สวัสดีครับทุกท่าน
เริ่มด้วยปัจจัยพื้นฐาน
Set มักปรับตัวลงตามฤดูกาลทุกปีในเดือนนี้ จากการจ่ายปันผลของ บมจ จำนวนมาก

เงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง กดดันการส่งออก ซึ่งการประชุม กนง ต้นเดือนนี้น่าจะได้เห็นมาตรการบางอย่างออกมา รวมทั้งการนิ่งเฉยมาตลอดจะเกิดผลเสียต่อGDPแน่นอน

ตลาดปรับตัวแรงจนเกือบเต็มมูลค่าแล้ว upside เหลือน้อยให้ระวังอย่างมากในกลุ่มที่ตัวแดงๆ

Setที่PER18ไม่เสถียร

การเมืองในประเทศและสงครามในคาบสมุทรเกาหลี จะทำให้ตลาดshockได้เนื่องจากไม่รู้ว่าจะเกิดหรือไม่เกิด ถ้าเกิดจะรับไม่ทัน
ปัจจัยทางเทคนิค
Set ในภาพweekมีการปรับฐานลง แนวรับด้านล่างสุด1383จุด ถ้าหลุดจะเสียแนวโน้มขาขึ้นทันที


ถ้าจะไปต่อต้องยืนเหนือ1570จุดได้ในสัปดาห์นี้ ถ้ายืนไม่อยู่ จะไม่กลับไปtest highเดิมแล้วกลับตัวเป็นdown trend
สรุปอย่างนี้ครับ
1.ใครมีหุ้นควรลดportลง หุ้น/เงินสด=30/70
2.ใครไม่มีหุ้นรอช้อนซื้อ โดยก่อนเข้าพิจารณาเป็นรายตัว วันหลังจะพยายามหามาเสนอทุกท่านครับ
3.เก็งกำไรควรเข้าออกเร็วไม่ถือหุ้น และวางstop lossเสมอครับ
ปรับกลยุทธ์ยามเช้าก่อนเปิดตลาด
เริ่มด้วยปัจจัยพื้นฐาน
Set มักปรับตัวลงตามฤดูกาลทุกปีในเดือนนี้ จากการจ่ายปันผลของ บมจ จำนวนมาก
เงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง กดดันการส่งออก ซึ่งการประชุม กนง ต้นเดือนนี้น่าจะได้เห็นมาตรการบางอย่างออกมา รวมทั้งการนิ่งเฉยมาตลอดจะเกิดผลเสียต่อGDPแน่นอน
ตลาดปรับตัวแรงจนเกือบเต็มมูลค่าแล้ว upside เหลือน้อยให้ระวังอย่างมากในกลุ่มที่ตัวแดงๆ
Setที่PER18ไม่เสถียร
การเมืองในประเทศและสงครามในคาบสมุทรเกาหลี จะทำให้ตลาดshockได้เนื่องจากไม่รู้ว่าจะเกิดหรือไม่เกิด ถ้าเกิดจะรับไม่ทัน
ปัจจัยทางเทคนิค
Set ในภาพweekมีการปรับฐานลง แนวรับด้านล่างสุด1383จุด ถ้าหลุดจะเสียแนวโน้มขาขึ้นทันที
ถ้าจะไปต่อต้องยืนเหนือ1570จุดได้ในสัปดาห์นี้ ถ้ายืนไม่อยู่ จะไม่กลับไปtest highเดิมแล้วกลับตัวเป็นdown trend
สรุปอย่างนี้ครับ
1.ใครมีหุ้นควรลดportลง หุ้น/เงินสด=30/70
2.ใครไม่มีหุ้นรอช้อนซื้อ โดยก่อนเข้าพิจารณาเป็นรายตัว วันหลังจะพยายามหามาเสนอทุกท่านครับ
3.เก็งกำไรควรเข้าออกเร็วไม่ถือหุ้น และวางstop lossเสมอครับ