ริมทางหลวงหมายเลข 12 (Route 12) ภาค 1/2
เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2556 ได้มีโอกาสขับรถบนทางหลวงหมายเลข 12 จากพิษณุโลก ผ่านเขาค้อ ไปยัง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ เส้นทางเส้นนี้ถือว่าเป็นเส้นทางเพื่อการท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อแห่งหนึ่งของไทย ยิ่งในฤดูหนาวการจราจรค่อนข้างคับคั่ง ด้วยมีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ หลายแห่งที่สามารถแวะเที่ยวชมได้ เช่น
1. ภูสอยดาว ที่ว่ากันว่าเป็นภูที่สวยงามมากๆ แห่งหนึ่งของไทย บนนั้นมีลานสนกว้างขวางมาก รวมทั้งทุ่งดอกไม้ป่านานาพันธุ์ โดยเฉพาะหงอนนาค และ ที่สำคัญธรรมชาติยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ แต่การไปที่นี่ไม่ใช่ใครๆ ก็ไปได้ ต้องใจสู้ใจถึงจริงๆ เพราะต้องเดินเท้าปีนเขาประมาณ 4-6 ชั่วโมง ถ้าใครไม่อยากปีนเขาบริเวณเชิงดอยที่ทำการของอุทธยานก็มีน้ำตกสวยงาม คือ น้ำตกภูสอยดาว (แยกเข้าที่บ้านแยง .. กม.67..ผ่านนครไทย-ชาติตระการ-น้ำปาด)
2. ภูหินร่องกล้า หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับทั้งอรรถรสทางธรรมชาติที่แปลกตา ทั้งลานหินแตก ลานหินปุ่ม น้ำตก และ ประวัติศาสตร์ชาติไทยสมัยคอมมิวนิสต์คู่มากับเขาค้อนั่นเอง (แยกเข้าที่บ้านแยงทางเดียวกับภูสอยดาว แต่ถึง อ.นครไทยแล้วให้เลือกเส้นทางไปภูหินร่องกล้าได้เลย และ เส้นนี้ทะลุออกภูทับเบิก อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ได้... ทางคดเคี้ยวหน่อย)
3. เขาค้อ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของไทยมีแหล่งท่องเที่ยวทั้งริมทางหลวงหมายเลข 12 และแยกตรงแคมป์สนเข้าไปยัง อ.เขาค้อ อีกมากมาย ได้ชื่อว่าดินแดนทะเลภู มีทิวเขาสลับซับซ้อนสามารถมองเห็นในมุมกว้างได้สุดสายตา.. นี่คือเสน่ห์ของเขาค้อ .. อีกทั้งอากาศเย็นเกือบทั้งปี ยกเว้นระยะ มีนาคม-เมษายน จะร้อนมากๆ ตอนบ่ายๆ แต่ช่วงเช้ายังเย็นสบายดี)
4. ทุ่งแสลงหลวง เป็นดินแดนซาวันนาที่กว้างใหญ่ที่สุดของประเทศไทย เหมาะกับคนชอบลุยชมธรรมชาติแปลกๆ มีเส้นทางให้ขี่จักรยาน หรือ มอไซต์ จะเห็นทุ่งหญ้าระบัดใบเหลืองอร่าม นอกนั้นที่นี่มีแมงกะพรุนน้ำจืด ซึ่งพบได้ยากมากในธรรมชาติอีกด้วย
บนเส้นทางเส้นนี้ถ้าขับรถผ่านไปโดยไม่แวะแหล่งท่องเที่ยวหลักๆ ดังกล่าว ก็มีแหล่งท่องเที่ยวให้แวะริมทางตลอดสาย เช่น น้ำตกแก่งโสภา น้ำตกแก่งซอง น้ำตกวังนกแอ่น เป็นต้น รวมทั้งร้านอาหารและรีสอร์ทอีกมากมายทีเดียว
**** ขณะนี้กำลังก่อสร้างขยายเส้นทางเป็น 4 เลน การก่อสร้างไม่ได้รบกวนการเดินทางมากนัก ยังไปได้สบายๆ อยู่ครับ ****
วันนี้ขอรีวิวแหล่งเที่ยวริมทางคือ วัดผาซ่อนแก้ว และ จุดพักรถดังบนเส้นนี้ คือ Route 12
ออกเดินทางจากพิษณุโลกตอนสายแก่ๆ ผ่านวังทอง ค่ายสฤษดิ์เสนา มาประมาณ 45 กม. แวะรับประทานอาหารเที่ยงที่ร้าน "เคียงน้ำ" เป็นร้านอาหาร+รีสอร์ท ตั้งอยู่บริเวณน้ำตกแก่งซอง ส่วนที่เป็นร้านอาหารยื่นออกไปบนลำน้ำเข็ก มองเป็นน้ำตกแก่งซองได้ชัดเจน บรรยากาศดีมากๆ ครับ เย็นสบาย สายลมอ่อนพัดเอื่อยๆ ผ่านแอ่งน้ำใสใส

น้ำตกแก่งซอง ถ่ายจากร้านอาหารเคียงน้ำ

น้ำตกแก่งซองอยู่ลิบลิบเมื่อมองจากร้านอาหารเคียงน้ำ
หลังจากอิ่มท้องออกเดินทางผ่านทรัพย์ไพรวัลย์ เป็นตลาดใหญ่มากๆ แห่งหนึ่งบนเส้นทางสายนี้ ผู้ที่มีเป้าหมายที่ภูสอยดาว หรือ ภูหินร่องกล้า ควรแวะหาเสบียงและเครื่องใช้ที่ตลาดแห่งนี้ ออกจากนี้ไปประมาณ 12 กม. ก็ถึงทางแยกบ้านแยง เพื่อแยกซ้ายเข้า อ.นครไทย ไปภูสอยดาว หรือ ภูหินร่องกล้า แต่เราไม่แวะ ตรงไปเรื่อยๆ จะผ่านบ้านเข็กใหญ่-บ้านเข็กกลาง-บ้านเข็กน้อย เป็นหมู่บ้านชาวไทยเผ่าม้ง โดยเฉพาะบ้านเข็กน้อย ซึ่งอยู่ทางซ้ายมือ เป็นชุมชนชาวไทยม้งที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ผู้ที่ชอบท่องเที่ยวแบบวิถีชีวิตที่นี่มีโฮมสเตย์ให้พักด้วย
ออกจากบ้านเข็กน้อยไปประมาณ 5 กม. มีจุดพักรถที่โด่งดังบนเส้นทางสายนี้ คือ Route 12 ซึ่งได้รับการจัดแต่งให้มีกลิ่นอายของอเมริกันตะวันตกย้อนยุค เหมือนจุดพักรถของคนเดินทางข้ามทะเลทรายเนวาดา อะไรประมาณนั้น

บรรยากาศหน้าจุดพักรถ ภายในเป็นร้านกาแฟ

Khao Kho Route 12

รถคันนี้มาจากเนวาดา หรือว่า ซิงคโปอา....???
รถมาจากไหนก็ช่างเหอะนะ เข้าไปดูข้างในสักหน่อยซิ

บรรยากาศภายในรถ เป็นอย่างนี้นี่เอง... เป็นจุดที่ให้นักท่องเที่ยวเขียนอะไรก็ได้ลงบนป้ายที่จัดไว้ให้แล้วนำไปผูกติดกับตัวรถครับ

นี่คือ ลักษณะของป้ายที่ว่านั้น จ่ายเงิน 50 บาท ก็นำมาเขียนอะไรก็ได้ลงไป แล้วนำไปผูกติดกับตัวรถ

ผูกไปทั่วครับ พวงมาลัย เบาะที่นั่งคนขับ ราวมือจับ ตรงไปมัดได้ผูกได้ ก็ผูกกันไป ไม่ว่ากัน น่ารักดีครับ ยิ่งหนุ่มสาวเหมาะเจาะทีเดียว ส่วนเฒ่าๆ แล้วก็ผ่านๆ ไปก่อนเน๊อะ

ใกล้ๆ รถนักเรียนนั่นก็มีหัวจ่ายน้ำมันแบบโบราณ ยืนโด่เด่คล้ายๆ คน คนคิดสมัยนั้นคงนึกอะไรไม่ออกเลยเอารูปร่างของสาวใส่กระโปรงกรอมเท้านี่แหละวะเป็นต้นแบบ คนยุคใหม่หลายคนเกิดไม่ทันก็มี

หน้าร้านก็มีรถถีบเก่าๆ กับ มอเตอร์ไซค์แก่ๆ จอดทักทายอยู่ คันนี้เป็นรุ่นแรกของฮอนด้าเข้ามาทำตลาดในไทยครับ เป็นรุ่นตะเกียบหน้าแบน+คานกระดก ซ่อนโช๊คในตะเกียบนั่นแหละครับ เครื่องมี 125 ซีซี กับ 150 ซีซี 2 ท่อ ใครได้ครอบครองถือว่าไฮโซน้องๆ ไทรอัมพ์เชียวแหละ สำรับผู้หญิงก็มีขนาด 50 ซีซี ตะเกียบหน้าออกแบบเหมือนกันเป็นคานกระดก (ก่อนมาเป็นโช๊คอัพยาวเช่นปัจจุบัน) ขนาด 50 ซีซี เรียกรุ่นว่า "ซูเปอร์คัพ" และ มีรุ่นกลางเป็นรถสำหรับผู้ชายขนาด 90 ซีซี หนุ่มไหนมีครอบครอง ยิ่งในชนบทดีกว่าคล้องขุนแผนนะจะบอกให้...

ในบริเวณเดียวกันมีร้านขายของที่ระลึกเก๋ไก๋จุกๆ จิกๆ

ด้านหลังร้านเป็นระเบียงตกแต่งเป็นที่นั่งจิบกาแฟ พักผ่อน มองทิวทัศน์ทะเลภูสุดสายตา

ภาพทิวทัศน์มองจากระเบียงนั่งกินกาแฟ ส่วนที่เห็นข้างล่างนั่นสามารถลงไปเดินเล่นได้ จัดตกแต่งไว้สวยงามมาก แต่วันนี้เวลาบ่ายแก่ๆ ของหน้าร้อน เดินไม่ไหวจริงๆ เดี๋ยวเป็นลมแดด เป็นภาระผู้อื่นเสียเปล่าๆ

ทิวทัศน์อีกมุมครับ
มีอะไรน่ารักๆ อีกหลายมุมครับ แต่เอาไว้แค่นี้ก่อนเกรงใจเจ๊ทิพเค้า... หุหุ
ออกจาก Route 12 ไปดีกว่า ออกมาได้ 500 เมตร เอ้า.... หยุดๆๆ ซ้ายมือมีจุดน่าสนใจอีกจุดครับ เป็นจุดพักรถใหม่กำลังสร้าง แวะเยี่ยมซักหน่อยซิ
..... แว๊บ แว๊บ เข้าไปเลย

จุดพักรถแห่งนี้ชื่อ "DREAM" ครับ จำหน่ายกาแฟ เครื่องดื่มและอาหารว่าง และกำลังก่อสร้างส่วนที่จำหน่ายอาหารและของที่ระลึกทางด้านขวามือของอาคารนี้ครับ ได้คุยกับเจ้าของอัธยาศัยดีมากๆ คาดว่าอีก 1 ปี น่าจะเรียบร้อยตามโครงการ ที่นี่ก็คล้ายๆ Route 12 คือ มีบริเวณพักผ่อนเดินเล่นด้านล่างด้วยเช่นกัน

กอเอื้องผึ้งช่อสมบูรณ์มากรอต้อนรับอยู่หน้าร้าน

ทะเลภูเขามองจากหลังร้านดรีม

อีกมุมหนึ่งของทะเลภูเขาหลัง "ดรีม" ที่เห็นเป็นแนวยาวๆ เป็นระเบียบนั่น คือ สวนยางพาราใหม่ อีก 4-5 ปี ก็จะเห็นแนวป่าเป็นแถวๆ เหมือนแถบภาคตะวันออกและภาคใต้ มุมมองคงเปลี่ยนไปอีกรูปแบบหนึ่ง
พอแค่นี้ก่อนครับ ยาวเกินไปแล้ว ไว้ต่อตอน 2 ดีกว่า เกรงใจเจ๊ทิพเค้า
ไว้พบกันภาคที่ 2 เรื่อง วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ครับผม
[CR] ริมทางหลวงหมายเลข 12
เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2556 ได้มีโอกาสขับรถบนทางหลวงหมายเลข 12 จากพิษณุโลก ผ่านเขาค้อ ไปยัง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ เส้นทางเส้นนี้ถือว่าเป็นเส้นทางเพื่อการท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อแห่งหนึ่งของไทย ยิ่งในฤดูหนาวการจราจรค่อนข้างคับคั่ง ด้วยมีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ หลายแห่งที่สามารถแวะเที่ยวชมได้ เช่น
1. ภูสอยดาว ที่ว่ากันว่าเป็นภูที่สวยงามมากๆ แห่งหนึ่งของไทย บนนั้นมีลานสนกว้างขวางมาก รวมทั้งทุ่งดอกไม้ป่านานาพันธุ์ โดยเฉพาะหงอนนาค และ ที่สำคัญธรรมชาติยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ แต่การไปที่นี่ไม่ใช่ใครๆ ก็ไปได้ ต้องใจสู้ใจถึงจริงๆ เพราะต้องเดินเท้าปีนเขาประมาณ 4-6 ชั่วโมง ถ้าใครไม่อยากปีนเขาบริเวณเชิงดอยที่ทำการของอุทธยานก็มีน้ำตกสวยงาม คือ น้ำตกภูสอยดาว (แยกเข้าที่บ้านแยง .. กม.67..ผ่านนครไทย-ชาติตระการ-น้ำปาด)
2. ภูหินร่องกล้า หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับทั้งอรรถรสทางธรรมชาติที่แปลกตา ทั้งลานหินแตก ลานหินปุ่ม น้ำตก และ ประวัติศาสตร์ชาติไทยสมัยคอมมิวนิสต์คู่มากับเขาค้อนั่นเอง (แยกเข้าที่บ้านแยงทางเดียวกับภูสอยดาว แต่ถึง อ.นครไทยแล้วให้เลือกเส้นทางไปภูหินร่องกล้าได้เลย และ เส้นนี้ทะลุออกภูทับเบิก อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ได้... ทางคดเคี้ยวหน่อย)
3. เขาค้อ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของไทยมีแหล่งท่องเที่ยวทั้งริมทางหลวงหมายเลข 12 และแยกตรงแคมป์สนเข้าไปยัง อ.เขาค้อ อีกมากมาย ได้ชื่อว่าดินแดนทะเลภู มีทิวเขาสลับซับซ้อนสามารถมองเห็นในมุมกว้างได้สุดสายตา.. นี่คือเสน่ห์ของเขาค้อ .. อีกทั้งอากาศเย็นเกือบทั้งปี ยกเว้นระยะ มีนาคม-เมษายน จะร้อนมากๆ ตอนบ่ายๆ แต่ช่วงเช้ายังเย็นสบายดี)
4. ทุ่งแสลงหลวง เป็นดินแดนซาวันนาที่กว้างใหญ่ที่สุดของประเทศไทย เหมาะกับคนชอบลุยชมธรรมชาติแปลกๆ มีเส้นทางให้ขี่จักรยาน หรือ มอไซต์ จะเห็นทุ่งหญ้าระบัดใบเหลืองอร่าม นอกนั้นที่นี่มีแมงกะพรุนน้ำจืด ซึ่งพบได้ยากมากในธรรมชาติอีกด้วย
บนเส้นทางเส้นนี้ถ้าขับรถผ่านไปโดยไม่แวะแหล่งท่องเที่ยวหลักๆ ดังกล่าว ก็มีแหล่งท่องเที่ยวให้แวะริมทางตลอดสาย เช่น น้ำตกแก่งโสภา น้ำตกแก่งซอง น้ำตกวังนกแอ่น เป็นต้น รวมทั้งร้านอาหารและรีสอร์ทอีกมากมายทีเดียว
**** ขณะนี้กำลังก่อสร้างขยายเส้นทางเป็น 4 เลน การก่อสร้างไม่ได้รบกวนการเดินทางมากนัก ยังไปได้สบายๆ อยู่ครับ ****
วันนี้ขอรีวิวแหล่งเที่ยวริมทางคือ วัดผาซ่อนแก้ว และ จุดพักรถดังบนเส้นนี้ คือ Route 12
ออกเดินทางจากพิษณุโลกตอนสายแก่ๆ ผ่านวังทอง ค่ายสฤษดิ์เสนา มาประมาณ 45 กม. แวะรับประทานอาหารเที่ยงที่ร้าน "เคียงน้ำ" เป็นร้านอาหาร+รีสอร์ท ตั้งอยู่บริเวณน้ำตกแก่งซอง ส่วนที่เป็นร้านอาหารยื่นออกไปบนลำน้ำเข็ก มองเป็นน้ำตกแก่งซองได้ชัดเจน บรรยากาศดีมากๆ ครับ เย็นสบาย สายลมอ่อนพัดเอื่อยๆ ผ่านแอ่งน้ำใสใส
น้ำตกแก่งซอง ถ่ายจากร้านอาหารเคียงน้ำ
น้ำตกแก่งซองอยู่ลิบลิบเมื่อมองจากร้านอาหารเคียงน้ำ
หลังจากอิ่มท้องออกเดินทางผ่านทรัพย์ไพรวัลย์ เป็นตลาดใหญ่มากๆ แห่งหนึ่งบนเส้นทางสายนี้ ผู้ที่มีเป้าหมายที่ภูสอยดาว หรือ ภูหินร่องกล้า ควรแวะหาเสบียงและเครื่องใช้ที่ตลาดแห่งนี้ ออกจากนี้ไปประมาณ 12 กม. ก็ถึงทางแยกบ้านแยง เพื่อแยกซ้ายเข้า อ.นครไทย ไปภูสอยดาว หรือ ภูหินร่องกล้า แต่เราไม่แวะ ตรงไปเรื่อยๆ จะผ่านบ้านเข็กใหญ่-บ้านเข็กกลาง-บ้านเข็กน้อย เป็นหมู่บ้านชาวไทยเผ่าม้ง โดยเฉพาะบ้านเข็กน้อย ซึ่งอยู่ทางซ้ายมือ เป็นชุมชนชาวไทยม้งที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ผู้ที่ชอบท่องเที่ยวแบบวิถีชีวิตที่นี่มีโฮมสเตย์ให้พักด้วย
ออกจากบ้านเข็กน้อยไปประมาณ 5 กม. มีจุดพักรถที่โด่งดังบนเส้นทางสายนี้ คือ Route 12 ซึ่งได้รับการจัดแต่งให้มีกลิ่นอายของอเมริกันตะวันตกย้อนยุค เหมือนจุดพักรถของคนเดินทางข้ามทะเลทรายเนวาดา อะไรประมาณนั้น
บรรยากาศหน้าจุดพักรถ ภายในเป็นร้านกาแฟ
Khao Kho Route 12
รถคันนี้มาจากเนวาดา หรือว่า ซิงคโปอา....???
รถมาจากไหนก็ช่างเหอะนะ เข้าไปดูข้างในสักหน่อยซิ
บรรยากาศภายในรถ เป็นอย่างนี้นี่เอง... เป็นจุดที่ให้นักท่องเที่ยวเขียนอะไรก็ได้ลงบนป้ายที่จัดไว้ให้แล้วนำไปผูกติดกับตัวรถครับ
นี่คือ ลักษณะของป้ายที่ว่านั้น จ่ายเงิน 50 บาท ก็นำมาเขียนอะไรก็ได้ลงไป แล้วนำไปผูกติดกับตัวรถ
ผูกไปทั่วครับ พวงมาลัย เบาะที่นั่งคนขับ ราวมือจับ ตรงไปมัดได้ผูกได้ ก็ผูกกันไป ไม่ว่ากัน น่ารักดีครับ ยิ่งหนุ่มสาวเหมาะเจาะทีเดียว ส่วนเฒ่าๆ แล้วก็ผ่านๆ ไปก่อนเน๊อะ
ใกล้ๆ รถนักเรียนนั่นก็มีหัวจ่ายน้ำมันแบบโบราณ ยืนโด่เด่คล้ายๆ คน คนคิดสมัยนั้นคงนึกอะไรไม่ออกเลยเอารูปร่างของสาวใส่กระโปรงกรอมเท้านี่แหละวะเป็นต้นแบบ คนยุคใหม่หลายคนเกิดไม่ทันก็มี
หน้าร้านก็มีรถถีบเก่าๆ กับ มอเตอร์ไซค์แก่ๆ จอดทักทายอยู่ คันนี้เป็นรุ่นแรกของฮอนด้าเข้ามาทำตลาดในไทยครับ เป็นรุ่นตะเกียบหน้าแบน+คานกระดก ซ่อนโช๊คในตะเกียบนั่นแหละครับ เครื่องมี 125 ซีซี กับ 150 ซีซี 2 ท่อ ใครได้ครอบครองถือว่าไฮโซน้องๆ ไทรอัมพ์เชียวแหละ สำรับผู้หญิงก็มีขนาด 50 ซีซี ตะเกียบหน้าออกแบบเหมือนกันเป็นคานกระดก (ก่อนมาเป็นโช๊คอัพยาวเช่นปัจจุบัน) ขนาด 50 ซีซี เรียกรุ่นว่า "ซูเปอร์คัพ" และ มีรุ่นกลางเป็นรถสำหรับผู้ชายขนาด 90 ซีซี หนุ่มไหนมีครอบครอง ยิ่งในชนบทดีกว่าคล้องขุนแผนนะจะบอกให้...
ในบริเวณเดียวกันมีร้านขายของที่ระลึกเก๋ไก๋จุกๆ จิกๆ
ด้านหลังร้านเป็นระเบียงตกแต่งเป็นที่นั่งจิบกาแฟ พักผ่อน มองทิวทัศน์ทะเลภูสุดสายตา
ภาพทิวทัศน์มองจากระเบียงนั่งกินกาแฟ ส่วนที่เห็นข้างล่างนั่นสามารถลงไปเดินเล่นได้ จัดตกแต่งไว้สวยงามมาก แต่วันนี้เวลาบ่ายแก่ๆ ของหน้าร้อน เดินไม่ไหวจริงๆ เดี๋ยวเป็นลมแดด เป็นภาระผู้อื่นเสียเปล่าๆ
ทิวทัศน์อีกมุมครับ
มีอะไรน่ารักๆ อีกหลายมุมครับ แต่เอาไว้แค่นี้ก่อนเกรงใจเจ๊ทิพเค้า... หุหุ
ออกจาก Route 12 ไปดีกว่า ออกมาได้ 500 เมตร เอ้า.... หยุดๆๆ ซ้ายมือมีจุดน่าสนใจอีกจุดครับ เป็นจุดพักรถใหม่กำลังสร้าง แวะเยี่ยมซักหน่อยซิ
..... แว๊บ แว๊บ เข้าไปเลย
จุดพักรถแห่งนี้ชื่อ "DREAM" ครับ จำหน่ายกาแฟ เครื่องดื่มและอาหารว่าง และกำลังก่อสร้างส่วนที่จำหน่ายอาหารและของที่ระลึกทางด้านขวามือของอาคารนี้ครับ ได้คุยกับเจ้าของอัธยาศัยดีมากๆ คาดว่าอีก 1 ปี น่าจะเรียบร้อยตามโครงการ ที่นี่ก็คล้ายๆ Route 12 คือ มีบริเวณพักผ่อนเดินเล่นด้านล่างด้วยเช่นกัน
กอเอื้องผึ้งช่อสมบูรณ์มากรอต้อนรับอยู่หน้าร้าน
ทะเลภูเขามองจากหลังร้านดรีม
อีกมุมหนึ่งของทะเลภูเขาหลัง "ดรีม" ที่เห็นเป็นแนวยาวๆ เป็นระเบียบนั่น คือ สวนยางพาราใหม่ อีก 4-5 ปี ก็จะเห็นแนวป่าเป็นแถวๆ เหมือนแถบภาคตะวันออกและภาคใต้ มุมมองคงเปลี่ยนไปอีกรูปแบบหนึ่ง
พอแค่นี้ก่อนครับ ยาวเกินไปแล้ว ไว้ต่อตอน 2 ดีกว่า เกรงใจเจ๊ทิพเค้า
ไว้พบกันภาคที่ 2 เรื่อง วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ครับผม