คำว่า "โลกสวย" กำลังทำร้ายสังคมหรือเปล่า

โลกสวยเป็นศัพท์ที่เกิดขึ้นมาเมื่อไม่กี่ปีมานี้
ในช่วงแรกมีความหมายที่ยอมรับได้
นั่นคือเป็นการกล่าวถึงความคิดเห็นในแง่บวกที่ขัดแย้งกับความเป็นจริงในสังคม

เช่น คนในสังคมที่เป็นจริงจะทราบดีกว่าขอทานตามสะพานลอย ส่วนใหญ่เป็นขบวนการ
แต่คนโลกสวยจะมองว่าให้ไปเถอะ ถึงเป็นขบวนการเค้าก็ลำบากยากจนอยู่ดี
ซึ่งจริงๆ แล้ว การรณรงค์สิ่งเหล่านี้เป็นการป้องกันการเกิดการค้ามนุษย์
โลกไม่ได้สวยอย่างสิ่งที่เค้ามองเห็นตรงหน้า

แต่ตอนนี้โลกสวยได้ถูกนำไปใช้ผิดเพี้ยน กลายเป็นการโจมตีผู้มีเจตนาดีแก่สังคม
หรือผู้ทำหน้าที่เป็นพลเมืองดี ออกมาตักเตือนการกระทำที่ไม่ส่งผลดีต่อสังคมหรือภาพลักษณ์ใดๆ ก็ตาม

และนำมาใช้อย่างพร่ำเพรื่อ

เพราะค่อนข้างได้ผลในการนำมาใช้ เมื่อพูดแล้วทำให้ไม่มีผู้กล้าให้แสดงความคิดเห็นต่อ
รวมถึงชี้นำให้ผู้อ่านถูกโน้มน้าวมามองในมุมฝั่งตนได้ทันที ซึ่งค่อนข้างอันตราย
หากผู้อ่านไม่มีวุฒิภาวะ ยังไม่สามารถวิเคราะห์แยกแยะประเด็นได้ จะถูกชี้นำไปอยู่ในทัศนคติ
คิดว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้องตนอยู่ฝั่งโลกไม่สวยแล้วรู้สึก เท่ห์ เจ๋ง เป็นคนยุคใหม่
และนำความเห็นดังกล่าวไปใช้ในชีวิตจริง กับคนรอบตัว

ผมกำลังมองว่า แม้จะเป็นแค่คำๆ เดียว
แต่คำๆ นี้กำลังก่อให้เกิดปัญหาทางด้านทัศนคติ
และต่อต้านการแสดงความเห็นเพื่อประโยชน์สังคม
ทำให้คนที่มีเจตนาดีหยุดการแสดงเจตนา
จะเหลือเพียงแต่คนที่มองว่าตัวเองโลกไม่สวยเท่านั้นที่กล้าแสดงออก

และจะเป็นบรรทัดฐานสังคมต่อไปในอนาคต

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
คนโลกมืด VS คนโลกสวย

แสดงความคิดเห็นได้ แต่อย่าเอาโลกของเรา ไปตัดสินโลกของคนอื่น..
คนเราผ่านอะไรมา ไม่เหมือนกัน

ถูกหล่อหลอมจากต้นกำเนิดที่ต่างกัน
ถูกสั่งสอน มีต้นแบบ วิถีชีวิต ที่ต่างกัน
ถูกคัดกรองจากสภาพแวดล้อมที่ต่างกัน
สุดท้ายแล้ว มุมที่คนคนนั้นจะเลือกมอง มันก็ต่างกัน

และมันก็ขึ้นอยู่กับว่า เราตกผลึกทางความคิด มามากน้อย แค่ไหน....??

แม้คนจบโท จบเอก จะมีมูลค่าทางวุฒิการศึกษา มูลค่าทางความคิด
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า จะมีคุณค่าทางทัศนคติ

คนจบ ป.1 คนกวาดถนน กระเป๋ารถเมล์ ก็ไม่ได้หมายความว่า  ทัศนคติ มุมมอง เขาจะไร้ค่า
มันคือโลก มันคือความหลากหลาย แค่เราเปิดมุมมอง วิเคราะห์ ยอมรับ เข้าใจ โดยใช้อคติ ให้น้อยที่สุด
ผมว่านี่มันก็ เพียงพอที่จะทำให้เราใช้ชีวิตที่เหลือ อย่างมีความสุขแล้วล่ะ

ปล.โลกของผมไม่ได้มืด และโลกของผมไม่ได้สว่าง
แต่โลกของผมมันแค่สลัว ที่ยังพอมองเห็นแสงสว่างที่ปลายทาง และนำพาผมไป
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 39
ผมเข้าใจความหมายของ "คนโลกสวย" ในสองลักษณะ

ความหมายแรกคือ คนที่มองโลกสวยจริงๆ คือมองโลกในแง่ดีจนอาจจะเป็นเพ้อฝัน หรือเป็นโลกในอุดมคติ
คนเหล่านี้ไม่ได้ทำร้ายใคร แต่อาจจะเดือดร้อนตัวเองเพราะโลกแห่งความจริงไม่ได้สวยงามอย่างที่เค้าคิด

ความหมายที่สอง คือ คนที่มักจะอวดอ้างคุณธรรม จริยธรรม หรือสั่งสอนผู้อื่น
โดยไม่มองสถานการณ์ สภาพแห่งความเป็นจริง หรือเหตุผลในอีกแง่มุมหนึ่ง
สิ่งที่พบเจออยู่เสมอสำหรับคนเหล่านี้ก็คือ จะจ้องจับผิด ตำหนิ ประนาม ด่าว่าผู้อื่นไว้ก่อน และยกคุณธรรมขึ้นมากล่าวอ้าง
ทั้งที่จริง ถ้าเจอกับตัวเอง ตัวเองก็อาจจะทำอย่างที่ตัวเองเคยตำหนิหรือประนามเอาไว้ก็ได้
แต่ขอเป็นนักเลงคีย์บอร์ด กดผู้อื่นให้ต่ำลงเพื่อยกตัวเองให้ดูเหมือนสูงขึ้นไว้ก่อน
ความคิดเห็นที่ 16
หากมองโลกในแง่ดีเกินไปโดยขาดการไตร่ตรอง โดยขาดเหตุและผลก็ย่อมกลายเป็นคนที่ประมาทในการใช้ชีวิต
อาจเป็นผลร้ายต่อตัวเองและมีผลกระทบต่อใครหลายคนได้

แต่ถ้าเรามองโลกในแง่ดี คิดในหลายแง่หลายมุม มีสติและมีความสามารถในการแยกแยะ
มันก็สามารถทำให้เรามีชีวิตที่มีความสุขมากขึ้น
ซึ่งมันก็เป็นผลดีต่อตัวเองและคนรอบข้างเช่นกัน

การมองโลกสวยไม่เคยทำร้ายใคร
แต่การมองโลกแต่ในมุมของตัวเองโดยไม่รับฟังความเห็นผู้อื่นต่างหากที่ทำร้ายสังคม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่