สำหรับหนังที่เก็บรายได้เป็นกอบเป็นกำในเวลานี้ก็คงผ่านช่วงวิกฤตรายได้ขาดทุนไปแล้ว
แต่ในอารมณ์ค้างลึกของผมในหนังพี่มากพระโขนงมันยังมีเรื่องคาใจมากมาย ผมไม่ได้อ่านกระทู้คอมเมนท์อะไรจากข้างล่างนะครับ
แต่ผมจะบอกระบายความรู้สึกที่ได้ชมพี่มากจำนวน 2 รอบ มาติซักเล็กน้อย
เรื่องของคนชมมีอยู่แล้วครับ ก็เรื่องหนังสนุก ตลก ถูกปากคนไทย และรสนิยมของแฟนคลับหนังค่ายนี้ไม่แปลกที่จะทำรายได้ดีวันดีคืน
แต่ในมุมของงานสร้าง ต้องบอกตามตรงว่า ฝีมือผู้กำกับกำลังพัฒนาลง ไม่ใช่ว่าไม่ดี แต่ไม่เอาใจใส่ เพราะคิดว่าหนังตลกก็เลยปล่อยผ่าน
เทียบกับงานสร้าง กวนมึนโฮ งานออกมาแบบสมบูรณ์ ถึงแม้จะมีบ้างที่อืดยืดเบื่อ แต่ผมก็ยังชอบเส้นเรื่องของกวนมึนโฮมากกว่า
เพราะ ด้วยตัวบทที่ไม่ต้องแถอย่างพี่มาก คือเข้าใจว่าจะเล่าพี่มากในมุมใหม่ ๆ แต่ก็มีเรื่องแถอยู่เยอะ ในส่วนที่แถก็จะเป็นมุขที่ไม่ค่อยตลก
ส่วนในมุขที่ไม่แถก็เรียกเสียงหัวเราะได้เท่า ๆ กันทั้งสองรอบ
แถ คือ ยัดคำวัยรุ่นพยายามให้ดูมีสไตล์ของงานผู้กำกับที่เคยโชว์ผลงานมา แต่คำวัยรุ่นกลับแป๊กสนิท ผมสังเกตมาหลายเรื่องผู้ใหญ่จะไม่เก็ตกับภาษาแต่จะเก็ตวิธีการนำเสนอมากกว่าเอาคำมายัดใส่ปาก
ไม่แถ คือ การเล่าเรื่องจากฉากต่อฉากได้ผลเป็นอย่างมากเช่น เรื่องความฝันแล้วไปเจอความจริง นี่คือมุขคลาสลิคที่ดูแล้วต้องขำ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังแอบชมหนังพี่มากที่ทำให้ผมรู้สึกไม่ค่อยเสียดายเงินเวลาซื้อตั๋วดู รอบแรกเสียเต็ม รอบสองMKช่วยลด80
แต่ในมุมกลับพี่มาก ไม่ได้วิเศษวิโสเลย ไม่ได้เรียกเสียงหัวเราะได้อย่างหนักหน่วง ทำได้เพียงบทสรุปที่แปลกใหม่ตามสไตล์หนังค่ายนี้
ที่ทำอะไรก็ได้ไม่ค่อยมีใครด่าหรอก (ขนาดหนังเคาท์ดาวน์ยังได้เข้าชิงผมก็เพลียมาก)
มองกลับกันอีกที ถ้าหนังพี่มาก ตกไปอยู่ในมือของค่ายเล็ก ๆ ที่กำลังเติบโต ถามจริง ๆ จะมีคนเชื่อและแห่เข้าไปดูขนาดนี้เหรอ
ไม่มีทาง แค่ตั้งชื่อ พี่มากพระโขนง ถ้าเป็นค่ายเล็กก็เตรียมเจ๊งได้เลยในข้อหาไปล้อเลียนตำนานรักของแม่นาค
ว่ากันเป็นข้อ ๆ
นักแสดง เรื่องนี้เป้าหมายไปที่ไอ้เผือกคนเดียวล้วน ๆ คนดูรอจังหวะขำไอ้เผือกคนเดียว ส่วนคนอื่นแป๊กสนิท , ส่วนเต๋อก็มีขำแค่มุขโดนผึ้ง
ต่อย แต่พอเข้าบ้านหาที่ถูกต่อบยุบแทบจะหมดทำเอาหยุดขำไปทันตา (เรื่องนี้ผมเคยด่าตอนตัวอย่างว่าไอ้เผือกเป็นตัวที่น่ารำคาญที่สุด
แต่ไอ้เผือกขำสุด มันพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้คนดูหัวเราะ) พระเอกนางเอกโดนขโมยซีนทันตาเห็น มีก็ฉากสุดท้ายที่พอดึงคนมีส่วนร่วมได้
ถือเป็นสูตรสำเร็จของผู้กำกับที่ทำกวนมึนโฮฉากร้องให้ของสองพระนางยาวปรือออออออออ ทั้งสองเรื่อง
บทภาพยนตร์ เป็นบทธรรมดามาก ๆ แค่เอาคำวัยรุ่นผสมคำโบราณแล้วยัดใส่ปากไปก็แค่นั่นแหละ ซึ่งค่ายอื่นทำอาจจะไม่เนียนเท่า
และมีความเชื่อเท่าค่ายนี้ทำ เส้นเรื่องของบทหนังอืดมากถ้าไม่โกหกตัวเองคนดูจะรู้ว่ามีจังหวะอืดเยอะมาก การเดินเรื่องวนไปวนมา
เพลงประกอบภาพยนตร์ ชอบมากกับเพลงปาลม์มี่ ตรึงอารมณ์ได้แต่ดันไม่สุด ส่วนอีกเพลง แถเอาเงินเข้าค่ายโหลดเพลงจากระบบเติมเงิน
ทำลายหนัง
ผู้กำกับ แทบจะสอบตกในการทำงานเรื่องนี้ คือ ไม่รักษามาตรฐานงานให้ออกมาสมบูรณ์ในมุมโปรดักชั่น คนดูอาจตลกนั่นไม่เถียง
แต่งานสร้างมีรอบรั่วบานตะไท ความต่อเนื่องหลุดกระจุย แต่นั่นคงไม่ทำให้ผู้กำกับคนนี้ตกงานหรอกครับ เพราะถึงตกงานก็มีส่วนแบ่ง
จากรายได้หนังตั้งหลักไปทั้งชีวิตแน่นอน ถ้าไปทำหนังโจวซิงฉือ ผมก็เป็นกำลังใจให้แล้วกันนะครับ ขอให้งานเปรี้ยงลืมกลับค่ายจีทีเอชไปเลย
ฮิฮิ
งานภาพ จัดว่าธรรมดาพื้น ๆ ไม่มีอะไรโดดเด่น เพราะหนังตลกคงไม่ได้เน้นอะไรมากนัก
ปล. ดีใจที่คนไทยดูหนังไทย รอลุ้นคู่กรรมอีกเรื่อง
พี่มากพระโขนงในมุมของผมมากๆๆ
แต่ในอารมณ์ค้างลึกของผมในหนังพี่มากพระโขนงมันยังมีเรื่องคาใจมากมาย ผมไม่ได้อ่านกระทู้คอมเมนท์อะไรจากข้างล่างนะครับ
แต่ผมจะบอกระบายความรู้สึกที่ได้ชมพี่มากจำนวน 2 รอบ มาติซักเล็กน้อย
เรื่องของคนชมมีอยู่แล้วครับ ก็เรื่องหนังสนุก ตลก ถูกปากคนไทย และรสนิยมของแฟนคลับหนังค่ายนี้ไม่แปลกที่จะทำรายได้ดีวันดีคืน
แต่ในมุมของงานสร้าง ต้องบอกตามตรงว่า ฝีมือผู้กำกับกำลังพัฒนาลง ไม่ใช่ว่าไม่ดี แต่ไม่เอาใจใส่ เพราะคิดว่าหนังตลกก็เลยปล่อยผ่าน
เทียบกับงานสร้าง กวนมึนโฮ งานออกมาแบบสมบูรณ์ ถึงแม้จะมีบ้างที่อืดยืดเบื่อ แต่ผมก็ยังชอบเส้นเรื่องของกวนมึนโฮมากกว่า
เพราะ ด้วยตัวบทที่ไม่ต้องแถอย่างพี่มาก คือเข้าใจว่าจะเล่าพี่มากในมุมใหม่ ๆ แต่ก็มีเรื่องแถอยู่เยอะ ในส่วนที่แถก็จะเป็นมุขที่ไม่ค่อยตลก
ส่วนในมุขที่ไม่แถก็เรียกเสียงหัวเราะได้เท่า ๆ กันทั้งสองรอบ
แถ คือ ยัดคำวัยรุ่นพยายามให้ดูมีสไตล์ของงานผู้กำกับที่เคยโชว์ผลงานมา แต่คำวัยรุ่นกลับแป๊กสนิท ผมสังเกตมาหลายเรื่องผู้ใหญ่จะไม่เก็ตกับภาษาแต่จะเก็ตวิธีการนำเสนอมากกว่าเอาคำมายัดใส่ปาก
ไม่แถ คือ การเล่าเรื่องจากฉากต่อฉากได้ผลเป็นอย่างมากเช่น เรื่องความฝันแล้วไปเจอความจริง นี่คือมุขคลาสลิคที่ดูแล้วต้องขำ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังแอบชมหนังพี่มากที่ทำให้ผมรู้สึกไม่ค่อยเสียดายเงินเวลาซื้อตั๋วดู รอบแรกเสียเต็ม รอบสองMKช่วยลด80
แต่ในมุมกลับพี่มาก ไม่ได้วิเศษวิโสเลย ไม่ได้เรียกเสียงหัวเราะได้อย่างหนักหน่วง ทำได้เพียงบทสรุปที่แปลกใหม่ตามสไตล์หนังค่ายนี้
ที่ทำอะไรก็ได้ไม่ค่อยมีใครด่าหรอก (ขนาดหนังเคาท์ดาวน์ยังได้เข้าชิงผมก็เพลียมาก)
มองกลับกันอีกที ถ้าหนังพี่มาก ตกไปอยู่ในมือของค่ายเล็ก ๆ ที่กำลังเติบโต ถามจริง ๆ จะมีคนเชื่อและแห่เข้าไปดูขนาดนี้เหรอ
ไม่มีทาง แค่ตั้งชื่อ พี่มากพระโขนง ถ้าเป็นค่ายเล็กก็เตรียมเจ๊งได้เลยในข้อหาไปล้อเลียนตำนานรักของแม่นาค
ว่ากันเป็นข้อ ๆ
นักแสดง เรื่องนี้เป้าหมายไปที่ไอ้เผือกคนเดียวล้วน ๆ คนดูรอจังหวะขำไอ้เผือกคนเดียว ส่วนคนอื่นแป๊กสนิท , ส่วนเต๋อก็มีขำแค่มุขโดนผึ้ง
ต่อย แต่พอเข้าบ้านหาที่ถูกต่อบยุบแทบจะหมดทำเอาหยุดขำไปทันตา (เรื่องนี้ผมเคยด่าตอนตัวอย่างว่าไอ้เผือกเป็นตัวที่น่ารำคาญที่สุด
แต่ไอ้เผือกขำสุด มันพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้คนดูหัวเราะ) พระเอกนางเอกโดนขโมยซีนทันตาเห็น มีก็ฉากสุดท้ายที่พอดึงคนมีส่วนร่วมได้
ถือเป็นสูตรสำเร็จของผู้กำกับที่ทำกวนมึนโฮฉากร้องให้ของสองพระนางยาวปรือออออออออ ทั้งสองเรื่อง
บทภาพยนตร์ เป็นบทธรรมดามาก ๆ แค่เอาคำวัยรุ่นผสมคำโบราณแล้วยัดใส่ปากไปก็แค่นั่นแหละ ซึ่งค่ายอื่นทำอาจจะไม่เนียนเท่า
และมีความเชื่อเท่าค่ายนี้ทำ เส้นเรื่องของบทหนังอืดมากถ้าไม่โกหกตัวเองคนดูจะรู้ว่ามีจังหวะอืดเยอะมาก การเดินเรื่องวนไปวนมา
เพลงประกอบภาพยนตร์ ชอบมากกับเพลงปาลม์มี่ ตรึงอารมณ์ได้แต่ดันไม่สุด ส่วนอีกเพลง แถเอาเงินเข้าค่ายโหลดเพลงจากระบบเติมเงิน
ทำลายหนัง
ผู้กำกับ แทบจะสอบตกในการทำงานเรื่องนี้ คือ ไม่รักษามาตรฐานงานให้ออกมาสมบูรณ์ในมุมโปรดักชั่น คนดูอาจตลกนั่นไม่เถียง
แต่งานสร้างมีรอบรั่วบานตะไท ความต่อเนื่องหลุดกระจุย แต่นั่นคงไม่ทำให้ผู้กำกับคนนี้ตกงานหรอกครับ เพราะถึงตกงานก็มีส่วนแบ่ง
จากรายได้หนังตั้งหลักไปทั้งชีวิตแน่นอน ถ้าไปทำหนังโจวซิงฉือ ผมก็เป็นกำลังใจให้แล้วกันนะครับ ขอให้งานเปรี้ยงลืมกลับค่ายจีทีเอชไปเลย
ฮิฮิ
งานภาพ จัดว่าธรรมดาพื้น ๆ ไม่มีอะไรโดดเด่น เพราะหนังตลกคงไม่ได้เน้นอะไรมากนัก
ปล. ดีใจที่คนไทยดูหนังไทย รอลุ้นคู่กรรมอีกเรื่อง