตามทวงทุกวันขนาดนี้ เราไม่เป็นอันทำอะไรเลย วันๆในหัวมีแต่เรื่องหนี้ๆๆๆๆๆ เมื่อไหร่โชคจะเข้าข้างเราบ้างน้อ
อยากให้ชีวิตมีปุ่ม reset จัง หรือชีวิตจะถึงทางตันแล้วจริงๆ
ขอปรับทุกข์หน่อยนะคะ ร่ายยาวเลยทีเดียว ไม่รู้ว่าจะไประบายที่ไหนดี ชีวิตที่ผ่านมา ชีวิตวัยเด็ก ครอบครัวค่อนข้างไปทางยากจนค่ะ
แต่ยังโชคดีอยู่บ้างที่มีบ้านที่เจ้าของเค้าให้อยู่ โดยไม่ต้องเสียค่าเช่า และครอบครัวอบอุ่นดี พ่อแม่มีอาชีพรับจ้าง ทำมาหาเลี้ยงลูก 2 คน
ด้วยเงินเดือน เดือนล่ะไม่กี่พันบาท กระเบียดกระเสียน มาจนส่งเราและน้องเรียนจนจบมหาวิทยาลัย ตอนเรียนมหาวิทยาลัย เราต้องใช้เงินกยศ
ไม่งั้นคงเรียนไม่จบ ทำให้เราเป็นคนที่คิดตลอดเวลา สักวันเราจะต้องซื้อบ้านให้พ่อ แม่ และน้องได้อยู่ พ่อแม่เหนื่อยกับเรามาทั้งชีวิตแล้ว
อยากให้ท่านได้พักผ่อนบ้าง
เราเป็นคนที่เรียนค่อนข้างดี จบมาก็ได้งานทำทันที แต่เงินเดือนก็ไม่ได้เยอะอะไร เดือนล่ะ 9000 ทำอยู่ 5-6 ปี ได้ 15000 เดือนๆนึง
ก็ใช้แบบเดือนชนเดือน เราเลยตัดสินใจหาที่ทำงานใหม่ แต่เข้ามาในเมือง เราได้เงินเดือนเพิ่มขึ้นอีกเป็นหมื่น พอเริ่มมีเงินเก็บบ้าง
ก็เลยเริ่มทำธุรกิจ ขายของออนไลน์ ในตอนแรกที่เราเริ่มขาย เราใช้เงินทุนแค่หมื่นกว่าบาท ยอดขายเพิ่มเป็น 3-4 แสนต่อเดือน
กำไร 4-5 หมื่น ตอนนั้นเหนื่อยมากเลยลาออกจากงานประจำ ขายไปปีกว่า เราเห็นว่ารายได้คงที่ และมีขยับขึ้นบ้าง เราเลยตัดสินใจซื้อบ้าน
เพื่อเป็นรางวัลชีวิตให้กับตัวเองและพ่อแม่ ประกอบกับว่า บ้านหลังที่เคยอยู่เจ้าของเค้าจะรื้อสร้างเป็นคอนโดขาย ถ้าเราไม่ซื้อบ้าน
ก็ไม่มีที่อยู่ ถ้าไปเช่าก็คงจะเกือบหมื่นต่อเดือน
การซื้อบ้านนี่เอง ทำให้เรามีค่าใช้จ่ายในการผ่อนบ้านเพิ่มขึ้น เงินที่พอมีเก็บก็เอาไปดาวน์บ้าน จนเหลือไม่เท่าไหร่ ระยะแรกๆ
ก็สบายๆ ผ่านไปเกือบปี โดนพิษม๊อบ ทำให้การค้าขายนิ่งไประยะนึง แต่ก็ผ่านมาได้ สุดท้ายมาเจอพิษหนักก็ตอนน้ำท่วม
ทำให้เราไม่สามารถส่งของได้เลย ยอดขายตกฮวบ จนต้องเอาเงินเก็บออกมาจ่ายค่าผ่อนบ้านและค่าใช้จ่ายอื่นๆ โดยที่เราไม่ได้บอกที่บ้านเลย ว่ามีปัญหาอะไร เรากลัวพ่อแม่จะเป็นกังวล และรู้ว่า ถึงบอกไปเค้าก็ช่วยอะไรเราไม่ได้มาก เพราะเงินเดือนจากการทำงานของพ่อกับแม่ก็น้อยนิด แค่จ่ายค่าน้ำไฟ ค่านั่นนี่ ก็แทบจะไม่เหลือแล้ว ช่วงน้ำท่วม 2-3 เดือน แทบไม่มีรายได้เข้ามา มีแต่รายจ่าย
ระหว่างนั้นเราหมุนเงินจนเหนื่อย ทางเลือกที่เราคิดผิดที่สุดคือ เราไปกู้นอกระบบมาสามแสน เพื่อเอามาหมุนซื้อของมาขาย และผ่อนบ้าน
เรื่องนี้ที่บ้านไม่มีใครรู้ เราไม่อยากให้เค้ากังวล แต่ดันขายไม่ดีเท่าเดิม เพราะแม่ค้าออนไลน์ผุดขึ้นมากมาย มีแต่คนขายเต็มไปหมด
จนเรากลับไปทำงานประจำอีกครั้งควบคู่กับขายของออนไลน์ เงินเดือนเราก็พอผ่อนบ้าน จ่ายดอกเบี้ย นอกระบบ ซึ่งไม่ได้จ่ายเงินต้นเลย
พ่อกับแม่เริ่มเห็นว่า เรามีปัญหาทางการเงิน ขายของได้ไม่ดี ท่านเลยช่วยเราผ่อนบ้านครึ่งนึง แค่นั้นเงินเดือนที่ท่านได้ก็แทบจะไม่เหลือแล้ว
ส่วนค่าใช้จ่ายส่วนตัวของเรา เช่นค่ากิน ค่าเดินทางไปทำงาน เดือนๆนึงเราใช้ ไม่เกิน 4000 บาท เสื้อผ้า นี่ไม่ได้ซื้อเลย ใส่ตัวเดิมมาปีกว่าแล้ว ไปเที่ยวหรือนัดกินข้าวกับเพื่อนนี่ อย่าหวัง เพราะลำพัง ค่าเดินทาง ค่าข้าวกลางวัน ก็แทบจะไม่พอแล้วในแต่ละเดือน ขายของออนไลน์
ก็รายได้ไม่แน่นอน เราไม่ได้สั่งของมาเพิ่ม เพราะไม่มีทุนจะสั่ง ได้แต่ขายของในสต๊อคกินไปเดือนๆ
แล้วคราวเคราะห์ก็มาเยือนเรา เมื่อเจ้าหนี้นอกระบบลุกขึ้นมา อยากจะได้เงินก้อนนั้นคืนทั้งหมด เราพยายามบอกว่า เราไม่มีเงินต้น
เพราะถ้ามีเราคงจ่ายไปแล้วแหละ ไม่มานั่งจ่ายดอกทุกเดือนๆ หรอก นับๆ ดูแล้วเราจ่ายดอกไป จะเท่าเงินต้นที่กู้มาแล้ว แต่เจ้าหนี้ยืนยันว่า
จะให้จ่ายให้ได้ ชีวิตเรามืดมนเลยทีเดียว หาทางออกไม่เจอ ปรึกษาพ่อกับแม่ เค้าก็ไม่สามารถหามาให้ได้ พ่อกับแม่ทุกข์หนัก เครียดกินไม่ได้
นอนไม่หลับ เรากลัวว่าเค้าจะล้มป่วย ไปก็จะแย่กันอีก น้องก็ช่วยอะไรไม่ได้ เพิ่งจะเรียนจบทำงานได้ไม่กี่เดือน เงินเดือนหมื่นต้นๆ
เจ้าหนี้ทวงทุกวัน ตอนนี้ไม่มีกะจิตกะใจจะทำงาน บางครั้งก็คิดอยากขายไต เอาเงินมาใช้หนี้ให้จบๆ กันไป อยากตายให้พ้นๆ ไปก็มี
แต่เราก็ยังหวังว่า ความดีจะช่วยให้เราค้นพบทางออกสักที หรือมีคนใจดีให้เราหยิบยืมเงินมาใช้หนี้ไปก่อน แต่ก็คงเป็นได้แค่ฝันลมๆ แล้งๆ
พอคิดว่าอยากจะขอสินเชื่อธนาคารมาใช้หนี้ ก็ทำไม่ได้ เพราะเราดันไปยื่นขอประนอมหนี้กับบัตรเครดิตไว้ ทำให้เราติดเครดิตบูโร ด้วยยอดหนี้ สามหมื่นกว่าบาท ทำธุรกรรมอะไรไม่ได้เลย ทรัพย์สินอะไร ก็ไม่มี ทางตันของเราแล้วจริงๆ พอเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นทำให้เรารู้ว่า ตัวเองไม่มีเพื่อนแท้เลยสักคนตอนที่เราเป็นอยู่สุข สบาย มีเพื่อนมากมาย แต่พอเราทุกข์ ต้องการความช่วยเหลือ เรากลับไม่เหลือใครเลย
สุดท้าย เราควรทำยังไงกับชีวิตดี จะหาเงินมาใช้หนี้เจ้าหนี้ยังไง เครียดๆๆๆๆๆ ทั้งๆที่เรามีโปรเจคจะหารายได้พิเศษมากมาย แต่โปรเจคเหล่านั้น ก็ต้องใช้เงินทุน เราไม่มีเงินไปลงทุน เจ้าหนี้ก็ไม่เหลือเวลาให้เราได้หาเงินอีก เราไม่อยากจะหนีหนี้ เพราะเราก็เห็นใจเจ้าหนี้ ตอนขอกู้เค้า เราเดือดร้อน เค้าก็ให้ความช่วยเหลือมา เราคงหนีหนี้ เค้าไม่ลง แต่โดนตามทวงทุกวันขนาดนี้ เราไม่เป็นอันทำอะไรเลย วันๆในหัวมีแต่เรื่องหนี้ๆๆๆๆๆ เมื่อไหร่โชคจะเข้าข้างเราบ้างน้อ