รับได้ไหม? ราคาที่คนไทย “ต้องจ่าย” หากอยากให้ประเทศเจริญแบบก้าวกระโดด

รับได้ไหม? ราคาที่คนไทย “ต้องจ่าย” หากอยากให้ประเทศเจริญแบบก้าวกระโดด


By : TonyMao_NK51
E-Mail : tonymao_nk51@hotmail.com
FaceBook : TonyMao Nk

ท่องโลกเสมือน เขียนโน่นนี่นั่นมาเกือบสิบปี ( ตั้งแต่ปี 2003-2011 ก่อนจะหยุดไปเมื่อน้ำท่วมแล้วต้องทิ้งบ้านหนีไปที่อื่น พร้อมๆ กับคอมที่เสีย และต้องยกเลิกอินเตอร์เน็ตไปด้วย 1 ปีเต็มๆ ) สิ่งที่ผู้เขียนเจอ นับตั้งแต่วันแรกเมื่อ 10 ปีก่อน จวบจนวันนี้ ที่เริ่มรู้สึกอิ่มตัวกับการบ่นโน่นนี่นั่น ตามมาด้วยความขี้เกียจจะทำอะไรแบบนี้อีก คำถามดังกล่าวก็ยังปรากฏขึ้นอยู่เรื่อยๆ

นั่นคือคำถามที่ว่า “ทำไมเราไม่เจริญก้าวหน้า พัฒนาแบบเขาบ้าง?”

และส่วนใหญ่คำตอบของคำถามนี้ มักจะโยนไปยังปัญหาการทุจริต ฉ้อราษฎร์บังหลวง ( Corruption ) อันมีเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งข้าราชการประจำ และข้าราชการการเมือง ( นักการเมือง ) รวมหัวกับนักธุรกิจ นายทุน กระทำการที่มีตั้งแต่ขั้นต่ำคืออาศัยช่องว่างทางกฏหมาย หรือขั้นสูงคือเข้าไปเล่นการเมือง เพื่อแก้ไขกฎหมายให้เอื้อประโยชน์กับตนและพรรคพวก ทั้งเลี่ยงภาษี บุกรุกที่ป่าสงวน ตั้งสถานประกอบการโดยไม่รักษาสภาพแวดล้อมและชุมชนโดยรอบ ตลอดจนการทำงานประเภท “มีเงินก็เร็วได้” ไปจนถึง “มีเงินก็บิดข้อเท็จจริงได้” และอื่นๆ อีกมากมาย

ถึงกับมีคนบอกว่า..ไม่ต้องแปลกใจ ที่วันนี้ประชาชนคนไทย เชื่อถือเหล่าองค์กรพัฒนาเอกชน ( NGO ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม และสิทธิมนุษยชน ) และสื่อมวลชน ( โดยเฉพาะนักเล่าข่าวบางช่อง ) มากกว่าภาครัฐ ทั้งที่ NGO และสื่อ ไม่ได้รับค่าจ้างอะไรจากประชาชน เหมือนเจ้าหน้าที่รัฐที่ประชาชนจ่ายให้ผ่านภาษี เพราะที่ผ่านมา ภาครัฐได้สร้างความเจ็บปวดรวดร้าว หวาดระแวง และไม่เคยเป็นความหวังให้ประชาชน ทำให้ประชาชนต้องหันไปหาอำนาจอื่น ที่สามารแสวงหาความเป็นธรรมให้เขาได้

ทว่า..ในอีกทางหนึ่ง ก็มีคนกล่าวไว้ว่า “ประชาชนเป็นอย่างไร ก็จะได้ผู้ปกครองอย่างนั้น” ซึ่งก็อาจจะเป็นไปได้ ทั้งนี้ หากลองเปรียบเทียบประเทศหลายๆ ประเทศ แม้จะใช้ระบอบการปกครองเดียวกัน เช่นสมมติว่าเราเทียบเฉพาะประชาธิปไตย ที่ประชาชนเลือกผู้ปกครอง และตรวจสอบการทำงานของผู้ปกครองบ้านเมืองได้ ก็ยังพบว่า มีเพียงบางประเทศที่ใช้แล้วก้าวหน้า แต่อีกหลายประเทศใช้แล้วก็ยังล้าหลังเช่นเดิม ขณะเดียวกัน ประเทศที่ไม่ได้เป็นประชาธิปไตย ( หรือเป็นแต่เปลือกนอก แต่ข้างในเป็นเผด็จการ เช่นสิงคโปร์ ที่สกุลลีกุมอำนาจเกือบๆ จะเบ็ดเสร็จ ) ก็มีทั้งประเทศที่ล้าหลัง และประเทศที่ก้าวหน้าแบบก้าวกระโดด ( เช่นจีนและเวียดนาม )

คำถามคือ..อะไรคือตัวแปรที่ทำให้เกิดความแตกต่าง?

ผู้เขียนลองสังเกตประเทศที่หลายคนบอกว่า บุคลิก - อุปนิสัยของผู้คนที่นั่นความคล้ายคลึงกับคนไทย เช่นฟิลิปปินส์ หรือละตินอเมริกา ( ประเทศในทวีปอเมริกากลาง – อเมริกาใต้ : ความจริงอยากรวมสเปนและโปรตุเกสเข้าไปด้วย แต่ผู้เขียนไม่มีข้อมูลว่าคนยุโรปทั้ง 2 ชาติ จะเหมือนกับอดีตอาณานิคมไกลโพ้นหรือไม่? ) พบว่ามีจุดร่วมบางประการ เช่นสนุกสนานได้ทุกเทศกาล ชอบร้องรำทำเพลง เข้ากับคนง่าย ชอบกินชอบเที่ยว ฯลฯ (-1-) และเป็นที่น่าประหลาด ที่ประเทศที่ผู้คนส่วนใหญ่มีบุคลิกภาพดังกล่าว มักจะมีความเจริญอย่างจำกัด คือบางประเทศอาจด้อยพัฒนา แต่อีกหลายประเทศ แม้จะพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็จะเป็นไปแบบช้าๆ ลุ่มๆ ดอนๆ ไม่มีความก้าวกระโดด ซึ่งพอไปเปรียบเทียบกับประเทศที่สามารถถีบตัวเองให้ขึ้นมาเป็นประเทศพัฒนาแล้วได้ พบว่านิสัยของคนในประเทศที่พัฒนาแล้ว มีอะไรบางอย่างที่เหมือนกัน

และถ้าเราอยากจะเป็นเหมือนเขา ผู้เขียนถามว่า..สังคมไทย คนไทยจะยอม “จ่าย” เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดด อย่างที่ประเทศอื่นเขาทำสำเร็จแล้วหรือไม่? และการจ่ายครั้งนี้ ไม่ใช่จ่ายด้วยเงินทอง แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงบุคลิกภาพของคนไทยเรา ครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่มีชนชาติไทย-สยามเป็นต้นมา ซึ่งสิ่งที่ต้องเปลี่ยน มีหลายประการดังนี้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่