ตื่นเถิด..หนังไทย(ทั้งหลาย)

นับเป็นข่าวดีระดับมหาเฮงกันไปเลย เมื่อผลงานภาพยนตร์ไทยเรื่อง "พี่มาก..พระโขนง" เก็บรายได้ทะลุ 100 ล้านบาท ทั้งที่เข้าฉายตามโรงต่างๆ ทั่วประเทศเพียง 4 วัน ..เตรียมจะสร้างสถิติใหม่ให้กับวงการอุตสาหกรรมหนังไทย

ถ้าจะหาเหตุผลว่าทำไมหนังฟอร์มที่ดูเล็กๆ แต่หน้าตาผู้สร้างออกการันตี ถึงทำเงินระดับพี่มากขนาดนี้(จริงๆ)ในเวลาเพียงแวบเดียว

ไม่ใช่เป็นเพราะว่าหนังที่เข้าฉายอยู่ในช่วงที่ตลาดหนังไทยกันเองอยู่ในสภาวะอ้างว้าง แข่งขันกันน้อย หรือมีความหนาแน่นน้อยกว่าเมื่อปีที่แล้ว(หมายถึงจำนวนหนัง) ไม่ค่อยมีความเคลื่อนไหวต่างๆ มากเท่าที่ควร คนดูจึงตกอยู่ในอาการคนขี้เหงาเข้าใจบ้างสิ

ก็คงจะเป็นเพราะช่วงที่หนังเรื่องนี้ฉายอยู่ในอากาศอันเร่าร้อนอย่างยิ่ง ทำให้ผู้คนไม่ยอมหมกอยู่ในบ้าน ถ้าหากว่าวิธีหนึ่งที่ช่วยแก้ตัวร้อนได้คือ การออกไปดูหนังในโรงภาพยนตร์ที่อุดมไปด้วยอากาศเย็นๆ จากช่องแอร์

และน่าจะเป็นวิธีที่ดูจะอยู่ในอันดับต้นๆ ไปแล้ว ถ้ามีการทำแบบสำรวจสำมะโน

แล้วยิ่งเป็นหนังที่ดัดแปลงหรือได้รับแรงบันดาลใจจากนิยายอันคุ้นหูเข้ามาฉายในจังหวะเวลานี้ แถมดึงดาราระดับฮอตจริงๆ (กระทั่งเป็นข่าวรักนอกจอ) มาแสดงนำ โอกาสที่จะทำรายได้ก็ไม่ต้องเป็นห่วงเลยว่าเจ๊ง

สำหรับกรณีของ พี่มาก..พระโขนง เป็นหนังผีตลกสนุกสนาน ที่ไม่ต้องขายชื่อ โก๊ะตี๋ น้าค่อม น้ารงค์ น้าหม่ำ เท่ง โหน่ง ตุ๊กกี้ หรือน้าโย่ง ให้จะๆ ตา ก็เอาคนหล่อๆ เท่ๆ ในค่ายมาเล่นตลกกันเองจนเป็นสูตรสำเร็จ ก็(ไม่)น่าเชื่อว่าจะทำเงินถึงขนาดนี้

นั่นก็น่าจะแสดงให้เห็นว่า ด้วยรายได้ที่มากยิ่งกว่ามากของพี่มาก.. ก็น่าจะช่วยให้วงการหนังไทยเติบโต และน่าจะตื่นตัวกันได้แล้ว!!

โดยเฉพาะบรรดาผู้สร้าง ผู้กำกับ ผู้เกี่ยวข้องต่างๆ ที่ยังมีชีวิตและมีเรี่ยวมีแรงอยู่ ไม่ว่ารายใหญ่ รายเล็ก หน้าใหม่ รวมถึงหน้าเก่าเบอร์สาม เบอร์สี่ ที่มัวแต่อุบโปรแกรมสำหรับปีนี้

ถ้าจะขอคาดการณ์ด้วยตัวเองได้ว่า เมื่อหนังของพี่ีมากฯ พ้นจากโปรแกรม คงจะมีหนังไทยดาหน้าเข้าโปรแกรมฉายกันเป็นจำนวนเพิ่มมากขึ้นในช่วงไตรมาสที่สองและสามของปีนี้ หลังจากในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาที่มีระดับจำนวนการเข้าฉายเพียงเดือนละสองสามเรื่อง ซึ่งช่วงนั้นน่าจะปล่อยแบบค่อยๆเป็นค่อยๆไป แต่ถ้าขืนคงที่ คงที่ อยู่ต่อไป เดี๋ยวจะเหมือนว่าตลาดหนังเป็นระบบโควต้า เดี๋ยวอืด เดี๋ยวก็ขึ้นค่าตั๋วหรอก

เพราะยังมีโปรเจ็กต์หนังที่อั้นรอเข้าฉายอีกมากมายนับก็ไม่ถ้วน รวมถึงงานชั้นดีที่--หลายคนรอคอย

บางเรื่องอั้นมาตั้งแต่วิกฤติน้ำท่วมเมื่อสองปีกลาย บางเรื่องตะกุกตะกัก เลื่อนแล้วเลื่อนอีก ยังห่วงแล้วห่วงอีก ทั้งที่เคยรายงานข่าวกันอย่างโจ่งแจ้ง ก็น่าจะเร่งหรือได้เข้าฉายอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งกำลัง ทั้งคุณภาพ ทั้งมันสมอง ไม่ใช่แค่เห็นงานเป็นเิงินอย่างเดียว

และคิดว่าเราจะมีหนังไทยกระจายให้ดูทุกเดือนอยู่แล้ว โดยไม่ต้องมีคำว่ากระจุกหรือกระจิกในรอบเดือน

ขอให้ดูตัวอย่างสภาวะหนังไทยในปี 2544 แม้จำนวนหนังไทยที่เข้าฉายจะน้อยเพียงสิบกว่าเรื่อง แต่ก็ได้หนังที่โกยรายได้ในระดับร้อยล้านบาทไว้สามเรื่อง และก็ล้วนเป็นงานชั้นดีมีคุณภาพทั้งนั้น ไม่มีใครยืนเดี่ยว ต่อให้ปี 2545 มีหนังเข้าฉายเพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัว จึงแข่งขันกันมากขึ้น คนดูหนังไทยก็เลยสบายใจนับแต่นั้น ตื่นจากฝันได้สำเร็จ

คงไม่ต้องเทียบกับปีนี้ก็ได้ อย่างไรปัจจุบันก็คือโลกปัจจุบัน

เราก็เชื่อมั่นว่า ถ้าไทยช่วยไทยกันเอง มองงานอย่างรอบด้าน ให้โอกาสและกำลังใจกันมากขึ้น ลดความเหลื่อมล้ำลงได้ อุตสาหกรรมหนังไทยก็จะสดใสยิ่งๆ ขึ้นไป วิกฤติหนังไทยจะไม่บังเกิดอีกแม้ว่าเศรษฐกิจยังดี

อยากรวย อย่ารอ สวัสดี
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่