ขอถามข้อดี ข้อเสีย เรื่องเงินกู้ 2 ล้านล้าน บาท ครับ

กระทู้คำถาม
ไม่ได้ติดตามเรื่องนี้มากหรอกครับ แต่พี่ที่ทำงานถกกันมันส์มากๆเรื่องนี้ ผมก็ไม่กล้าไปถกด้วยเพราะข้อมูลไม่แน่น
จึงอยากขอเก็บข้อมูลจากความคิดเห็นในนี้บ้างครับว่ามีความเห็นอย่างไรบ้างในคำถาม 3 คำถามจากนี้ครับ

1.เงินกู้นี้กู้จากไหนครับต่างประเทศหรือ IMF อีกหรือเปล่า
   / หรือวงเงินกู้ที่สูงขนาดนี้สามารถกู้กับธนาคารแห่งประเทศไทยได้ไหมครับ
  
2. ข้อดีของการกู้เงิน 2 ล้านล้าน คืออะไรครับขอเหตุผลที่ดีที่สุด 1 ข้อ
  *ยกเว้นเรื่องสร้างระบบขนส่งรถไฟความเร็วสูง

อ้อ มาเพิ่มอีกนิดครับ จะได้ยินคำว่าหนี้ต่อหัวคนละหมื่น เกิดมารับเลยหนี้หมื่นนึง คห ส่วนตัวคิดว่ามันเหมือนกับการคิดแบบไม่ค่อยมีวิศัยทัศเท่าไหร่เลยครับ


3.ข้อเสียคืออะไรครับ  ขอเหตุผลที่ดีที่สุด 1 ข้อ
*ยกเว้นเรื่องการโกงกินเงินก้อนนี้ของนักการเมือง


ขอบคุณสำหรับการแชร์ความคิดเห็นครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 17
ตอบข้อ 1
     ท่านไม่ต้องแคร์หรอกว่าจะกู้มาจากไหน  คนส่วนมากยังเข้าใจเรื่องการกู้เงินแบบผิดๆ  ไม่ใช่ว่ารัฐบาลตัดสินใจกู้มาแล้ว ท่านต้องมาแบกรับภาระจ่ายหนี้ มันไม่ใช่แบบนั้น (คำว่าหนี้ต่อหัวมันคือ วาทะกรรม เพื่อหวังผลทางการเมือง )  การจ่ายเงินกู้ก็เอาเงินภาษี หรือ เงินได้จากการส่งออกนั่นแหละไปจ่าย  ไม่ใช่ว่าเพราะไปกู้มาท่านถึงต้องเสียภาษี  ถึงไม่กู้ท่านก็เสียอยู่แล้ว  และถึงกู้ท่านก็ไม่ได้เสียภาษีมากขึ้นแต่อย่างใด  ตราบเท่าที่ รายรับประเทศมากกว่ารายจ่าย  (รายรับ = ส่งออก + ท่องเที่ยว + เงินลงทุนต่างประเทศ )  (รายจ่าย =  นำเข้า + เที่ยวต่างประเทศ + ลงทุนต่างประเทศ  + จ่ายหนี้  )  การบริหารเงินมันต้องมองภาพรวมทั้งระบบ มันก็มีโครงการที่ขาดทุนและได้กำไร แต่เงินที่นำมาใช้ในกิจการในประเทศเงินก็ไม่ออกไปไหน  หมุนเวียนอยู่ในประเทศ ( จะเห็นว่ารัฐบาลพยายามส่งเสริมท่องเที่ยวในประเทศ เพราะเงินไม่รั่วไหล  )  พอเงินหมุนในประเทศรัฐบาลก็ได้เงินกลับมาในรูปแบบการเก็บภาษี  รัฐบาลจ่ายมากก็แปลว่าประชาชนมีรายได้มากขึ้น ประชาชนมีรายได้มากขึ้นก็ต้องเสียภาษีมากขึ้นเช่นการ  ดังนั้นการนำเงินไปลงทุนสร้าง โครงสร้างพื้นฐานไม่ใช่เงินหายไปเลยๆ แต่หมายความว่าท่านได้โครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 2 ล้านล้านมา ซึ่งมูลค่า 2 ล้านล้านในตอนนี้มันจะเพิ่มขึ้นในอนาคต  (  เหมือนท่านกู้เงินไปซื้อรถ ซื้อบ้าน ซื้อคอนโด  ท่านก็ได้รถมาเป็นทรัพสินย์  ท่านสามารถนำไปขายต่อ หรือบริหารต่อได้  เช่น นำรถไปทำเป็น Taxi หารายได้  หรือ  เอาคอนโดไปปล่อยเช่า  หรือขายกินกำไรในอนาคต  9ล9 )  ตรงข้ามกับการกู้เงินของโครงการ "ใครเข้มแข็ง"  ที่ของที่ได้มาไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ต่อได้ ( เช่นเสาธงต้นละ 5 แสนมันดีกว่าเสาธง ธรรมดาอย่างไรทำไมต้องซื้อถึง 5 แสน   หรือ  งบสร้างโรงพักที่ได้มาแต่เสา ถ้าอยากใช้ต้องเอาเงินไปลงทุนต่อให้เป็นโรงพักขึ้นมา  )  

ตอบข้อ 2
     การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมเป็นการกระจายความเจริญไปยังพื้นที่ที่มีการคมนาคมสะดวก (ตัวอย่างง่ายๆเช่นรถไฟฟ้า  ตัดผ่าไปที่ไหน แถวนั้นที่ดินราคาขึ้น  มีตึกรามบ้านช่องเกิดขึ้นมาเพียบ  )    
      ทำไมถึงเป็นแบบนั้น   การเดินทางที่สะดวกช่วยลดเวลาในการขนส่งสินค้า หรือ การเดินทางติดต่อธุรกิจ ( ลองถามตัวเองว่า ทำไมอุตสาหกรรมถึงอยู่ แถว ชลบุรี กรุงเทพ  เพราะการติดต่อธุรกิจสะดวกกว่าใช่หรือไม่ เพราะใกล้ท่าเรือ ใกล้สนามบิน  เพื่อใช้กระจายสินค้าใช่หรือไม่)   ถ้าการคมนาคม การขนส่งสะดวกและรวดเร็ว  บริษัท ห้างร้าน หรือ โรงงานอุตสาหกรรมไม่จำเป็นต้องอยู่ใกล้กรุงเทพอีกต่อไป  พอมีการลงทุนกระจายไปตามต่างจังหวัดในเส้นทางที่คมนาคมสะดวก  การจ้างงานก็ตามมา  พอมีการจ้างงานมากขึ้นในต่างจังหวัด ก็ไม่จำเป็นต้องเข้ามาทำงานในกรุงเทพอีกต่อไป ( ท่านที่อยู่ต่างจังหวัด ลองถามตัวเองว่า ท่านมาทำงานในกรุงเทพเพราะเป็นแหล่งงานขนาดใหญ่ ใช่หรือไม่  )  พอไม่จำเป็นต้องมาทำงานในกรุงเทพ  ความหนาแน่นประชากรลดลง  ปัญหาการจราจรในกรุงเทพก็จะดีขึ้นตามไปด้วย ในระยะยาว  เป็นการกระจายความเจริญสู้ภูมิภาคอย่างแท้จริง (ตอนนี้ยังเหมือนเป็นการรวมอำนาจสู่ศูนย์กลาง ซึ่งมันล้าสมัยไปแล้ว  )

ตอบข้อ 3
     ข้อเสียที่ชัดเจนที่ปฏิเสธไม่ได้คือ การให้การรถไฟบริหาร  ซึ่งผลงานที่ผ่านมาก็เห็นแล้วว่า บริหารแย่แค่ไหน  (เชื่อหรือไม่ถ้า แอรพอร์ทลิงค์เป็น รางคู่ตลอดสายและ มีการเดินรถสม่ำเสมอ  ไม่ต้องรอนาน คนใช้บริการจะมากขึ้นอย่างมาก  ไม่รู้คิดได้ยังไง ทำแอร์พอร์ตลิงค์บางช่วงเป็นรางเดี่ยว  ทำให้ต้องเสียเวลาจอดรอให้รางว่าง เกิดปัญหาล่าช้าเสียเวลา  เดินรถจำนวนมากก็ไม่ได้เพราะ รางเต็ม  )  ซึ่งถ้าถึงเวลาจริงเป็นการรถไฟบริหาร โอกาศเจ๊งค่อนข้างสูง  แทนที่จะได้กำไรรายได้จากส่วนนี้กลับต้องเสียงบประมาณในการดำเนินการและบำรุงรักษาแทน  เหมือน รัฐวิสาหกิจ บางรายที่ไม่สามารถหากำไรได้ยังคงต้องใช้เงินสนับสนุนจากภาครัฐ  และข้อเสีย ของรัฐวิหาหกิจพวกนี้คือ การบริหารงานเหมือนราชการ  คนอายุราชการมากแต่ไม่มีความสามารถได้เงินเดือนสูงไม่คุ้มความสามารถ และการ คอรัปชั่นในรัฐวิสาหกิจค่อนข้างเยอะ   คนมีความสามารถอยู่ไม่ค่อยได้เพราะ อาศัยระบบอาวุโสในการบริหาร  ซึ่งบางครั้งไอ้ผู้อาวุโสนิ ความคิดมันตกยุคไปแล้ว (ไม่แปลกใจใช่หรือไม่ว่า หน่วยราชการ หรือรัฐวิสาหกิจ มีการบริหารงานแบบ เต่าล้านปี)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่