จากโครงการ พระราชบัญญัติเงินกู้ ๒ ล้าน ล้าน และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ของรัฐบาล ถูกโจมตีกระหน่ำจาก พรรค ปชป และสื่อหลักไม่ว่า จะเป็น หนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ อย่างต่อเนื่องและหนักหน่วง คล้ายกับว่า มันจะสร้องความหายนะ ประเทศชาติจะถูกลบออกจากแผนที่โลกอย่างไรอย่างนั้น จะ ใช้หนี กว่า ๕๐ ปีบ้างหละ มีการใช้ วาทะกรรมออกจากปากนักการเมือง มากมายข้อความดังที่เป็นข่าว สร้างความตระหนกตกใจให้กองเชียร์ของ ปชป. ได้พอสมควร แต่ดูเหมือนว่า โครงการนี้ประชาชนก็ได้รับทราบผ่านสื่อที่ไม่ใช่สื่อหลัก ตามช่องทางต่างๆ เท่าที่ประชาชนแสวงหา และตรวจสอบจากการอภิปราย ของพรรคฝ่ายค้านและการตอบของรัฐมนตรี ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา จึงไม่ค่อยหวือหวาตาม การคัดค้านของ สว. ลากตั้งและ ปชป. โครงการจะต้องเดินหน้าต่อไป ดูเหมือนว่า พรรคเพื่อไทย จะมีข้อมูลที่ประชาชนให้การสนับสนุนอยู่ในมือ เชื่อมั่นในการทำงาน เชื่อมั่นในการดำเนินตามโครงการ ดังนั้นผมจึงตั้งข้อสังเกต จากการโหมกระหน่ำของสื่อหลักดังนี้
๑. การที่สื่อหลักออกมากระหน่่ำ อย่างหนัก อาจเป็นการกระทบชิ่งไปถึง องค์กรอิสระที่กำลังจะตรวจสอบรัฐบาลชุดนี้ ทำนองว่า ปล่อยไปไม่ได้นะ จำต้องกระตุ้นให้ องค์กรดังออกมาเบรก ให้ได้ และดูเหมือนว่า องค์กรอิสระ กำลังประเมินอยู่ รัฐบาลอ่อนแอหรือยัง ผมเชื่อว่า ศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน ไม่มี มาตรฐานอะไร ต้องตามใบสั่งเท่านั้น ดัง ที่เคยตัดสินมาแล้ว จะออกไปทางตะแบงก็ได้ จะออกไปตามข้อเท็จจริงก็ได้ เพราะไม่ต้องรับผิดชอบใดๆ พอตัดสินพลาด ก็ออกมายอมรับ ว่าพลาด มันก็เท่านั้นเอง จะแสดง สปิริตเป็นไม่มีอยู่แล้ว ดังนั้นนับว่าเป็นอันตราย อย่างยิ่ง
๒. พรรค ปชป. กล่าวทุกวันหลังอาหาร ว่า จะเกิดความขัดแย้งรุนแรง จะทำให้ประเทศวุ่นวาย ประเทศเดือด ร้อนมากกว่าอากาศ ในเดือนเมษายน เพื่อสร้างความสะพรึงกล้วของการกู้เงิน และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทำให้สื่อหลัก คอลัมน์นิสต์ นักวิชาการบางคน และสื่อออนไลน์กระพือ ใส่เชื้อไฟ เพื่อให้ลุกลาม เกิดการเผชิญหน้าของประชาชน ลำพังถ้ายึดหลักประชาธิปไตยยอมรับเสียงส่วยใหญ่ เคารพเสียงส่วนน้อย ไม่น่าจะมีปัญหา แต่นี่ เสียงส่วนน้อย จะนำพาเสียงส่วนใหญ่ เหมือน ปี ๒๕๔๙-๒๕๕๓
๓. ดูเหมือนว่า ประชาชน ส่วนใหญ่ ค่อนข้างสงบ ค่อนข้างสุขุม ไม่ใคร่ให้ความสำคัญ ของการโหมกระหน่ำของสื่อหลัก ซักเท่าไหร่ อาจเป็นเพราะ ได้รู้เช่นเห็นชาติ ของพวกเขาแล้ว และข่าวต่างๆ ที่กุขึ้นมาก็ซาไปเอง เบาหวิว ในความรู้สึกของประชน ดังนั้นการกระพือข่าวของ สื่อหลัก จะมีบ้างที่อ้างสำนักข่าวต่างประเทศ วิเคราะห์ในทางหายนะของรัฐบาลชุดนี้ แตก็ไม่ได้ผลมาแล้ว ตั้งแต่ ปี ๒๕๕๐ ถึงปัจจุบัน
๔. แปลกใจฝ่ายตรงข้าม รู้แล้วว่า มีการหักหัวคิว ร้อยละ ๔๐ มีการโกงแล้ว ทั้งๆ ที่ โครงการพึ่งจะผ่านวาระแรก แสดงให้เห็นว่า ไทยเข้มแข็ง พวกเขารับไปแล้ว เลยนำมาเป็นตรรกของโครงการพรรคเพื่อไทย ผมงงครับ ใช่ การคอรัปชัน มันเป็นมะเร็งร้าย ทำให้คนที่ได้รับข่าวสาร อ่อนไหวและเชื่อไปแล้วครึ่ง จึงฝากรัฐบาลอย่าให้กระเซ็นเชียวนะ
ครับ สมควรแก่เวลา เชิญอภิปรายได้ โต้แย้งได้ครับ
สื่อกระหน่ำน่าดู
๑. การที่สื่อหลักออกมากระหน่่ำ อย่างหนัก อาจเป็นการกระทบชิ่งไปถึง องค์กรอิสระที่กำลังจะตรวจสอบรัฐบาลชุดนี้ ทำนองว่า ปล่อยไปไม่ได้นะ จำต้องกระตุ้นให้ องค์กรดังออกมาเบรก ให้ได้ และดูเหมือนว่า องค์กรอิสระ กำลังประเมินอยู่ รัฐบาลอ่อนแอหรือยัง ผมเชื่อว่า ศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน ไม่มี มาตรฐานอะไร ต้องตามใบสั่งเท่านั้น ดัง ที่เคยตัดสินมาแล้ว จะออกไปทางตะแบงก็ได้ จะออกไปตามข้อเท็จจริงก็ได้ เพราะไม่ต้องรับผิดชอบใดๆ พอตัดสินพลาด ก็ออกมายอมรับ ว่าพลาด มันก็เท่านั้นเอง จะแสดง สปิริตเป็นไม่มีอยู่แล้ว ดังนั้นนับว่าเป็นอันตราย อย่างยิ่ง
๒. พรรค ปชป. กล่าวทุกวันหลังอาหาร ว่า จะเกิดความขัดแย้งรุนแรง จะทำให้ประเทศวุ่นวาย ประเทศเดือด ร้อนมากกว่าอากาศ ในเดือนเมษายน เพื่อสร้างความสะพรึงกล้วของการกู้เงิน และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทำให้สื่อหลัก คอลัมน์นิสต์ นักวิชาการบางคน และสื่อออนไลน์กระพือ ใส่เชื้อไฟ เพื่อให้ลุกลาม เกิดการเผชิญหน้าของประชาชน ลำพังถ้ายึดหลักประชาธิปไตยยอมรับเสียงส่วยใหญ่ เคารพเสียงส่วนน้อย ไม่น่าจะมีปัญหา แต่นี่ เสียงส่วนน้อย จะนำพาเสียงส่วนใหญ่ เหมือน ปี ๒๕๔๙-๒๕๕๓
๓. ดูเหมือนว่า ประชาชน ส่วนใหญ่ ค่อนข้างสงบ ค่อนข้างสุขุม ไม่ใคร่ให้ความสำคัญ ของการโหมกระหน่ำของสื่อหลัก ซักเท่าไหร่ อาจเป็นเพราะ ได้รู้เช่นเห็นชาติ ของพวกเขาแล้ว และข่าวต่างๆ ที่กุขึ้นมาก็ซาไปเอง เบาหวิว ในความรู้สึกของประชน ดังนั้นการกระพือข่าวของ สื่อหลัก จะมีบ้างที่อ้างสำนักข่าวต่างประเทศ วิเคราะห์ในทางหายนะของรัฐบาลชุดนี้ แตก็ไม่ได้ผลมาแล้ว ตั้งแต่ ปี ๒๕๕๐ ถึงปัจจุบัน
๔. แปลกใจฝ่ายตรงข้าม รู้แล้วว่า มีการหักหัวคิว ร้อยละ ๔๐ มีการโกงแล้ว ทั้งๆ ที่ โครงการพึ่งจะผ่านวาระแรก แสดงให้เห็นว่า ไทยเข้มแข็ง พวกเขารับไปแล้ว เลยนำมาเป็นตรรกของโครงการพรรคเพื่อไทย ผมงงครับ ใช่ การคอรัปชัน มันเป็นมะเร็งร้าย ทำให้คนที่ได้รับข่าวสาร อ่อนไหวและเชื่อไปแล้วครึ่ง จึงฝากรัฐบาลอย่าให้กระเซ็นเชียวนะ
ครับ สมควรแก่เวลา เชิญอภิปรายได้ โต้แย้งได้ครับ